“ญี่ปุ่น” อาจถึงขั้นไม่มีกีฬามวยถ้ายังป้องกันนักมวยเสียชีวิตไม่ได้
สำนักข่าวเอเอฟพีรายงานว่า การแข่งขันมวยสากลญี่ปุ่นกำลังอยู่ในช่วงเวลาสำคัญมาก และอาจถึงขั้นต้องยุติลง หากไม่สามารถปรับปรุงระเบียบความปลอดภัยอย่างจริงจัง หลังเกิดเหตุนักมวย 2 รายเสียชีวิตในช่วงเวลาไล่เลี่ยกัน จากการเปิดเผยของประธานคณะกรรมการมวยสากลของญี่ปุ่น
ชิเงโทชิ โคทาริ นักมวยรุ่นซูเปอร์เฟเธอร์เวท และ ฮิโรมาสะ อุรากาวะ รุ่นไลท์เวท ทั้งคู่วัย 28 ปี ขึ้นชกในรายการเดียวกันที่โคราคุเอ็น ฮอลล์ กรุงโตเกียว เมื่อวันที่ 2 ส.ค. และต่างเสียชีวิตในอีกไม่กี่วันต่อมาหลังจากการผ่าตัดสมอง ข่าวนี้สร้างความสะเทือนใจให้กับวงการมวยสากลญี่ปุ่นอย่างมาก โดยทางการกำลังสอบสวนสาเหตุและหารือถึงมาตรการต่างๆ เพื่อป้องกันไม่ให้เกิดโศกนาฏกรรมซ้ำรอย
สึโยชิ ยาสุโคจิ เลขาธิการคณะกรรมการมวยสากลญี่ปุ่น กล่าว่าพวกเขาไม่สามารถปล่อยให้ความผิดพลาดเกิดขึ้นได้ และอนาคตของกีฬานี้ตกอยู่ในความเสี่ยง
"หากเราไม่ปรับปรุงสิ่งต่างๆ กีฬานี้จะไม่สามารถดำเนินต่อไปได้ หากผู้คนที่เกี่ยวข้องกับกีฬานี้ไม่สามารถแก้ไขมันได้ เราจะต้องยุติมัน ผมเข้าใจว่าเรากำลังอยู่ในช่วงเวลาสำคัญที่กีฬาที่มีมานานกว่า 100 ปี อาจสูญหายไป ทุกคนทำงานด้วยความคิดแบบนี้ทุกวัน”
หน่วยงานกีฬามวยสากลของญี่ปุ่นกำลังพิจารณามาตรการใหม่ๆ เพื่อให้กีฬานี้ปลอดภัยยิ่งขึ้นซึ่งรวมถึงการตรวจปัสสาวะเพื่อวัดภาวะขาดน้ำ และกฎระเบียบที่เข้มงวดยิ่งขึ้นเกี่ยวกับการลดน้ำหนักอย่างรวดเร็ว โดยสมาคมมวยสากลโลกระบุว่า ภาวะขาดน้ำที่เกิดจากการลดน้ำหนักอย่างรวดเร็วนั้นถือเป็นปัจจัยหนึ่งที่ทำให้สมองเสี่ยงต่อการมีเลือดออกมากขึ้น
ยาสุโคจิ กล่าวว่าน่าจะมีการประกาศแผนการที่เป็นรูปธรรมในเดือนก.ย. นี้ ระบุอีกว่า "เมื่อคนๆ หนึ่งเสียชีวิต มันคือสิ่งที่ส่งผลกระทบอย่างใหญ่หลวง หากคุณไม่รู้สึกเช่นนั้น แสดงว่าคุณไม่มีคุณสมบัติที่จะเข้าร่วมชกมวย"
การเสียชีวิตของโคทาริและอุรากาวะเกิดขึ้นไม่ถึง 2 ปีหลังจากคาซูกิ อานากุจิ นักมวยชาวญี่ปุ่นอีกราย ที่เสียชีวิตหลังจากชกในเดือนธ.ค. 2023 ที่โตเกียว และเมื่อเดือนพ.ค. ที่ผ่านมา คินจิโร ชิเงโอกะ หมดสติหลังชกที่โอซาก้า ต้องเข้ารับการผ่าตัดสมองและยังอยู่ในอาการโคม่า และเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว นักมวยสมัครเล่นคนหนึ่งในญี่ปุ่นยังไม่ได้สติหลังเข้ารับการผ่าตัดสมองฉุกเฉินหลังการฝึกซ้อม
ยาสุโคจิ เผยทิ้งท้ายว่า "บางคนอาจพูดว่านี่เป็นกีฬาที่อุบัติเหตุแบบนี้สามารถเกิดขึ้นได้ แต่เราคิดแบบนั้นไม่ได้ สิ่งเหล่านี้เกิดขึ้นซ้ำแล้วซ้ำเล่า และเราไม่สามารถมองข้ามมันไปว่าเป็นเรื่องบังเอิญ เราจำเป็นต้องตรวจสอบสาเหตุและจัดการกับผลที่ตามมา"
หมายเหตุ : ภาพในรูปไม่เกี่ยวนักมวยที่เสียชีวิตในข่าว