ประมวลภาพดินโคลนถล่ม ‘ปางอุ๋ง เชียงใหม่’ พบผู้เสียชีวิตแล้ว 4 ราย สูญหายอีก 5 ราย
วันนี้ (28 สิงหาคม) จากอิทธิพลของพายุโซนร้อนคาจิกิ ส่งผลให้เกิดฝนตกหนักในหลายอำเภอของจังหวัดเชียงใหม่จนเกิดเหตุดินโคลนถล่มและน้ำป่าไหลหลากนั้น เย็นวานนี้ (27 สิงหาคม) ศิวกร บัวป้อง รองผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่ และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ได้ร่วมกันลงพื้นที่สำรวจและติดตามความคืบหน้าความเสียหายและการให้ความช่วยเหลือผู้ประสบภัยในเขตพื้นที่บ้านปางอุ๋ง ตำบลแม่ศึก อำเภอแม่แจ่ม จังหวัดเชียงใหม่
ศิวกรกล่าวว่า พื้นที่เกิดเหตุดินโคลนถล่มและน้ำป่าไหลหลากได้ครอบคลุมพื้นที่ 2 หมู่บ้าน ในตำบลแม่ศึก อำเภอแม่แจ่ม คือ หมู่ที่ 1 บ้านปางอุ๋ง และ หมู่ที่ 18 บ้านปางอุ๋งใหม่ มีบ้านเรือนอยู่ประมาณ 500 ครัวเรือน และมีประชากรประมาณ 2,000 คน โดยเมื่อคืนที่ผ่านมาได้เกิดฝนตกหนัก จึงทำให้มีมวลน้ำและดินโคลนจากบนเขาไหลผ่านลงมากลางหมู่บ้าน ทำให้บ้านเรือนชาวบ้านได้รับความเสียหาย รวมถึงมีผู้ได้รับบาดเจ็บและเสียชีวิต
จากที่ได้ลงพื้นที่สำรวจและรับฟังข้อมูลจากทางอำเภอแม่แจ่มแล้ว พบว่า มีบ้านเรือนที่ได้รับความเสียหายทั้งหลัง จำนวน 8 หลัง และที่ได้รับผลกระทบบริเวณโดยรอบอีกเกือบ 100 หลัง ขณะเดียวกันได้รับการยืนยันว่าพบผู้เสียชีวิตแล้วรวมเป็น 4 ราย แบ่งเป็นชาวบ้านในพื้นที่ 2 ราย และชาวไทยใหญ่ 2 ราย ส่วนผู้ได้รับบาดเจ็บมีทั้งสิ้น 15 ราย โดยยังอยู่ในอาการสาหัส 2 ราย นอกจากนี้ยังมีผู้สูญหายที่ยังต้องค้นหาให้พบอีกจำนวน 5 ราย เป็นชาวไทยใหญ่ทั้งหมด
ทั้งนี้ จากการประเมินสถานการณ์พบว่า ตลอดทั้งวันที่ผ่านมายังมีฝนตกอย่างต่อเนื่อง ทำให้พื้นที่ดินในบริเวณดังกล่าวอาจยังมีความชุ่มน้ำ และอาจเสี่ยงต่อการเกิดดินโคลนถล่มในภายหลังได้อีก จึงได้ให้ประกาศอพยพชาวบ้านที่อยู่ในจุดเสี่ยงออกจากพื้นที่ไปอาศัยอยู่ยังศูนย์พักพิง ซึ่งทางอำเภอแม่แจ่มได้จัดเตรียมศูนย์พักพิงสำหรับรองรับผู้อพยพไว้ที่โรงเรียนบ้านปางอุ๋ง ล่าสุดมีผู้ลงทะเบียนมาเข้าพักแล้วกว่า 50 คน
สำหรับการเคลียร์พื้นที่เสียหายนั้น ได้ประสานให้ อบจ.เชียงใหม่ นำเครื่องจักรกลและเครื่องมือมาช่วยสนับสนุน ขณะเดียวกันยังมีกองกำลังทหาร มูลนิธิต่างๆ และจิตอาสาเข้าช่วยเหลือในการเคลียร์พื้นที่ พร้อมทั้งให้สำนักงาน ปภ.เชียงใหม่ ประสานนำไฟฟ้าและอุปกรณ์ส่องสว่างเข้ามาติดตั้งเพิ่มเติม นอกจากนี้ยังได้ประสานรถน้ำดื่ม น้ำประปา อาหาร และสิ่งของอุปโภคบริโภค มาให้บริการกับผู้ได้รับผลกระทบแล้ว
อ้างอิง: