โปรดอัพเดตเบราว์เซอร์

เบราว์เซอร์ที่คุณใช้เป็นเวอร์ชันเก่าซึ่งไม่สามารถใช้บริการของเราได้ เราขอแนะนำให้อัพเดตเบราว์เซอร์เพื่อการใช้งานที่ดีที่สุด

ธุรกิจ-เศรษฐกิจ

เปิดใจคนไทยในออสฯ เมื่อเกิดกระแสต้านผู้อพยพ เศรษฐกิจออสซี่เป็นอย่างไร?

Amarin TV

เผยแพร่ 5 ชั่วโมงที่ผ่านมา
เปิดใจคนไทยในออสเตรเลีย เมื่อเกิดกระแสต่อต้านผู้อพยพโดยกลุ่ม March for Australia เศรษฐกิจออสซี่วันนี้เป็นอย่างไร? ค่าบ้านเเพง เด็กจบใหม่หางานทําไม่ได้

ออสเตรเลีย ประเทศแห่งความหวังและความฝันของผู้อพยพ ด้วยสภาพภูมิประเทศที่สวยงาม อากาศที่ดี คนเฟรนลี่ ขึ้นชื่อในเรื่องความหลากหลายทางวัฒนธรรมหรือ Multicultural country และค่าแรงขั้นต่ำที่สูงถึง 500 บาท/ ชั่วโมง ($24.95) ด้วยปัจจัยเหล่านี้ทำให้ใครหลายคนใฝ่ฝันอยากไปทำงานที่นั้น

ส่งผลให้ในแต่ละปีออสเตรเลียมีผู้อพยพ (migration) เดินทางเข้าประเทศมากกว่า 500,000 คน ซึ่งบางคนอาจมองว่าฝันร้ายของประเทศที่มีผู้อพยพเยอะ = จะมาแย่งงานคนในประเทศ แต่รู้หรือไม่ ออสเตรเลียเป็นประเทศที่เศรษฐกิจสามารถขับเคลื่อนได้ด้วยผู้อพยพ

เพราะหากใครศึกษาประวัติศาสตร์จะรู้ว่าชนพื้นเมืองที่เป็น first people คือชาว aboriginal people ก่อนที่ชาวผิวขาวจะเข้ามา ซึ่งตอนนี้มีออสเตรเลียมีประชากรกว่า 27 ล้านคน แต่ชาว aboriginal people มีเพียง 1 ล้านคน นั้นก็แปลว่าประชากรกว่า 26 ล้านคนนั้นเป็นผู้อพยพที่เข้ามาตั้งถิ่นฐานที่ออสเตรเลีย

หรือหากถ้าจะพูดถึงเหล่าผู้อพยพใหม่ที่เข้ามาเป็นฟันเฟื่องให้เศรษฐกิจออสเตรเลียหมุนเวียน เช่น เงินจากนักศึกษาต่างชาติที่หลังไหลเข้ามาเรียน (ค่าเทอมแพงกว่าชาวออสซี่กว่า 4 เท่า) หรือ การเข้ามาเติมเต็มกลุ่มสายอาชีพที่ชาวออสซี่ไม่อยากทำ (เช่น เด็กเสิร์ฟ เกษตร เหมืองแร่)

แต่วันนี้ ได้เกิดกระแสต่อต้านผู้อพยพ โดยกลุ่ม March for Australia ซึ่งถือได้ว่าเป็นการประท้วง ทั่ว 8 หัวเมืองใหญ่ของประเทศ แค่ที่ซิดนีย์เมืองเดียวก็มีผู้ประท้วงกว่า 8,000 คน เกิดอะไรขึ้นกับออสเตรเลีย? ประเทศที่ขึ้นชื่อเรื่องความ diversity สูงที่สุด สรุปแล้วออสเตรเลียยังเป็นประเทศแห่งความฝันและความหวังของผู้อพยพหรือไม่?

บทความนี้ SPOTLIGHT ชวนทุกคนมาหาคำตอบ โดยจะมีข้อมูลทั้งข่าว บทสัมภาษณ์พูดคุบกับคุณเบส เจ้าของเพจลักพาตัวเองมาเล่า นักธุรกิจและผู้อพยพไทยสู่ออสเตรเลีย และจากประสบการณ์ส่วนตัวของผู้เขียนที่ได้มีโอกาสไปอยู่ออสเตรเลียกว่า 7 ปี

เกิดอะไรขึ้นที่ออสเตรเลีย ?

หากใครติดตามข่าวโดยเฉพาะใน TikTok จากอินฟลูเอนเซอร์ออสเตรเลีย น่าจะได้เห็นคลิปที่อินฟลูทุกคนต่างอัดคลิปเพื่อกระจายข่าว ‘หากใครไม่มีความจำเป็น ห้ามออกจากบ้าน ในวันที่ 31 ส.ค.68 เพื่อความปลอดภัยของตัวคุณ’

เพราะวันที่ 31 ส.ค.68 ที่ผ่านมา ได้เกิดม็อปกระแสต่อต้านผู้อพยพทั่วออสเตรเลีย ในชื่อว่า “March for Australia” การประท้วงในครั้งนี้ดูใหญ่กว่าทุกครั้งเนื่องจากเกิดขึ้นพร้อมกับทั่ว 8 หัวเมืองใหญ่ของออสเตรเลีย

ทำให้สถานเอกอัครราชฑูตไทย ณ กรุงแคนเบอร์รา ได้ออกประกาศเตือนคนไทยในออสเตรเลียผ่าน Facebook ว่า

“แม้การชุมนุมในออสเตรเลียโดยทั่วไปจะเป็นไปโดยสันติ แต่เนื่องจากกลุ่มผู้ชุมนุมมีข้อเรียกร้องในประเด็นอ่อนไหวต่อรัฐบาลออสเตรเลียให้ลดจำนวนผู้อพยพ ซึ่งรวมถึงนักเรียนและแรงงานต่างชาติ ซึ่งกลุ่มผู้ชุมนุมมองว่าส่งผลให้ค่าครองชีพในออสเตรเลียสูงขึ้น และเนื่องจากยังไม่มีความชัดเจนเกี่ยวกับผู้จัดและผู้เข้าร่วมประชุม ซึ่งมีความเป็นไปได้ว่าอาจมีกลุ่มผู้มีความคิดสุดโต่งรวมอยู่ด้วยในการนี้

สถานเอกอัคราชฑูตจึงขอให้คนไทยในออสเตรเลียใช้ความระมัดระวังอย่างสูงในการเดินทางไปในบริเวณการชุมนุมดังกล่าวหรือพื้นที่ใกล้เคียง ใน 8 เมืองเหล่านี้ “

คำถามคือ กลุ่ม March for Australia ต้องการอะไร ทำไมอยู่ดีๆถึงเกิดการต่อต้านผู้อพยพ ?

จากข้อมูลบน website ของ March for Australia นั้นไม่ได้ระบุชัดเจนว่าวัตถุประสงค์ในการประท้วงคืออะไร หรืออยากเรียกร้องอะไร หรือพูดง่ายๆว่าค่อนข้างมีความคลุมเครือ

คุณเบส ได้เล่าให้ทีม SPOTLIGHT ฟังว่า เมื่อตอนที่ได้เห็นการประกาศว่าจะเกิดการประท้วง March for Australia ตอนแรกค่อนข้างตกใจว่าเกิดอะไรขึ้น เพราะส่วนตัวตนก็เป็นคนไทยที่ได้สัญชาติออสเตรเลียและอยู่ออสเตรเลียมาตั้งแต่เด็กๆก็ไม่เคยเห็นการประท้วงแบบนี้มาก่อนเลยได้มีการหาข้อมูล และพบว่ากลุ่มเหล่านี้คือกลุ่มการเมืองฝ่ายขวาจัด (ชาตินิยมแบบสุดโต่ง) ที่ต้องการลดปริมาณของกลุ่มผู้อพยพต่างชาติที่เข้ามายังออสเตรเลีย แม้ไม่ได้พูดว่าขับไล่ออกไป แต่มันคือการแอนตี้ โดยแต่ละคนที่มีความต้องการที่สิ่งที่ไม่ชอบที่แตกต่างกัน เช่น

  • ไม่เอา refugee ที่เข้ามาแล้วไม่ทำงาน แล้วมาเอาเงินภาษีของพวกเราไปใช้แบบสบายๆ
  • ไม่เอานักเรียนต่างชาติที่เยอะจนเกินไป รัฐบาลควรจำกัด student visa
  • ไม่เอานักลงทุนต่างชาติ
  • ไม่เอานายทุนสัปทานเหมือง

แม้ว่าสิ่งที่ต้องการแตกต่างกันแต่ยอดพีระมิดนั้นคือ = คนต่างชาติ คุณเบส ยังได้เล่าต่ออีกว่า คิดว่าส่วนสำคัญที่ทำให้เกิดการประท้วงในครั้งนี้ คือ “เรื่องเศรษฐกิจ” ไม่ว่าจะเป็น ค่าเช่าบ้านแพง คนหางานทำไม่ได้ เด็กจบใหม่ไม่มีงานทำ ค่าครองชีพสูงไม่สอดคล้องกับรายได้ และเมื่อเศรษฐกิจแย่กลุ่มคนเหล่านี้เลยมองว่า เพราะกลุ่มผู้อพยพเข้ามาแย่งงานพวกเขา

ลองจินตาการเปรียบเทียบตามง่ายๆ เหมือนกับถ้าประเทศไทยเศรษฐกิจแย่ นอกจากการว่ารัฐบาลแล้วเราก็ก็ม็อปประท้วงแรงงานต่างดาวที่เข้ามาทำงานในประเทศไทย เพราะมาแย่งงานคนไทย (แต่บางงานเราคนไทยเองยังไม่อยากทำ ?)

เศรษฐกิจออสเตรเลียตอนนี้เป็นอย่างไร ?

จากข้อมูลของสื่อ SBS ตอนนี้ ออสเตรเลียกำลังเผชิญปัญหาเรื่องปัญหาค่าครองชีพสูง การเข้าถึงที่อยู่อาศัย (ค่าเช่าบ้านแพง) การเปลี่ยนแปลงทางด้านสภาพภูมิอากาศ และด้วยปัจจัยเหล่านี้ส่งผลให้การเกิดของจำนวนประชากร หรือพูดง่ายๆ คือ “เศรษฐกิจแย่ คนไม่อยากมีลูก”

จากข้อมูลของ บริษัท KPMG พบว่า ปี 2024 ที่ผ่านมามีเด็กเกิดใหม่ในออสเตรเลียเพียง 292,500 คน และในระหว่างปี 2019 ถึง 2024 ในเขตเมืองใหญ่มีอัตราการเกิดลดลงชัดเจน โดยจำนวนการเกิดในเมืองหลวงในรัฐต่าง ๆ ลดลงถึง 6.5% โดยปัญหาหลักที่ทำให้คนไม่อยากมีลูก คือเรื่องเศรษฐกิจ ปัญหาการเงิน และค่าครองชีพ โดยเฉพาะคนที่อยู่เมืองใหญ่ๆอย่างซิดนีย์และเมลเบิร์น

คุณเบสได้เล่าให้ทีม SPOTLIGHT ฟังว่า “ตอนนี้ของทุกอย่างแพง ค่าเช่าบ้านแพงขึ้นอย่างน่ากลัว คนกระจุกอยู่แต่ในเมือง จะสร้างเมืองให้ขยายตัวก็ยาก เด็กจบใหม่ไม่มีงานทำ รายได้ไม่สอดคล้องกับค่าใช้จ่าย มันคือความห่วยแตกของเศรษฐกิจที่เกิดขึ้นตอนนี้”

ค่าเช่าบ้านแพง อย่างน่ากลัว

คุณเบสได้เล่าต่อว่า รายได้เฉลี่ยของชาวออสซี่อยู่ที่ประมาณ 55,000-65,000 ออสเตรเลียดอลลาร์ หรือราว 1,160,827 –1,371,886 บาท แต่ตอนนี้ค่าเช่าบ้าน (ในหัวเมืองใหญ่) ก็ตกปีละ 52,000 ออสเตรเลียดอลลาร์ หรือราว 1,097,509 บาท นี่ยังไม่รวมรายจ่ายที่ต้องใช้อื่นๆในชีวิตประจำวัน แล้วมันจะพอได้อย่างไร?

อย่างเพื่อนคุณเบสที่ได้เช่าห้องในเมืองซิดนีย์ 1 ห้องนอน 1 ห้องน้ำในปี 2022 อยู่ที่ 430 ออสเตรเลียดอลลาร์/ สัปดาห์ (หรือราว 9,075 บาท/สัปดาห์) แต่ตอนนี้ปี 2025 ราคาค่าเช่าห้องเดิมขึ้นไปที่ 680 ออสเตรเลียดอลลาร์/ สัปดาห์ (หรือราว 14,352 บาท/สัปดาห์) ขึ้นราคากว่า58% ภายในระยะเวลาเพียงแค่ 3 ปี

จากประสบการณ์ส่วนตัวของผู้เขียนที่เคยได้เช่าบ้านอยู่ที่ซิดนีย์ออสเตรเลีย เมื่อปี 2020 ซึ่งเป็น 2 ห้องนอน 1 ห้องน้ำโลเคชั่นอยู่ใจกลางเมืองติดรถไฟ ข้างล่างมีซุปเปอร์มารเก็ต เคยเช่าอยู่ที่ 600 ออสเตรเลียดอลลาร์/ สัปดาห์ (หรือราว 12,663 บาท/สัปดาห์) ซึ่งในตอนนั้นค่าเช่าเพิ่มขึ้นทุกปี จาก 600 ออสเตรเลียดอลลาร์/ สัปดาห์ ในปี 2020 เป็น 670 ออสเตรเลียดอลลาร์/ สัปดาห์ ในปี 2021 และกลายเป็น 750 ออสเตรเลียดอลลาร์/ สัปดาห์ในปี 2022 และในวันที่ตัดสินใจย้ายออก ทางเจ้าของได้มีการประกาศหาผู้เช่าต่อในเว็ปไซต์ และจะมีผู้เช่าที่สนใจนัดมาดูห้องเรื่อยๆในวันที่เรายังอยู่อาศัย 1 ในวันเคยเปิดห้องให้คนที่สนใจเข้ามาดูมากที่สุดกว่า 30 คน และตอนนี้ห้องเช่าเดิมที่ผู้เขียนเคยอยู่อาศัยราคาพุ่งไปอยู่ที่ 1,200 ออสเตรเลียดอลลาร์/ สัปดาห์ สัปดาห์ (หรือราว 25,327 บาท/สัปดาห์) และยังได้ทราบอีกว่ามีการประมูลแข่งกันเพื่อชิงห้อง เช่นราคาปล่อยเช่า 1,200 ออสเตรเลียดอลลาร์/ สัปดาห์ บางผู้เช่าอยากได้ห้องนี้จริงๆจะมีการเสนอให้เจ้าของด้วยมูลค่าห้องที่เพิ่มขึ้น เช่นผู้เช่ารายนี้ให้ 1,250 ออสเตรเลียดอลลาร์/ สัปดาห์ อีกเจ้าหนึ่งให้ 1,300 ออสเตรเลียดอลลาร์/ สัปดาห์

ส่วนเพื่อนๆของผู้เขียนที่เคยเช่าบ้านอยู่ในเมืองด้วยกันสมัยที่ผู้เขียนยังอยู่ที่ออสเตรเลีย ตอนนี้ก็ได้มีการย้ายจากการอยู่ในเมืองไปอยู่นอกเมืองมากขึ้น ด้วยเหตุผลที่ว่า “สู้ราคาค่าเช่าไม่ไหว แพงเกินไป”

ของกินของใช้ แพง สินค้าขาดตลาด

คุณเบสได้เล่าให้ทีม SPOTLIGHT ฟังในฐานะที่ตนเป็นผู้ประกอบการ เจ้าของธุรกิจร้านขนมหวาน Homm ว่า กลุ่มสินค้าประเภท dairy products (นม เนย ชีส ไข่) มีราคาแพงขึ้นมาก ซึ่งจากปี 2024 ถึงปี 2025 มีราคาเพิ่มขึ้นกว่า 12% แต่ในฐานะที่ตนเป็นเจ้าของร้านขนมหวาน สิ่งเหล่านี้คือสิ่งจำเป็นที่เป็นส่วนผสมหลัก ไม่สามารถซื้อน้อยลงได้ และไม่สามารถลดเกรด ลดคุณภาพของสินค้าได้ เพราะจะส่งผลต่อรสชาติของขนมหวาน

และที่สำคัญไปมากกว่านั้นคือไม่สามารถขึ้นราคาสินค้าได้ และไม่สามารถขอลดเงินพนักงานได้ (เพราะไม่อยากจ่ายต่ำกว่าค่าแรงขั้นต่ำ) สิ่งที่เกิดขึ้นกับผู้ประกอบการคือ การแบกรับต้นทุนที่เพิ่มขึ้น

จากประสบการณ์ส่วนตัวของผู้เขียนที่เคยอยู่ออสเตรเลียมาตั้งแต่ปี 2016 -2023 พบว่าสินค้ามีการปรับราคาขึ้นทุกปีจริง แต่อาจจะไม่ได้ขึ้นราคารุนแรงมาก มีบางครั้งที่สินค้าบางอย่างขาดตลาด เช่นผัก ผลไม้ เนื่องจากปัญหาน้ำท่วม หรือภัยแล้ง ร้านอาหารบางร้านเลือกที่จะปรับราคาขึ้น พร้อมกับติดป้ายประกาศขอความเห็นใจจากผู้บริโภค ว่าต้องปรับราคาสินค้าเพิ่มขึ้น เนื่องจากต้นทุนที่สูงขึ้น

อย่างไรก็ตามสิ่งเหล่านี้เป็นความคิดเห็นจากประสบการณ์ส่วนตัวของผู้เขียนและคุณเบส ที่ได้มีโอกาสไปอยู่ที่ออสเตรเลีย แต่สะท้อนให้เห็นว่า ในวันที่เศรษฐกิจแย่ รัฐบาลไม่มีนโยบายเข้ามาช่วยเหลือเปลี่ยนแปลงได้ ประชาชนย่อมได้รับผลประทบตาม และเมื่อคนมีอารมณ์มีความโกรธเพราะไม่มีกิน ก็ทำให้เกิดกระแสการสร้างชาตินิยม การเรียกร้องเพื่อพวกพ้องของตนเอง อย่างเช่น กลุ่ม March for Australia

ซึ่งก็ต้องยอมรับตามตรงว่าตกใจมากเมื่อเห็นกระแสต่อต้านผู้อพยพ เพราะจากที่เรียนและใช้ชีวิตมากว่า 7 ปี ออสเตรเลียเป็นประเทศที่คนเฟรนลี่ ยอมรับในความแตกต่าง และให้เกียรติกลุ่มคนที่ไม่ได้มีเชื้อชาติเดียวกัน ในมหาลัยก็มี campaign ‘racism is never ok’ ซึ่งผู้เขียนก็ไม่ได้รับประสบการณ์การเยียดสักครั้ง แม้ในช่วงโควิด ไม่ว่าจะเป็นจากเพื่อนออสซี่หรือกลุ่มชาติอื่นๆ และหวังว่ากระแสต่อต้านผู้อพยพในออสเตรเลียจะคลี่คลายได้โดยเร็ว เพราะไม่ว่าคุณจะเชื้อชาติไหน สีผิวไหน ก็ไม่สมควรถูกเหยียดหรือแอนตี้ ตราบใดที่คุณอยู่อย่างถูกกฎหมาย จ่ายภาษีถูกต้อง และไม่ทำผิดต่อใคร Good onya!

ดูข่าวต้นฉบับ
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...

ล่าสุดจาก Amarin TV

SX MARKETPLACE ที่งาน SX2025 ชอปแบบมีสไตล์ และเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม

1 ชั่วโมงที่ผ่านมา

จับตาก่อนสีพบปูติน จีนวางบทบาทอย่างไร ต่อสงครามยูเครนและเมียนมา

1 ชั่วโมงที่ผ่านมา

รัสเซียปิดดีลPower of Siberia 2 สร้างท่อยักษ์ส่งก๊าซไปจีน ลดพึ่งยุโรป

2 ชั่วโมงที่ผ่านมา

ค่าปรับหลักแสน เที่ยวยุโรปต้องรู้! ห้ามเก็บก้อนกรวด-ใส่รองเท้าแตะขับรถ

2 ชั่วโมงที่ผ่านมา

วิดีโอแนะนำ

ข่าวและบทความธุรกิจ-เศรษฐกิจอื่น ๆ

สรุปราคาทองวันนี้ 2 กันยายน 2568

สยามนิวส์

ททท. เปิดตัวแผน Thailand Green Tourism Plan 2030 มุ่งสู่ความยั่งยืนติดอันดับโลก

MATICHON ONLINE

แมคโดนัลด์ ส่งพลังใจให้ผู้ป่วยเด็ก

Manager Online

ภาษีทรัมป์ เหมือนจะจบ แต่..ไม่จบง่ายๆ?

หุ้นวิชั่น

YLG ชี้ทองคำขาขึ้นชัดเจน หลังทำ All New High $3,5O8.33

Wealth Me Up

ดอลลาร์อ่อนค่าแรง ดันทองคำล่วงหน้าปิดนิวไฮ 3,547 ดอลล์ | คุยกับบัญชา | 2 ก.ย. 68

BTimes

ทีเส็บชวนลับคมองค์ความรู้ก้าวทันโลกจัดงานยุคใหม่ มีให้เลือก 27 หลักสูตรไมซ์ เรียนฟรีช่องทาง e-Learning

Manager Online

“รฟม.” เช็กแล้วใน “คลองสำเหร่” ไม่ใช่เศษปูนจากก่อสร้าง “สายสีม่วงใต้”

เดลินิวส์

ข่าวและบทความยอดนิยม

ออสเตรเลียเตรียมรับรอง ‘รัฐปาเลสไตน์’ อิสราเอลชี้เป็นการให้รางวัลฮามาส

Amarin TV

ทูตเตือนด่วน! คนไทยไปอินโดฯ เลี่ยงได้เลี่ยงชุมนุมยังเดือดทั่วประเทศ

Amarin TV

เอ็นเตอร์เทนเมนต์คอมเพล็กซ์ เวียดนามแซงหน้า ไทยติดหล่มเกมการเมือง

Amarin TV
ดูเพิ่ม
Loading...
Loading...
Loading...
รีโพสต์ (0)
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...