ค่าปรับหลักแสน เที่ยวยุโรปต้องรู้! ห้ามเก็บก้อนกรวด-ใส่รองเท้าแตะขับรถ
ค่าปรับโหดหลักหมื่น ยันหลักแสน ! หลายประเทศในยุโรปได้กำหนดบทลงโทษหนักสำหรับ นักท่องเที่ยวที่มีพฤติกรรมไม่เหมาะสม มีกฎข้อบังคับอะไรบ้างที่เราต้องรู้ก่อนแลนดิ้งถึงจุดหมายปลางทาง เรารวบรวมมาให้แล้ว
พฤติกรรมไม่เหมาะสม
ค่าปรับ
สถานที่
ขับรถโดยสวมรองเท้าแตะ / เท้าเปล่า /รองเท้าแตะแบบรัดส้น
สูงสุด 300 ยูโร (11,302 บาท)
สเปน / กรีซ / อิตาลี / ฝรั่งเศส / โปรตุเกส
สวมรองเท้าไม่ตรงตามข้อกำหนด
สูงสุดถึง 2,500 ยูโร (94,187 บาท)
อุทยานแห่งชาติชิงเกว แตร์เร อิตาลี
สวมชุดว่ายน้ำนอกชายหาด
สูงสุด 1,500 ยูโร (56,512 บาท)
บาร์เซโลนา (สเปน) / อัลบูเฟรา (โปรตุเกส) / สปลิท (โครเอเชีย) / ซอร์เรนโต, เวนิส (อิตาลี) / คานส์ (ฝรั่งเศส)
ดื่มแอลกอฮอล์ในที่สาธารณะ
สูงถึง 3,000 ยูโร (113,025 บาท)
มายอร์กา , อิบิซา, มากาลุฟ, หมู่เกาะคานารี (สเปน)
เก็บเปลือกหอย / หินออกจากชายหาด
1,000 ยูโร (37,675 บาท)
กรีซ
ว่ายน้ำในคลอง
350 ยูโร (13,186 บาท)
เวนิส (อิตาลี)
ก่อความรำคาญบนเครื่องบิน
500 ยูโร (18,837 บาท)
บนเครื่องบิน เดินทางด้วยสายการบิน Ryanair
สูบบุหรี่ที่สาธารณะ
สูงสุด 135 ยูโร (5,086 บาท)
ปารีส (ฝรั่งเศส)
วางผ้าขนหนูจองที่นั่ง / เตียงอาบแดด เป็นเวลานาน
สูงสุดง 250 ยูโร (9,418 บาท)
สเปน
หมายเหตุ : ค่าเงินบาท อ้างอิงอัตราแลกเปลี่ยนประจำวันที่ 2/9/68
ค่าปรับจากการสวมชุดว่ายน้ำนอกชายหาดในโปรตุเกส
เที่ยวเมืองริมหาด ใช้ชุดว่ายน้ำ แต่เดินเปลือยบางส่วน หรือเปลือยทั้งหมดในพื้นที่สาธารณะจะถูกปรับเป็นเงินไทยเกือบ 6 หมื่นบาท !!
นักท่องเที่ยวในเมือง Albufeira ซึ่งเป็นเมืองท่องเที่ยวยอดนิยมของ ประเทศโปรตุเกส อาจจะถูกค่าปรับที่สูงลิ่วหากเดินในชุดว่ายน้ำตามถนน เมืองริมชายหาดแห่งนี้ ใครก็ตามที่สวมบิกินีหรือถอดเสื้อในบริเวณที่ห่างจากชายหาด อาจถูกปรับสูงถึง 1,500 ยูโร หรือประมาณ56,512 บาท
แม้ว่ากฎเหล่านี้อาจฟังดูเข้มงวด แต่แท้จริงแล้วมีจุดประสงค์เพื่อส่งเสริมการท่องเที่ยวอย่างมีความรับผิดชอบและเห็นอกเห็นใจ กฎเหล่านี้ออกแบบมาเพื่อปกป้องประสบการณ์การท่องเที่ยวของคนส่วนใหญ่ที่ประพฤติตนอย่างมีความรับผิดชอบในการท่องเที่ยว
ค่าปรับหากใส่รองเท้าที่ไม่เหมาะสมในอิตาลี
Cinque Terre National Park and Marine Protected Area หรือที่เรียกสั้นๆ ว่า อุทยานแห่งชาติชิงเกว แตร์เร คืออุทยานแห่งชาติในประเทศอิตาลี ที่ได้รับขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลกจาก UNESCO
อุทยานแห่งชาติแห่งนี้เป็นเส้นทางเดินป่าที่เชื่อมหมู่บ้านสวยงามหลายแห่งที่ตั้งอยู่บนเนินเขาสูงเหนือชายฝั่งลิกูเรีย ฤดูท่องเที่ยวที่มีผู้มาเยือนสูงสุดของภูมิภาคนี้ จะเริ่มตั้งแต่ช่วงเทศกาลอีสเตอร์ไปจนถึงสิ้นเดือนมิถุนายน ดังนั้น เจ้าหน้าที่ท้องถิ่นจึงได้เพิ่มมาตรการบางอย่างเพื่อช่วยจัดการกับฝูงชน
เจ้าหน้าที่ในอุทยานได้เพิ่มความเข้มงวดในการบังคับใช้ข้อจำกัดเรื่องรองเท้า ซึ่งเริ่มใช้มาตั้งแต่ปี 2019
ในการเดินป่าบนเส้นทางต่างๆ ต้องสวมรองเท้าหุ้มข้อแบบปิดกันน้ำและมีพื้นรองเท้ากันลื่น เจ้าหน้าที่จะเฝ้าระวังผู้ที่สวมรองเท้าไม่เหมาะสมบนเส้นทาง และนักเดินป่าที่พบว่า สวมรองเท้าไม่ตรงตามข้อกำหนดจะถูกปรับสูงสุดถึง 2,500 ยูโร หรือประมาณ94,187 บาท
ค่าปรับผู้โดยสารที่ก่อความรำคาญบนเครื่องบิน
สายการบิน Ryanair ซึ่งเป็นสายการบินอันดับหนึ่งของยุโรป ยืนยันว่าได้เริ่มบังคับใช้ค่าปรับ 500 ยูโร หรือประมาณ 18,837 บาท สำหรับผู้โดยสารที่ก่อกวนและมีพฤติกรรมที่ไม่เหมาะสมจนเป็นเหตุให้ต้องถูกนำตัวลงจากเครื่องบิน
ผู้โดยสารคาดหวังที่จะเดินทางในสภาพแวดล้อมที่สะดวกสบายและปราศจากความเครียด โดยจะถึงที่หมายตรงเวลา และไม่มีการก่อกวนที่ไม่จำเป็นจากผู้โดยสารที่มีพฤติกรรมไม่เหมาะสม เพียงจำนวนน้อยนิด
แม้ว่าปัญหานี้จะเป็นปัญหาที่เกิดขึ้นทั่วทั้งอุตสาหกรรมการบินที่ส่งผลกระทบต่อทุกสายการบิน แต่ Ryanair มุ่งมั่นที่จะจัดการกับพฤติกรรมของผู้โดยสารที่ก่อกวนเพื่อประโยชน์ของผู้โดยสารและลูกเรือทุกคน และจะยังคงดำเนินคดีกับผู้โดยสารที่ก่อกวนเพื่อเรียกค่าเสียหายทางแพ่ง และอย่างน้อยที่สุด พวกเขาจะถูกปรับเป็นเงิน 500 ยูโร
โฆษกสายการบิน Ryanair กล่าวว่า : "เป็นเรื่องที่ยอมรับไม่ได้ที่ผู้โดยสารต้องทนทุกข์กับความวุ่นวายที่ไม่จำเป็น เพราะพฤติกรรมของผู้โดยสารที่ก่อกวนเพียงคนเดียว"
"เพื่อช่วยให้มั่นใจว่าผู้โดยสารและลูกเรือของเราจะเดินทางในสภาพแวดล้อมที่สะดวกสบายและปราศจากความเครียด โดยไม่มีการก่อกวนที่ไม่จำเป็นจากผู้โดยสารที่มีพฤติกรรมไม่เหมาะสมเพียงจำนวนน้อยนิด เราจึงได้นำมาตรการปรับเงิน 500 ยูโรมาใช้ ซึ่งจะถูกเรียกเก็บจากผู้โดยสารทุกคนที่ถูกนำตัวลงจากเครื่องบินอันเนื่องมาจากความประพฤติที่ผิดปกติของพวกเขา"
"แม้ว่าเหตุการณ์เหล่านี้จะเป็นเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นไม่บ่อยนักและเกิดขึ้นกับทุกสายการบิน แต่พฤติกรรมก่อกวนในพื้นที่ปิดและใช้ร่วมกันแบบนี้เป็นสิ่งที่ยอมรับไม่ได้ และเราหวังว่าแนวทางเชิงรุกของเราจะทำหน้าที่เป็นเครื่องยับยั้ง เพื่อกำจัดพฤติกรรมที่ยอมรับไม่ได้นี้บนเครื่องบินของเรา"
ค่าปรับจากการเก็บก้อนกรวดในกรีซ
แม้ว่าเกาะ Skiathos ประเทศกรีซ จะไม่ได้อยู่ในเส้นทางท่องเที่ยวหลัก แต่ชายหาด Lalaria อันเป็นสัญลักษณ์ของที่นี่กลับได้รับความนิยมมากขึ้นเรื่อยๆ เพราะก้อนกรวดสีขาวของมัน ก้อนกรวดสีขาวที่อาจทำให้คุณต้องเสียเงินหลายร้อยยูโร
นักท่องเที่ยวที่มาเยือนเกาะในทะเลอีเจียนอันงดงามแห่งนี้ จะต้องไม่นำก้อนกรวดออกจากหาด เว้นแต่ว่าพวกเขาอยากจะโดนปรับเป็นเงินตั้งแต่ 775 ถึง 1,000 ยูโร! หรือประมาณ 29,198 บาทถึง 37,678 บาท
กฎอันเข้มงวดนี้ถูกนำมาใช้ในปี 2018 โดยมีจุดมุ่งหมายเพื่อยับยั้งการขโมยก้อนหินที่ชายหาดที่มีชื่อเสียงที่สุดของเกาะ
เจ้าหน้าที่ท้องถิ่นและนักเคลื่อนไหวได้ทำให้สโลแกน "ถ่ายรูปไปนะ แต่อย่าเอากรวดไป" เป็นที่นิยม ซึ่งตอนนี้มีรูปปรากฏอยู่บนโปสเตอร์ทั่วทั้งเกาะ
ภาพจาก : greekcitytimes
ค่าปรับสูบบุหรี่ที่สาธารณะในกรุงปารีส
ฤดูร้อนนี้ในกรุงปารีส ประเทศฝรั่งเศส การสูบบุหรี่ขณะชมพระอาทิตย์ตกดินใต้หอไอเฟลอาจต้องแลกมาด้วยค่าใช้จ่ายที่ไม่คาดคิด
ตั้งแต่วันที่ 1 กรกฎาคมที่ผ่านมา ฝรั่งเศสได้ออกกฎหมาย ห้ามสูบบุหรี่ในพื้นที่กลางแจ้งทั้งหมด ที่เด็กๆ เข้าไปใช้บริการ ซึ่งรวมถึงสวนสาธารณะ, ชายหาด, สวนสาธารณะ, ป้ายรถเมล์, ทางเข้าโรงเรียน, และสนามกีฬา มาตรการที่ครอบคลุมนี้เป็นส่วนหนึ่งของคำมั่นสัญญาของประธานาธิบดีเอ็มมานูเอล มาครง ที่จะสร้าง 'ประชากรรุ่นแรกที่ปลอดบุหรี่' ให้ได้ภายในปี 2032
การจุดไฟสูบบุหรี่ในพื้นที่เหล่านี้อาจทำให้ผู้สูบต้องจ่ายมากกว่าแค่สายตาที่รังเกียจจากคนที่เดินผ่านไปมา ผู้ที่ฝ่าฝืนกฎ รวมถึงนักท่องเที่ยวที่ไม่รู้มาก่อน จะต้องโดนปรับ 90 ยูโร ประมาณ 3,390 บาท หากชำระภายใน 15 วัน แต่หากเกินกำหนด ค่าปรับจะเพิ่มเป็น 135 ยูโร ประมาณ 5,086 บาท
ค่าปรับวางผ้าขนหนูจองที่นั่ง/เตียงอาบแดด เป็นเวลานานในสเปน
นักท่องเที่ยวที่มุ่งหน้าไป "สเปน" ในช่วงฤดูร้อน อาจเสี่ยงต่อการถูกปรับเป็นเงินจำนวนมากหากถูกจับได้ว่าละเมิดกฎเตียงอาบแดดฉบับใหม่ เนื่องจากสถานที่ท่องเที่ยวชื่อดังหลายแห่ เริ่มบังคับใช้มาตรการที่เรียกว่า sunbed tax หรือ"ภาษีเตียงอาบแดด"
โดย นักท่องเที่ยวที่วางผ้าขนหนูจองที่นั่งเป็นเวลานาน อาจถูกปรับเงินสูงถึง 250 ยูโร หรือประมาณ 9,418 บาท
กฎระเบียบเหล่านี้มีจุดประสงค์เพื่อป้องกันการจองเก้าอี้อาบแดดและปัญหาความแออัด ซึ่งจะแตกต่างกันไปในแต่ละสถานที่ แต่โดยทั่วไปแล้วจะห้ามไม่ให้นำสิ่งของส่วนตัวมาวางบนเก้าอี้อาบแดดก่อนเวลาที่กำหนด หรือทิ้งไว้โดยไม่มีคนเฝ้าเป็นเวลานาน
สถานการณ์นี้เกิดขึ้นจาก "สงครามแย่งเก้าอี้อาบแดด" ในรีสอร์ตและโรงแรมทั่วยุโรปยังคงร้อนระอุอย่างต่อเนื่องในช่วงฤดูร้อน โดยนักท่องเที่ยวบางคนมาถึงก่อนสระว่ายน้ำเปิดทำการหลายชั่วโมงเพื่อจับจองเก้าอี้อาบแดดหลายตัว ด้วยการวางผ้าขนหนู กระเป๋า และข้าวของอื่นๆ ทิ้งไว้ แล้วค่อยกลับมาใช้ในอีกหลายชั่วโมงถัดไป
การแย่งชิงเก้าอี้อาบแดดที่มีจำนวนจำกัดนี้ ได้ส่งผลให้เกิด การโต้เถียงที่ดุเดือด การร้องเรียน และแม้กระทั่งการทะเลาะรุนแรงถึงทำร้ายร่างกาย นักท่องเที่ยวบางรายถึงขั้นฟ้องร้องทางกฎหมายกับโรงแรมที่ล้มเหลวในการบังคับใช้นโยบายการใช้เก้าอี้อาบแดด
ข้อมูลอ้างอิง : ฺฺBBC , fodors , ryanair , greekcitytimes , CNN , mirror.co.uk, msn,bbc