เปิด5ทำเลทองที่ดินสมุทรปราการนำโด่ง โครงสร้างพื้นฐานขยาย
ศูนย์ข้อมูลอสังหาริมทรัพย์ (REIC) ธนาคารอาคารสงเคราะห์ (ธอส.) พบว่าทำเลในเขตกรุงเทพมหานครและปริมณฑล ไตรมาสที่2มีอัตราการขยายตัวของราคาที่ดินเพิ่มขึ้นสูงสุด 5 อันดับแรก ในไตรมาสที่ 2 ปี 2568 เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน (YoY) มีดังนี้
อันดับ 1 ได้แก่ ที่ดินในเมืองสมุทรปราการ-พระประแดง-พระสมุทรเจดีย์ ที่มีอัตราการเปลี่ยนแปลงของราคาที่ดินสูงขึ้นร้อยละ 39.6 เนื่องจากเป็นทำเลที่มีการขยายโครงสร้างพื้นฐานของเมืองเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง และสามารถเดินทางเข้าสู่ใจกลางเมืองและ EEC ได้สะดวก
อันดับ 2 ได้แก่ ที่ดินในเขตบางกรวย-บางใหญ่-บางบัวทอง-ไทรน้อย ที่มีอัตราการเปลี่ยนแปลงของราคาที่ดินสูงขึ้นร้อยละ 38.0
อันดับ 3 ได้แก่ ที่ดินในนครปฐม ที่มีอัตราการเปลี่ยนแปลงของราคาที่ดินสูงขึ้นร้อยละ 15.5
อันดับ 4 ได้แก่ ที่ดินในเขตบางพลี-บางบ่อ-บางเสาธง ที่มีอัตราการเปลี่ยนแปลงของราคาที่ดินสูงขึ้นร้อยละ 15.4
อันดับ 5 ได้แก่ ที่ดินในเขตราษฎร์บูรณะ-บางขุนเทียน-ทุ่งครุ-บางบอน-จอมทอง ที่มีอัตรา
การเปลี่ยนแปลงของราคาที่ดินสูงขึ้นร้อยละ 11.0
ทั้งนี้ การเปลี่ยนแปลงราคาที่ดิน 5 อันดับแรกได้สะท้อนให้เห็นว่า ที่ดินในพื้นที่ปริมณฑลมีการเปลี่ยนแปลงเพิ่มขึ้นอย่างชัดเจน เนื่องจากการขยายตัวของเมือง ซึ่งได้รับแรงสนับสนุนจากการพัฒนาขยายทางหลวงพิเศษระหว่างเมือง การก่อสร้างโครงการรถไฟฟ้า ประกอบกับราคาที่ดินในพื้นที่ปริมณฑลยังคงมีราคาไม่สูงมากนัก และสามารถนำไปใช้พัฒนาโครงการที่อยู่อาศัยแนวราบที่สอดคล้องกับความสามารถในการซื้อของผู้ที่ต้องการที่อยู่อาศัยแนวราบได้
ขณะที่ทำเลใจกลางเมืองซึ่งมีที่ดินเปล่ารอการพัฒนามีจำนวนจำกัด จึงทำให้การซื้อขายที่ดินที่มีขนาดแปลงไม่ใหญ่มีมูลค่าสูง โดยช่วงที่ผ่านมามีการก่อสร้างโครงการ Mixed-use ตลอดแนวรถไฟฟ้าหลายโครงการทำให้ผู้ประกอบการที่มีที่ดินเปล่า (Land Bank) ชะลอการลงทุนเพื่อรอดูสถานการณ์และรอจังหวะที่ตลาดกลับมาเอื้อต่อการลงทุน
อย่างไรก็ตามภาพรวมของดัชนีราคาที่ดินเปล่าก่อนการพัฒนา ในกรุงเทพฯ - ปริมณฑล ไตรมาสที่ 2 ปี 2568พบว่ามีค่าดัชนีเท่ากับ 415.2 จุด เพิ่มขึ้นร้อยละ 4.3 เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน (YoY) และแต่ลดลงร้อยละ -4.1 เมื่อเทียบกับไตรมาสก่อนหน้า (QoQ) การปรับตัวลดลงเมื่อเทียบกับไตรมาสก่อน
ส่วนหนึ่งเป็นผลมาจากความไม่แน่นอนของนโยบายเศรษฐกิจสหรัฐอเมริกา ที่ส่งผลให้เศรษฐกิจโลกและเศรษฐกิจไทยชะลอตัว ขณะเดียวกัน การเลื่อนประกาศใช้ผังเมืองรวมกรุงเทพมหานคร ฉบับปรับปรุงครั้งที่ 4 จากปี 2569 ไปเป็นปี 2570 ยิ่งเพิ่มความไม่ชัดเจนเรื่องการใช้ประโยชน์ที่ดินในอนาคต ทำให้ผู้ประกอบการหลายรายชะลอการตัดสินใจสะสมที่ดิน (Land Bank)
นอกจากนี้ ภาระจากภาษีที่ดินและสิ่งปลูกสร้าง ยังเป็นปัจจัยสำคัญที่เพิ่มต้นทุนการถือครอง ส่งผลให้บางรายทยอยขายที่ดินเพื่อลดภาระค่าใช้จ่าย ขณะที่ผู้พัฒนาโครงการบางส่วนได้ปรับกลยุทธ์ กระจายการลงทุนไปยังหัวเมืองหลักในภูมิภาคและจังหวัดท่องเที่ยวที่มีศักยภาพสูง เช่น ภูเก็ต ชลบุรี ระยอง และเชียงใหม่ ส่งผลให้อัตราการปรับเพิ่มของราคาที่ดินในเขตกรุงเทพฯ – ปริมณฑลชะลอตัวลงเมื่อเทียบกับช่วงที่ผ่านมา อย่างไรก็ตาม ความต้องการที่ดินเปล่าในพื้นที่ปริมณฑลยังคงขยายตัวอย่างต่อเนื่อง
เพื่อรองรับการพัฒนาโครงการจัดสรรที่อยู่อาศัยสำหรับผู้มีรายได้ปานกลางถึงสูง ส่งผลให้ราคาที่ดินปรับตัวเพิ่มขึ้น โดยเฉพาะในบริเวณ เมืองสมุทรปราการ–พระประแดง–พระสมุทรเจดีย์ ซึ่งมีอัตราการเปลี่ยนแปลงของราคาสูงถึงร้อยละ 39.6 เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน (YoY) เช่นเดียวกับที่ดินตามแนวเส้นทางรถไฟฟ้าสายสีเขียว ทั้งช่วง สมุทรปราการ–บางปู และ แบริ่ง–สมุทรปราการ ที่มีอัตราการเปลี่ยนแปลงเพิ่มขึ้นร้อยละ 39.6