‘Philosophy you can wear: เมื่อศิลปะ ผสมผสานกับงานเครื่องประดับ สู่หมุดหมายใหม่ที่น่าจับตา’

Matara Studio เปิดตัวคอลเล็กชันใหม่ล่าสุด Shadow Man Collection การผสมผสานระหว่างงานศิลปะร่วมสมัยและความงดงามของเครื่องประดับชั้นสูง จนกลายเป็นงานศิลปะที่สวมใส่ได้

Matara x Chekh เกิดจากการร่วมมือกันระหว่างแบรนด์เครื่องประดับไข่มุกที่มีชื่อเสียงของไทย “Matara Studio” และศิลปินนานาชาติ “อันนา เชค” (Anna Chekh) เจ้าของผลงานประติมากรรม Shadow Man ที่เคยจัดแสดงมาแล้วทั้งในเวนิสและนิวยอร์ก

ก่อนที่จะมาเปิดตัวเต็มรูปแบบในกรุงเทพฯ ที่ร้าน Matara Boutique, Gaysorn Village คอลเล็กชันนี้ได้ไปเปิดตัวรอบพิเศษที่งาน Art Nights ในย่าน DIFC ของดูไบ ซึ่งเป็นแหล่งรวมของงานศิลปะและงาสแฟชั่นระดับโลก

คอลเล็กชัน Shadow Man จะเปิดตัวในประเทศไทยตั้งแต่วันที่ 12 กรกฎาคม 2025 ที่ Matara Boutique, Gaysorn Village

จุดเด่นของคอลเลกชันนี้คือการผสมผสานระหว่าง “ศิลปะ” และ “เครื่องประดับ” ทุกชิ้นทำจากเงินแท้ 925 และตกแต่งด้วยไข่มุกแท้ ออกแบบให้เหมือนเป็นงานประติมากรรมขนาดเล็กที่สามารถสวมใส่ได้ โดยคอลเล็กชันนี้นิยามขีดจำกัดของเครื่องประดับขึ้นไปอีกขั้น ผ่านความประณีตของไข่มุกกับงานศิลปะ จนกลายมาเป็นรูปปั้นขนาดเล็กที่เต็มไปด้วยปรัชญา ความรู้สึก และเรื่องราวของมนุษย์ผ่านเครื่องประดับ

รายละเอียดของชิ้นเครื่องประดับ

- Connection — สร้อยคอที่แสดงถึงการสนทนาและประกายแห่งการมีปฏิสัมพันธ์ของมนุษย์

- Society — ชุดจี้และแหวนที่สะท้อนถึงสมดุลระหว่างบุคคลและกลุ่ม

- Family — ต่างหูและแหวนที่แสดงถึงความลึกซึ้งทางอารมณ์และความกลมกลืนภายในความสัมพันธ์ที่ใกล้ชิด

- Generations — เข็มกลัดที่แสดงถึงมรดก, ความต่อเนื่อง, และประสบการณ์ที่เป็นวงจร

- Legacy — สร้อยข้อมือที่เป็นเกียรติแก่แสงสว่างภายในที่เราส่งต่อ

นอกจากนี้ยังมี Shadow Man รุ่นลิมิเต็ดอิดิชั่น ที่ได้แรงบันดาลใจจากไข่มุก ขยายเรื่องราวของคอลเล็กชันด้วยการเชื่อมโยงศิลปะที่สวมใส่ได้กับประติมากรรมเชิงแนวคิด

เกี่ยวกับ “มธรา”

มธรา (Matara) เริ่มต้นขึ้นจาก3 สาวเพื่อนรักที่คบหากันมายาวนาน และเมื่อเรียนจบ จึงมีการรวมตัวกันขึ้นเพื่อเริ่มทำธุรกิจในสิ่งที่เธอรัก ซึ่งก็คือเครื่องประดับที่ทำจากไข่มุกแท้ ภายใตัชื่อ มธรา (Matara) ในปี 2014 และเป็นเครื่องประดับแบรนด์ไทยที่ได้สร้างชื่อเสียงอย่างรวดเร็วในด้านความเป็นเลิศด้วยฝีมือประณีตและการสร้างสรรค์ของเครื่องประดับที่โดดเด่นและน่าจับตามอง

ในช่วงแรกของการก่อตั้ง มธรา ถือเป็นแบรนด์คลื่นลูกใหม่ของวงการเครื่องประดับไข่มุก จากความสร้างสรรค์ที่ผสมผสานความหลากหลายที่แตกต่างกันของไข่มุกเข้ากับการออกแบบที่เรียบหรูประณีตและร่วมสมัย จึงทำให้ในปี 2015 มธรา ประสบความสำเร็จด้วยการเปิดตัวครั้งแรกในตลาดลอนดอน จึงเป็นจุดเริ่มต้นที่ทำให้แบรนด์เริ่มขยายสู่ระดับสากล เช่น ปารีส นิวยอร์กและเอเชียตะวันออกเฉียงใต้

การเติบโตของ มธรา ยังคงขยายต่อสู่ตลาดที่กว้างขึ้นเมื่อได้จับมือร่วมกันกับ S.Maneephand หนึ่งในผู้ผลิตเครื่องประดับชั้นนำของเอเชีย คู่หูผู้ทรงพลังที่ได้ร่วมออกแบบชิ้นงานที่โดดเด่นซึ่งได้รับแรงบันดาลใจจากธรรมชาติ สถาปัตยกรรมและความมีระดับ เมื่อไข่มุกและเพชรแท้ได้มาอยู่คู่กันใน Collection Matara Fine Jewelry

และด้วยเสียงตอบรับจากลูกค้าทั้งในและต่างประเทศที่ดีเสมอมา จึงทำให้ มธรา เติบโตในวงการเครื่องประดับอย่างต่อเนื่อง ด้วยความ timeless และความ feminine ของไข่มุก ผสมผสานกับการออกแบบและความงามตามธรรมชาติของมาเธอร์ออฟเพิร์ล (Mother-of-Pearl) และความแวววาวของทองคำ 18K ที่ถูกสร้างสรรค์เปรียบเสมือนผลงานศิลปะชิ้นเอก ใน Collection ‘Matara High Jewelry’ ที่เป็นเอกลักษ์เฉพาะตัวของแบรนด์

ปัจจุบัน มธรา มีมากกว่า 30 collection ตั้งแต่ไข่มุกอันเจิดจรัสไปจนถึงเพชรอันตระการตา สำหรับทุกโอกาส และสำหรับมาดามทุกท่านทั่วโลก

เกี่ยวกับ “อันนา เชค”

อันนา เชค ศิลปินร่วมสมัยสัญชาติยูเครนที่มีผลงานครอบคลุมหลากหลายแขนง ทั้งประติมากรรม จิตรกรรม งานจัดวาง และสื่อดิจิทัล ปัจจุบันพำนักอยู่ในประเทศไทย ผลงานของเธอสะท้อนแนวคิดร่วมสมัยผ่านการตีความด้านอารมณ์ ความรู้สึก และสังคม ผ่านผลงานชิ้นไอคอนิกของเธอ Shadow Man ซึ่งนำเสนอภาพลักษณ์ของผู้คนในยุคปัจจุบันที่ซ่อนความรู้สึกไว้ภายในท่ามกลางสังคมที่เต็มไปด้วยความซับซ้อน

ผลงานของ เชค ได้รับการจัดแสดงในเวทีศิลปะระดับโลก เช่น Venice Biennale (2024), Carrousel du Louvre (ปารีส), DIFC Sculpture Park (ดูไบ), Tokyo Tower (โตเกียว) และกำลังมีแผนจัดแสดงในอนาคต ณ Saatchi Gallery (ลอนดอน), Art Miami 2025 (ไมอามี), SculptHampton (นิวยอร์ก)

ในปี 2024 เชค ได้รับการแต่งตั้งเป็นทูตศิลปะของยูเครนโดย UNESCO ภายใต้โครงการ Art Connects Women

และเธอยังได้รับวีซ่า Golden Visa Talents จากรัฐบาลสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ สำหรับบุคคลที่มีศักยภาพด้านศิลปะ และได้รับรางวัลระดับนานาชาติ อาทิ Best Innovative NFTม Best Phygital Art (ดูไบ, 2023–2024)