ซิดนีย์เผชิญฝนหนักสุดในรอบ 27 ปี จากภัยแล้งสู่น้ำท่วม วิกฤตสภาพอากาศกำลังเปลี่ยนแปลงอากาศออสเตรเลีย
ในช่วงเวลาที่ประเทศไทยกำลังเผชิญความร้อนระอุในเดือนสิงหาคมนี้ สำหรับซิดนีย์ ประเทศออสเตรเลียแล้วก็กำลังเจอกับเดือนที่ฝนตกหนักที่สุดในรอบ 27 ปี
จากการวิเคราะห์ประวัติสภาพอากาศทั้งหมดที่ Observatory Hill ซึ่งบันทึกย้อนหลังไปถึงปี 1858 เผยให้เห็นว่า ปริมาณน้ำฝนในช่วง 6 ปีที่ผ่านมามีปริมาณมากที่สุดเป็นประวัติการณ์
Sky News รายงานด้วยว่า ฝนกำลังจะตกหนักเพิ่มขึ้นในพื้นที่ชายฝั่งของรัฐนิวเซาท์เวลส์และรัฐควีนส์แลนด์ โดยคาดว่าจะเกิดน้ำท่วมในภาคตะวันออกเฉียงเหนือของรัฐนิวเซาท์เวลส์ เนื่องจากยังคงมีการเฝ้าระวังน้ำท่วมหลายครั้งในวันนี้ด้วย (20 สิงหาคม)
นับตั้งแต่เดือนมกราคม 2020 ซิดนีย์มีปริมาณน้ำฝนสะสมมากกว่า 9,300 มิลลิเมตร ซึ่งทำลายสถิติเดิมที่ 9,120 มิลลิเมตร ตั้งแต่ปี 1985-1990 และเมื่อพิจารณาว่าฝนจะตกหนักต่อเนื่องไปอีกในสัปดาห์นี้ และยังเหลือเวลาอีกกว่า 4 เดือนในปีนี้ คาดว่าปริมาณน้ำฝนสะสมจะพุ่งสูงทำลายสถิติก่อนหน้าอีกด้วย
จากภัยแล้งสู่น้ำท่วม : อะไรเปลี่ยนแปลงสภาพอากาศของซิดนีย์
หลังจากภัยแล้งรุนแรงหลายปีตั้งแต่ปี 2017 ถึง 2019 สภาพอากาศตามแนวชายฝั่งรัฐนิวเซาท์เวลส์ก็เปลี่ยนแปลงไปอย่างมากในช่วงต้นปี 2020 หลังจากที่มีฝนตกหนักและมีฝนตกชุกที่สุดในรอบสามทศวรรษ
ด้วยอิทธิพลของปรากฏการณ์เอลนีโญ ปริมาณน้ำฝนในปี 2023 ลดลงต่ำกว่าปกติ ก่อนที่จะดีดตัวขึ้นอย่างรวดเร็วเป็น 1,641 มิลลิเมตรในปี 2024
นอกจากนี้ การใช้ห้องปฏิบัติการวิทยาศาสตร์กายภาพขององค์การบริหารมหาสมุทรและบรรยากาศแห่งชาติ (National Oceanic and Atmospheric Administration) เพื่อวิเคราะห์แผนที่สภาพอากาศในแต่ละวันในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา ทำให้เห็นความผิดปกติที่สำคัญ โดยพบว่ามีการเปลี่ยนแปลงพฤติกรรมของลมตามแนวชายฝั่งรัฐนิวเซาท์เวลส์อย่างเห็นได้ชัด โดยตั้งแต่ปี 2020 เป็นต้นมา ลมพัดแรงขึ้นและถี่ขึ้นจากทางตะวันออก
การเปลี่ยนแปลงของลมเกี่ยวข้องกับการเคลื่อนตัวของรูปแบบความกดอากาศที่เกิดจากการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ โดยเฉพาะอย่างยิ่งการเคลื่อนตัวไปทางใต้ของเขตความกดอากาศสูงเหนือออสเตรเลียตอนใต้ และเนื่องจากลมพัดทวนเข็มนาฬิกาบริเวณจุดที่มีอากาศสูงในซีกโลกใต้ การเคลื่อนตัวนี้จึงส่งผลให้ลมตะวันตกที่แห้งตามแนวชายฝั่งรัฐนิวเซาท์เวลส์ลดลง และส่งผลให้ลมตะวันออกชื้นเพิ่มขึ้น
อ้างอิงจาก