โปรดอัพเดตเบราว์เซอร์

เบราว์เซอร์ที่คุณใช้เป็นเวอร์ชันเก่าซึ่งไม่สามารถใช้บริการของเราได้ เราขอแนะนำให้อัพเดตเบราว์เซอร์เพื่อการใช้งานที่ดีที่สุด

การเมือง

ไทยประณามอีก! เชื่อ ‘กัมพูชา’ วางระบบฝังระเบิดทั่วพื้นที่ชายแดน

เดลินิวส์

อัพเดต 29 สิงหาคม 2568 เวลา 0.49 น. • เผยแพร่ 6 ชั่วโมงที่ผ่านมา • เดลินิวส์
กต. ประณามอย่างรุนแรงที่สุดต่อ ‘กัมพูชา’ หลังใช้ทุ่นระเบิดทำร้ายทหารไทยขาขาดรายที่ 6 เชื่อ ‘เขมร’ วางแผนใช้ทุ่นระเบิดทั่วพื้นที่ชายแดน จงใจละเมิดกฎหมายระหว่างประเทศ วอนคน 2 ประเทศเลี่ยงเผชิญหน้า หวั่นเกิดเหตุปะทะ

เมื่อวันที่ 28 ส.ค. ที่กระทรวงการต่างประเทศ นายนิกรเดช พลางกูร อธิบดีกรมสารนิเทศและโฆษกกระทรวงการต่างประเทศ แถลงถึงสถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา ว่า ตนขอแสดงความเสียใจต่อทหารไทยที่ได้รับบาดเจ็บและทุพพลภาพถาวรจากการเหยียบทุ่นระเบิดสังหารบุคคล PMN-2 ขณะลาดตระเวนพื้นที่ปราสาทตาควาย จ.สุรินทร์ เมื่อวันที่ 27 ส.ค. ที่ผ่านมา ซึ่งเป็นเหตุการณ์ความสูญเสียครั้งที่ 6 ที่เกิดจากอาวุธร้ายแรงที่ไร้มนุษยธรรม ประเทศไทยจึงขอประณามอย่างรุนแรงที่สุดต่อการใช้ทุ่นระเบิดสังหารบุคคลซึ่งถือเป็นการละเมิดอธิปไตยและบูรณภาพแห่งดินแดนไทย อีกทั้งเป็นการกระทำที่ขัดต่อกฎบัตรสหประชาชาติ กฎหมายระหว่างประเทศ โดยเฉพาะอย่างยิ่งกฎหมายมนุษยธรรมระหว่างประเทศ เป็นการละเมิดพันธกรณีภายใต้อนุสัญญาห้ามทุ่นระเบิดสังหารบุคคลอย่างชัดเจน และเป็นการละเมิดข้อตกลงหยุดยิงซ้ำแล้วซ้ำเล่า

โฆษกกระทรวงการต่างประเทศ กล่าวอีกว่า จากเหตุการณ์นี้ จึงเชื่อได้ว่าฝ่ายกัมพูชาน่าจะมีการวางแผนใช้ทุ่นระเบิดอย่างเป็นระบบตลอดพื้นที่ชายแดนไทย-กัมพูชา โดยมีเจตนาคุกคามต่อทหารฝ่ายไทย โดยเฉพาะอย่างยิ่งจากจุดเกิดเหตุอยู่ในพื้นที่ไทยในเส้นปฏิบัติการของฝั่งไทย ทั้งนี้ ตนขอหยิบยกคำพูดของเจ้ากรมกิจการชายแดนทหารที่เคยกล่าวไว้ว่า ทุ่นระเบิดไม่ใช่หลักเขตแดน แต่เป็นอาวุธที่ไร้มนุษยธรรม ทำให้เกิดความทุพพลภาพและคร่าชีวิตผู้คน โดยไม่มีการเตือนล่วงหน้า การวางทุ่นระเบิดของฝ่ายกัมพูชาจึงสะท้อนถึงเจตนาที่ไม่บริสุทธิ์ และเป็นการกระทำที่ไร้อารยะ ขณะเดียวกัน เหตุการณ์ครั้งนี้ตอกย้ำความสำคัญ และความจำเป็นที่ไทยต้องปฏิบัติตามพันธกรณีระหว่างประเทศ ภายใต้อนุสัญญาห้ามทุ่นระเบิดสังหารบุคคล ซึ่งสนับสนุนให้รัฐภาคีต้องแจ้ง หากมีเหตุการณ์ถูกระเบิด ไทยต้องแจ้งให้ประชาคมโลกได้รับทราบถึงพฤติกรรมดังกล่าวของกัมพูชา และขอให้ร่วมกันดำเนินการให้กัมพูชาหยุดการดำเนินการดังกล่าวโดยทันที

นายนิกรเดช กล่าวว่า ขณะเดียวกัน นายมาริษ เสงี่ยมพงษ์ รมว.การต่างประเทศ ยังอยู่ระหว่างการปฏิบัติภารกิจที่นครเจนีวา ประเทศสวิตเซอร์แลนด์ เพื่อชี้แจงข้อเท็จจริงเกี่ยวกับกรณีที่กัมพูชาลักลอบวางทุ่นระเบิด และกระทำการที่ละเมิดกฎหมายระหว่างประเทศให้นานาประเทศได้รับทราบ ทั้งการพบกับเอกอัครราชทูต ผู้แทนถาวรญี่ปุ่นประจำการประชุมด้านการลดอาวุธ ซึ่งเป็นประธานการประชุมรัฐภาคีอนุสัญญาห้ามทุ่นระเบิดสังหารบุคคล ครั้งที่ 22 (อนุสัญญาออตตาวา) และหัวหน้าสำนักงานกิจการลดอาวุธแห่งสหประชาชาติ (UNODA) ณ นครเจนีวา รวมถึงหารือร่วมกับคณะเอกอัครราชทูต ผู้แทนถาวรของประเทศต่างๆ ที่เป็นสมาชิกรัฐภาคีตามอนุสัญญาห้ามทุ่นระเบิดสังหารบุคคล และนายมาริษ จะพบหารือกับประธานคณะกรรมการกาชาดระหว่างประเทศ (ไอซีอาร์ซี) ในวันนี้ (28 ส.ค.) เพื่อแจ้งถึงการละเมิดกฎหมายมนุษยธรรมระหว่างประเทศ รวมถึงอนุสัญญาเจนีวาของฝ่ายกัมพูชาจากการโจมตีโดยไม่เลือกเป้าหมายต่อพลเรือน และสถานที่พลเรือน จนเป็นเหตุให้พลเรือนผู้บริสุทธิ์ต้องบาดเจ็บ และเสียชีวิตหลายคน ซึ่งการที่ รมว.การต่างประเทศ ไปชี้แจงรายละเอียดด้วยตัวเองครั้งนี้ เพื่อทำให้ประชาคมโลกได้เห็นหลักฐานที่หนักแน่น ทั้งหลักฐานโดยประจักษ์และหลักฐานเชิงวิทยาศาสตร์ต่างๆ ก่อนจะดำเนินการตามอนุสัญญาต่อไป

โฆษกกระทรวงการต่างประเทศ กล่าวอีกว่า ส่วนการดำเนินการของฝ่ายไทยในส่วนอื่นๆ นั้น นายเชิดชาย ใช้ไววิทย์ เอกอัครราชทูต ผู้แทนถาวรไทยประจำสหประชาชาติ ณ นครนิวยอร์ก สหรัฐอเมริกา จะเข้าพบนายอันโตนิอู กูแตเรซ เลขาธิการสหประชาชาติ ในช่วงค่ำวันนี้ (28 ส.ค.) ตามเวลาประเทศไทย เพื่อชี้แจงพัฒนาการเกี่ยวกับสถานการณ์ทุ่นระเบิดตามแนวชายแดนไทย-กัมพูชา และติดตามการดำเนินการตามอนุสัญญาออตตาวา หลังจากเอกอัครราชทูตไทยฯ ได้มีหนังสือถึงเลขาธิการสหประชาชาติแล้ว เมื่อวันที่ 22 ส.ค. 2568 ซึ่งจัดส่งข้อมูลเกี่ยวกับการใช้ทุ่นระเบิดสังหารบุคคลของกัมพูชาในเขตแดนของไทย นอกจากนี้ เอกอัครราชทูตไทยและกงสุลใหญ่ไทยที่ประจำการทั่วโลก ยังเดินหน้าชี้แจงข้อเท็จจริงเรื่องทุ่นระเบิด และสถานการณ์ล่าสุดในพื้นที่ชายแดนไทย-กัมพูชา ต่อรัฐบาลประเทศเจ้าบ้านและประเทศในเขตอาณา รวมถึงหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง สื่อมวลชนท้องถิ่น และชุมชนไทยในประเทศนั้นๆ ด้วย

เมื่อถามถึงกรณีที่ประชาชนของไทยและกัมพูชา ชุมนุมและเผชิญหน้ากันในพื้นที่บ้านหนองจาน จ.สระแก้ว นายนิกรเดช กล่าวว่า กระทรวงการต่างประเทศไม่อยากให้เกิดการเผชิญหน้ากันและการสูญเสีย ขณะที่ฝ่ายทหารได้กั้นรั้วเพื่อไม่ให้ประชาชนทั้ง 2 ฝ่ายเผชิญหน้ากัน เพราะการเผชิญหน้าโดยกลุ่มคนนั้น มีความสุ่มเสี่ยงที่จะเกิดการปะทะกันได้ ซึ่งฝ่ายทหารไทยคงไม่ยินยอมให้มีการเกิดเหตุการณ์เช่นนั้นแน่นอน และต้องคุ้มกันคนไทยเป็นสิ่งสำคัญสูงสุด อย่างไรก็ตาม เราขอเรียกร้องให้ประชาชนใช้ความระมัดระวังอย่างมาก และขอให้หลีกเลี่ยงการไปเผชิญหน้า เพราะพื้นที่ชายแดนขณะนี้มีความตึงเครียดสูงอยู่แล้ว

ดูข่าวต้นฉบับ
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...

ล่าสุดจาก เดลินิวส์

ล้วงลึกเส้นเงินวัดพระบาทน้ำพุ! ‘สมปอง’ รับยืมเงิน ‘ทิดจอร์จ’ 13 ล้าน อ้างตาใสไม่รู้เป็นเงินวัด

17 นาทีที่แล้ว

ไทยหอบหลักฐานโชว์เลขาฯUN ชี้ ‘กัมพูชา’ ลอบฝังทุ่นระเบิดในไทย

19 นาทีที่แล้ว

“ฮอนด้า เรซซิ่ง ไทยแลนด์” จัดทัพเต็มสูบ! นำทัพโดย “ชิพ” นครินทร์ ลุยศึก ARRC 2025 สนาม 4 แดนอิเหนา

1 ชั่วโมงที่ผ่านมา

โปรดเกล้าฯ แต่งตั้งตุลาการศาลปกครองสูงสุด 9 ราย

1 ชั่วโมงที่ผ่านมา

วิดีโอแนะนำ

ข่าวและบทความการเมืองอื่น ๆ

ไทยหอบหลักฐานโชว์เลขาฯUN ชี้ ‘กัมพูชา’ ลอบฝังทุ่นระเบิดในไทย

เดลินิวส์

โปรดเกล้าฯ แต่งตั้งตุลาการศาลปกครองสูงสุด 9 ราย

เดลินิวส์

“สม รังสี” แฉยับ “ฮุนเซน” ไม่จริงใจหยุดยิง สร้างปัญหาชายแดนไทย หวังรักษาอำนาจ หนุนปราบ “ทุนเทา” ล้างบางระบบ “ฮุนเซน”

สยามรัฐ

โปรดเกล้าฯ แต่งตั้ง 9 ตุลาการศาลปกครองสูงสุด มีผล 1 ต.ค. นี้

Thairath - ไทยรัฐออนไลน์

ไทย–EU กระชับสัมพันธ์! 'ภูมิธรรม' ชื่นชมบทบาทเอกอัครราชทูต EU ย้ำเดินหน้ายกระดับความร่วมมือ ผลักดันสันติภาพในภูมิภาค

VoiceTV

“จาตุรนต์” ชี้เด็กทุกคนในไทย ไม่ว่าสัญชาติไหน ได้สิทธิคุ้มครองทางการศึกษา

Thairath - ไทยรัฐออนไลน์

ข่าวและบทความยอดนิยม

มาตามนัด! ‘กัน จอมพลัง’ บุกบ้านหนองจาน พร้อมเสิร์ฟรถดูดส้วม 14 คัน หลังเขมรท้า

เดลินิวส์

‘วราวุธ’ ส่งเจ้าหน้าที่เชิญ ‘ด.ช.13 ปี-มารดา’ เข้ามารับความคุ้มครองสวัสดิภาพแล้ว

เดลินิวส์

“พระพยอม” เผยรู้เรื่อง “ทิดอลงกต” ล่วงหน้า 3 ปี ชี้ความโลภเป็นอันตรายต่อทุกสิ่ง

เดลินิวส์
ดูเพิ่ม