นักท่องเที่ยวหลั่งไหลชมปราสาทตาเมือนธมคึกคัก
สำนักข่าวไทย Online
อัพเดต 18 กรกฎาคม 2568 เวลา 19.37 น. • เผยแพร่ 4 ชั่วโมงที่ผ่านมา • สำนักข่าวไทย อสมทสุรินทร์ 18 ก.ค. – นักท่องเที่ยวสองประเทศยังหลั่งไหลไปเที่ยวชมปราสาทตาเมือนธม จ.สุรินทร์ รวมทั้งให้กำลังใจทหารแนวหน้าอย่างต่อเนื่อง ส่งผลเศรษฐกิจท้องถิ่นคึกคัก ขณะที่ตำรวจพร้อมดำเนินคดีหญิงกัมพูชาด่าทหารไทย ด้านนายอำเภอพนมดงรัก ตรวจสอบความคืบหน้าการก่อสร้างหลุมหลบภัย ยันพยายามจะทำให้เสร็จเร็วที่สุด
ทันทีที่เจ้าหน้าที่เปิดให้เข้าไปเที่ยวชมปราสาทตาเมือนธม อ.พนมดงรัก จ.สุรินทร์ มีนักท่องเที่ยวจากทั่วสารทิศทยอยเข้ามามอบสิ่งของบำรุงขวัญทหารแนวหน้า และเข้าไปเที่ยวชมภายในตัวปราสาทอย่างต่อเนื่อง ทำให้บรรยากาศดูคึกคักตั้งแต่เช้าเหมือนเช่นทุกวันที่ผ่านมา
เป็นที่น่าสังเกตว่านักท่องเที่ยวฝ่ายกัมพูชามีกลุ่มวัยรุ่นหัวเกรียน คนหน้าเดิม เข้ามาเป็นประจำ ทั้งภาคเช้าและภาคบ่าย คล้ายๆ กับการจัดตั้ง ส่วนนักท่องเที่ยวชาวไทยล้วนเข้ามาด้วยความสมัครใจ ท่ามกลางกระแสข่าวว่า นโรดม แพน โมนิก้า หญิงกัมพูชาที่ชี้หน้าด่าและไล่ทหารไทย จะกลับเข้าพื้นที่อีกครั้งในวันพรุ่งนี้ (19 ก.ค.) ซึ่งเจ้าหน้าที่เตรียมรับสถานการณ์แล้ว ภายใต้ข้อตกลงที่มีร่วมกันจากเหตุดังกล่าวว่าให้เพิ่มความเข้มงวดในการคัดกรองนักท่องเที่ยวมากขึ้น เพื่อไม่ให้เกิดเหตุความวุ่นวายซ้ำรอยเดิม
ทีมข่าวสำนักข่าวไทยได้รับการเปิดเผยจากพันตำรวจเอก นพดล พินิจอักษร ผู้กำกับการ สภ.พนมดงรัก ว่ามีคนแจ้งความดำเนินคดีนโรดม แพน โมนิก้า แล้ว ซึ่งตำรวจพร้อมเดินหน้าสะสางคดี เพื่อเป็นการยืนยันเขตอธิปไตยไทยด้วย
การเข้าพื้นที่ของนักท่องเที่ยวจำนวนมากทำให้เศรษฐกิจท้องถิ่นของ อ.พนมดงรัก พลอยได้รับอานิสงส์ไปด้วย โดยเฉพาะพ่อค้าแม่ค้าที่มาตั้งเต็นท์ขายสินค้าต่างๆ ที่ได้รับความนิยม เช่น เสื้อยืดสกรีน ภาพทหารพร้อมข้อความ ไทยนี้รักสงบ แต่ถึงรบไม่ขลาด และภาพข้อความปราสาทตาเมือนธม ตัวละ 150 บาท ช่วงหยุดยาว 4 วัน จำหน่ายได้ถึงวันละ 150 ตัว รวมวันละกว่า 20,000 บาท แต่หลังเหตุการณ์ป่วนปราสาท ล่าสุด 3 วัน ขายได้ไม่ถึง 100 ตัว นักท่องเที่ยวบางส่วนยังถ่ายรูปเป็นที่ระลึกพร้อมเข้าไปทดลองใช้หลุมหลบภัยหรือบังเกอร์ ที่สนับสนุนโดยมูลนิธิกัน จอมพลัง ช่วยสู้ จำนวน 4 หลุม รองรับคนได้หลุมละ 70-80 คน
ขณะที่ นายเอกอนันต์ ศรีอินทร์ นายอำเภอพนมดงรัก ได้เดินตรวจสอบความคืบหน้าในการก่อสร้างหลุมหลบภัย บอกว่าพยายามจะทำให้แล้วเสร็จเร็วที่สุด โดยได้รับการสนับสนุนเครื่องจักรจากเจ้าหน้าที่ชลประทาน และกองบัญชาการกองทัพไทย สถานการณ์ชายแดนมีทั้งมุมบวกและลบ พ่อค้าแม่ค้าได้รับอานิสงส์จากการจำหน่ายสินค้าให้นักท่องเที่ยว แต่ขณะเดียวกันเกษตรกรผู้ปลูกแตงโมไม่กล้าลงแปลงปลูก เพราะไม่มั่นใจในสถานการณ์ หากปลูกแล้วต้องละทิ้งเกรงว่าผลผลิตจะได้รับความเสียหาย ซึ่งส่วนราชการที่เกี่ยวข้องกำลังหาทางช่วยเหลือเพื่อเยียวยาผลกระทบ.-สำนักข่าวไทย