‘กรณ์’ ชี้เสียภาษีสหรัฐ 19% เตรียมรับมือส่งออกกำไรลด-เงินเฟ้อเพิ่ม
"กรณ์" วิเคราะห์ผลกระทบภาษีสหรัฐจัดเก็บไทย 19% ฟันธงกำไรผู้ส่งออกลดลงแน่นอน เตรียมรับมือเงินเฟ้อจากราคาสินค้านำเข้าสูงขึ้น
นายกรณ์ จาติกวณิช อดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง โพสต์ผ่านเฟซบุ๊ก กรณ์ จาติกวณิช – Korn Chatikavanij หลังจากสหรัฐประกาศจัดเก็นภาษีนำเข้าสินค้าจากไทยในอัตรา 19% โดยระบุว่า
19% จะส่งผลอย่างไร?
ก่อนอื่นขอแสดงความยินดีกับ Team Thailand ที่สุดท้ายช่วยทำให้เราได้อัตราใกล้เคียงกับประเทศในกลุ่ม ASEAN ด้วยกัน
อย่างที่ผมได้แสดงความเห็นไว้เมื่อ 2-3 วันก่อน อัตราภาษีนี้ถือว่าแลกมาด้วยเลือดเนื้อของคนไทย
ในขณะที่ก่อนหน้านี้ไม่ได้มีความชัดเจน ว่าเรามีข้อเสนอที่เข้าตาทรัมป์ จนกระทั่งทรัมป์เห็นโอกาสที่จะได้เล่นบทพระเอกในการเจรจาหย่าศึก การเจรจาจึงสรุปได้ตามที่หลายคนเปรียบเสมือนเป็น Peace Dividend
ที่น่าสังเกตคือ สหรัฐไม่ได้แยกแยะว่าใครผิดใครถูกระหว่างเรากับกัมพูชา ทั้งสองประเทศได้อัตราภาษีเดียวกัน (ทั้ง ๆ ที่เดิมอัตราภาษีที่กัมพูชาถูกกำหนดสูงกว่าเราอยู่ที่ 49%)
เรายังมีการบ้านต้องทำอีกมาก ในการทำความเข้าใจกับชาวโลก อย่างน้อยก็ถือว่าเรายังสามารถยันไว้ไม่ให้กัมพูชาตบตาชาวโลกได้ว่าไทยเราเป็นผู้รุกราน
อย่างไรก็ตาม อัตราภาษี 19% จะทำให้กำไรผู้ส่งออกลดลงแน่นอน เพราะต้องแบกรับภาระภาษีไว้ไม่มากก็น้อย บวกกับปริมาณการบริโภคโดยชาวอเมริกันที่อาจจะลดลงเพราะของแพงขึ้น
จีนน่าจะเหนื่อยที่สุด เพราะจะหนีด้วย transshipment ก็ยากขึ้น ดังนั้นผลต่อไทยเราคือสินค้าราคาถูกจากจีนจะทะลักเข้ามามากขึ้น เตรียมรับมือให้ดี
เราจะเห็นว่าวันสองวันที่ผ่านมาดอลล่าร์แข็งค่าขึ้นเมื่อเทียบกับบาท ส่วนหนึ่งเป็นเพราะแนวโน้ม Fed จะปรับลดดอกเบี้ยช้าลง (เตรียมรับผลเงินเฟ้อจากราคาสินค้านำเข้าที่จะสูงขึ้น)
อีกส่วนเป็นเพราะการคาดการว่า สหรัฐจะมีดุลการค้าที่ติดลบน้อยลงจาก tariff ที่เริ่มมีผล และสุดท้ายคือไทยเองมีแนวโน้มลดดอกเบี้ยชัดเจนมากขึ้นด้วย โดยสรุปผมคาดว่าจากนี้แนวโน้มดอลล่าร์จะแข็งค่าขึ้นได้ อย่างน้อยชั่วคราว
รายละเอียดอื่น ๆ คงต้องรอดูการชี้แจงโดยรัฐบาล ว่าเราได้เสนอเงื่อนไขอะไรให้สหรัฐบ้าง (ควรจะต้องมีการนำเสนอต่อรัฐสภาตามมาตรา 178 รัฐธรรมนูญ)
แต่สำหรับวันนี้ สรุปได้ว่าเราไม่ได้เสียเปรียบเพิ่มเติมจากเรื่อง tariff และท่านรองนายกฯ พิชัย ได้พูดในสิ่งที่ถูกต้อง ทั้งในเรื่องการเร่งเตรียมมาตรการเยียวยาผู้ประกอบการด้วยวงเงินสินเชื่อ และความจำเป็นที่เราต้องเร่งพัฒนาตัวเองให้แข่งขันได้ในอนาคต
ส่วนทรัมป์เป็นผู้ชนะชัดเจนที่สุด ประสบความสำเร็จในการรีดภาษีได้ปีละ 3-5 แสนล้านดอลลาร์จากคู่ค้าทั่วโลก และทำให้โลกเข้าใจแจ่มชัดว่า ในยุคนี้คำว่ามิตรภาพไม่สำคัญ มีแต่ผลประโยชน์ที่แลกกัน
ในบริบทนี้ เราอย่าหวังพึ่งใคร ถ้าเรายังไม่พัฒนาตัวเอง เราจะเสียเปรียบมากขึ้นเรื่อย ๆ
อ่านข่าวเพิ่มเติม
- จบดีล 'ภาษีทรัมป์' 19% หนุนมุมมองเศรษฐกิจไทยปี 2568 ขยายตัว 1.5%
- ปิดดีล 'ภาษีทรัมป์' สำเร็จ!! สหรัฐประกาศเก็บภาษีนำเข้าสินค้าไทยที่ 19%
- ‘พิชัย’ ยันดีล ‘ภาษีสหรัฐ’ ไม่เกี่ยวเรื่องความมั่นคง ชี้ภาษี 19% สู้ประเทศคู่แข่งได้
ติดตามเราได้ที่