‘เจ้าคณะใหญ่หนเหนือ’ ย้ำเร่งสร้างความเข้าใจ ‘เจ้าอาวาส’ จัดทำบัญชีเงินวัด
เมื่อวันที่ 26 ก.ค. สมเด็จพระมหาธีราจารย์ กรรมการมหาเถรสมาคม (มส.) เจ้าคณะใหญ่หนเหนือ เจ้าอาวาสวัดพระเชตุพนวิมลมังคลาราม เป็นประธานเปิดการประชุมพระสังฆาธิการ ในเขตปกครองคณะสงฆ์หนเหนือ โดยมี เจ้าคณะภาค รองเจ้าคณะภาค ที่ปรึกษาเจ้าคณะภาค เจ้าคณะจังหวัด รองเจ้าคณะจังหวัด เลขานุการเจ้าคณะใหญ่ เลขานุการเจ้าคณะภาค เลขานุการรองเจ้าคณะภาค เลขานุการเจ้าคณะจังหวัด เป็นต้น เข้าร่วมประชุมที่วัดพระเชตุพนฯ
สมเด็จพระมหาธีราจารย์ กล่าวว่าเปิดการประชุม ว่า เมื่อเราได้รับความวางใจ และการพิจารณาให้ดำรงตำแหน่งหน้าที่แล้ว พึงปฏิบัติหน้าที่โดยสุจริตและควาเสียสละ พึงเห็นประโยชน์ส่วนรวมมากกว่าประโยชน์ส่วนตน เพื่อเกื้อกูล สงเคราะห์แก่พระภิกษุสามเณร ประชาชนและชาวโลก เพื่อน้อมถวายเป็นพุทธบูชา โดยขอกำชับให้ เจ้าคณะภาค และเจ้าคณะจังหวัด กำกับควบคุม ดูแลการปฏิบัติหน้าที่ ดังนี้ 1.การปกครองคณะสงฆ์ ต้องควบคุม กำกับดูแล และเข้มงวดกวดขันให้เป็นไปตามพระธรรมวินัย กฎหมาย กฎมหาเถรสมาคม ข้อบังคับ ระเบียบ คำสั่ง มติ ประกาศ และพระบัญชาสมเด็จพระสังฆราช อย่างเคร่งครัด 2. ขอเน้นย้ำให้เจ้าคณะภาค เจ้าคณะจังหวัด เร่งสร้างความเข้าใจกับเจ้าอาวาสทุกวัดในเขตปกครองของตน ให้เร่งดำเนินการตามมติมหาเถรสมาคม เรื่องแนวปฏิบัติการเปิดบัญชีเงินฝากธนาคาร การเบิกถอนเงินจากบัญชีเงินฝากธนาคารของวัด และแนวทางการจัดทำบัญชีรายรับ รายจ่าย รายงานเงินคงเหลือของวัด หรือระบบบัญชีมาตรฐานของวัด
เจ้าคณะใหญ่หนเหนือ กล่าวต่อไปว่า 3.พึงควบคุม สนับสนุน ส่งเสริมการรักษาความเรียบร้อยดีงาม ด้านการศึกษา การศึกษาสงเคราะห์ การเผยแผ่พระพุทธศาสนา การสาธารณูปการ และด้านการสาธารณสงเคราะห์ ให้ทันต่อสถานการณ์ ดำเนินการไปด้วยดี และขอให้มุ่งเน้นการส่งเสริมสนับสนุนงานศาสนศึกษา ทั้งแผนกธรรม-บาลี เป็นกรณีพิเศษ และส่งเสริมแผนกการศึกษาพระปริยัติธรรมแผนกสามัญศึกษา เพื่อสนองพระราชศรัทธาของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ที่พระองค์ทรงให้ความสำคัญอย่างสูงสุด 4. แก้ไขข้อขัดข้องของคณะสงฆ์ของพระสังฆาธิการ พระภิกษุสามเณรในเขตปกครองของตน ให้เป็นไปโดยชอบตามพระธรรมวินัย และกฎหมาย 5.ควบคุมบังคับบัญชา เจ้าคณะ เจ้าอาวาส ตลอดถึงพระภิกษุสามเณร ผู้อยู่ใต้บังคับบัญชา โดยชี้แจงแนะนำให้เป็นปฏิบัติหน้าที่ และวางตนให้เหมาะสมกับสมณเพศ รักษาไว้ซึ่งศรัทธาที่งดงาม 6. หมั่นตรวจการและประชุมพระสังฆาธิการโดยมีแผนการดำเนินงานที่ชัดเจน และต้องดำเนินการอย่างต่อเนื่อง พร้อมกันนี้ ขอให้ร่วมกันพัฒนาต่อยอดงานหน่วยอบรมประชาชนประจำตำบล (อ.ป.ต.) ซึ่งคณะสงฆ์หนเหนือ ได้ดำเนินงานมาอย่างเป็นรูปธรรม ประสานสัมพันธ์กันระหว่างหน่วยงานทุกหน่วย เพื่อให้งานก้าวหน้าไปพร้อมเพรียงกัน ซึ่งโดยที่สุดแล้ว วัดและพระสงฆ์จะเป็นที่พึ่งทางปัญญาแก่สังคม สามารถให้คำแนะนำในสิ่งที่เป็นประโยชน์สุขแก่พระภิกษุสามเณร ประชาชน ชุมชน สังคม ประเทศชาติ