กลุ่มโซลาร์สหรัฐฯ เรียกร้องเก็บภาษีโซลาร์อินโดฯ–อินเดีย–ลาว
กลุ่มผู้ผลิตแผงโซลาร์เซลล์ของสหรัฐฯ ยื่นคำร้องต่อกระทรวงพาณิชย์ เพื่อเรียกร้องให้เก็บภาษีนำเข้าจากอินโดนีเซีย อินเดีย และลาว โดยกล่าวหาว่าบริษัทในประเทศเหล่านี้ขายสินค้าราคาถูกเข้าสู่ตลาดเพื่อบ่อนทำลายโรงงานผลิตแห่งใหม่ในสหรัฐฯ
คำร้องดังกล่าวเป็นความพยายามล่าสุดของอุตสาหกรรมการผลิตแผงโซลาร์เซลล์ขนาดเล็กของสหรัฐฯ ในการแสวงหามาตรการเยียวยาทางการค้าเพื่อปกป้องการลงทุนมูลค่าหลายพันล้านดอลลาร์ในช่วงที่ผ่านมา และแข่งขันกับสินค้าที่ผลิตโดยบริษัทจีนในต่างประเทศ
กลุ่มพันธมิตรเพื่อการผลิตและการค้าพลังงานแสงอาทิตย์ของอเมริกา (Alliance for American Solar Manufacturing and Trade) ซึ่งเป็นผู้ยื่นคำร้อง ประกอบด้วยบริษัท First Solar (FSLR.O) ซึ่งมีสำนักงานในเมืองเทมพี รัฐแอริโซนา, Qcells ซึ่งเป็นแผนกพลังงานแสงอาทิตย์ของ Hanwha (000880.KS) จากเกาหลีใต้ และบริษัทเอกชน ได้แก่ Talon PV และ Mission Solar
กลุ่มนี้เคยประสบความสำเร็จในการเรียกร้องให้เก็บภาษีนำเข้าจากประเทศในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ได้แก่ มาเลเซีย กัมพูชา เวียดนาม และไทย โดยภาษีดังกล่าวมีผลบังคับใช้เมื่อต้นปีนี้
คำร้องกล่าวหาว่าบริษัทต่างชาติได้รับเงินอุดหนุนจากรัฐบาลอย่างไม่เป็นธรรม และขายผลิตภัณฑ์ต่ำกว่าต้นทุนการผลิตในสหรัฐฯ
คำร้องระบุว่า บริษัทที่มีเจ้าของเป็นชาวจีนได้ย้ายฐานการผลิตจากประเทศที่เคยถูกสหรัฐฯ เก็บภาษี ไปยังอินโดนีเซียและลาว และยังกล่าวหาว่าผู้ผลิตที่มีสำนักงานใหญ่ในอินเดียขายสินค้าราคาถูกเข้าสู่ตลาดสหรัฐฯ การนำเข้าจากทั้งสามประเทศรวมกันมีมูลค่า 1.6 พันล้านดอลลาร์ในปีที่แล้ว เพิ่มขึ้นจาก 289 ล้านดอลลาร์ในปี 2022 ตามข้อมูลของผู้ยื่นคำร้อง
แผงโซลาร์เซลล์ส่วนใหญ่ที่ติดตั้งในสหรัฐฯ ผลิตจากต่างประเทศ โดยกำลังการผลิตแผงโซลาร์เซลล์ของสหรัฐฯ ได้ขยายตัวอย่างมีนัยสำคัญนับตั้งแต่กฎหมาย Inflation Reduction Act ปี 2022 ได้ให้สิทธิประโยชน์ทางภาษีเพื่อจูงใจให้ลดการพึ่งพาสินค้าจากจีน
ตามข้อมูลของสมาคมอุตสาหกรรมพลังงานแสงอาทิตย์ (Solar Energy Industries Association – SEIA) ระบุว่า กำลังการผลิตแผงโซลาร์เซลล์ในปีนี้แตะระดับ 50 กิกะวัตต์ เพิ่มขึ้นจาก 7 กิกะวัตต์ในปี 2020 เเต่กำลังการผลิตดังกล่าวยังไม่เพียงพอต่อความต้องการของตลาดพลังงานแสงอาทิตย์ในสหรัฐฯ ซึ่งคาดว่าจะติดตั้งโครงการใหม่เกือบ 43 กิกะวัตต์ต่อปีไปจนถึงปี 2030
ทั้งนนี้ กระทรวงพาณิชย์มีเวลา 20 วันในการตัดสินใจว่าจะเริ่มการสอบสวนเพื่อพิจารณาเก็บภาษีหรือไม่ ซึ่งคดีการค้าประเภทยับยั้งการทุ่มตลาดและการอุดหนุนโดยทั่วไปจะใช้เวลาประมาณหนึ่งปีกว่าจะมีผลบังคับใช้ภาษีอย่างเป็นทางการ