"ปปง." แถลงยึดทรัพย์! คดี "หมอบุญ-ดิไอคอนกรุ๊ป" และคดีอื่น รวมกว่า 1 พันล้านบาท
นายวิทยา นีติธรรม ผู้ช่วยเลขาธิการคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน (ปปง.) และโฆษก ปปง. เปิดเผยว่า ที่ประชุมประชุมคณะกรรมการธุรกรรม มีมติให้ดำเนินการกับทรัพย์สินในความผิดเกี่ยวกับการฉ้อโกงประชาชน การฉ้อโกงอันมีลักษณะเป็นปกติธุระ และการพนันทางสื่ออิเล็กทรอนิกส์ เป็นต้น
1. ยึดและอายัดทรัพย์สิน จำนวน 53 รายคดี ทรัพย์สิน 1,515 รายการ พร้อมดอกผล มูลค่าประมาณ 1,271 ล้านบาท โดยเป็นทรัพย์สินในคดีสำคัญเกี่ยวกับความผิดมูลฐานเกี่ยวกับการลักลอบหนีศุลกากรการ ฉ้อโกงประชาชน หรือการฉ้อโกงอันมีลักษณะเป็นปกติธุระ และการพนันทางสื่ออิเล็กทรอนิกส์ โดยมีคดีสำคัญ ได้แก่
- คดี นายบุญฯ กับพวก (หมอบุญ)
กรณีความผิดมูลฐานเกี่ยวกับการฉ้อโกงประชาชนฯ ความผิดเกี่ยวกับการกู้ยืมเงินที่เป็นการฉ้อโกงประชาชน และความผิดเกี่ยวกับการฉ้อโกงฯ อันมีลักษณะเป็นปกติธุระ พฤติการณ์จากการอาศัยความน่าเชื่อถือเกี่ยวกับกิจการโรงพยาบาล นำเสนอแผนการระดมเงินทุน มีเจตนาหลอกลวงประชาชน ที่หวังจะได้รับเงินตอบแทนในอัตราสูง
โดยคณะกรรมการธุรกรรม มีคำสั่งให้ยึดและอายัดทรัพย์สินที่เกี่ยวกับการกระทำความผิด จำนวน 370 รายการ (เช่น เงินสด ที่ดิน หุ้น ยานพาหนะ เงินในบัญชีซื้อขายหลักทรัพย์ และเงินในบัญชีเงินฝากธนาคาร) รวมมูลค่าประมาณ 362 ล้านบาท
- คดี บริษัท ดิไอคอน กรุ๊ป จำกัด กับพวก
คณะกรรมการธุรกรรม มีคำสั่งยึดและอายัดทรัพย์สินที่เกี่ยวกับการกระทำความผิดในกรณีดังกล่าวแล้ว รวม 5 คำสั่ง รวมทรัพย์สินที่ดำเนินการ 165 รายการ ราคาประเมินประมาณ 450 ล้านบาท และส่งเรื่องให้พนักงานอัยการพิจารณายื่นคำร้องขอให้ศาลมีคำสั่งเกี่ยวกับทรัพย์สินดังกล่าว รวม 2 สำนวนคดี ตามคดีหมายเลขดำ
ปัจจุบัน อยู่ระหว่างการพิจารณาศาลแพ่ง โดยคณะกรรมการธุรกรรม มีมติส่งเรื่องให้พนักงานอัยการเพื่อยื่นคำร้องขอให้ศาลมีคำสั่งให้ทรัพย์สินตกเป็นของแผ่นดิน จำนวน 207 รายการ (เช่น รถยนต์ เงินสดสินค้าแบรนด์เนม อาวุธปืน ทองรูปพรรณ เครื่องประดับ) มูลค่าประมาณ 171 ล้านบาท
2. ส่งเรื่องให้พนักงานอัยการเพื่อยื่นคำร้องขอให้ศาลมีคำสั่งให้ทรัพย์สินตกเป็นของแผ่นดิน จำนวน 21 รายคดี ทรัพย์สินกว่า 979 รายการ มูลค่าประมาณ 821 ล้านบาท โดยส่วนใหญ่เป็นทรัพย์สินเกี่ยวกับความผิดมูลฐานเกี่ยวกับการพนันทางสื่ออิเล็กทรอนิกส์ และความผิดเกี่ยวกับการฉ้อโกงประชาชน
3. ส่งเรื่องให้พนักงานอัยการเพื่อยื่นคำร้องขอให้ศาลมีคำสั่งให้นำทรัพย์สินไปคืนหรือชดใช้คืนผู้เสียหาย (คุ้มครองสิทธิผู้เสียหาย) จำนวน 33 รายคดี ทรัพย์สินกว่า 537 รายการมูลค่าประมาณ 522 ล้านบาท ในความผิดเกี่ยวกับการฉ้อโกงประชาชน ฉ้อโกงอันมีลักษณะเป็นปกติธุระ