โปรดอัพเดตเบราว์เซอร์

เบราว์เซอร์ที่คุณใช้เป็นเวอร์ชันเก่าซึ่งไม่สามารถใช้บริการของเราได้ เราขอแนะนำให้อัพเดตเบราว์เซอร์เพื่อการใช้งานที่ดีที่สุด

ไลฟ์สไตล์

จากเพื่อนรัก สู่หัวหน้าทีม รักษาความสัมพันธ์อย่างไร ในวันที่เพื่อนต้องมาสั่งงานเรา

The MATTER

อัพเดต 5 ชั่วโมงที่ผ่านมา • เผยแพร่ 2 ชั่วโมงที่ผ่านมา • Lifestyle

หันมองเก้าอี้ที่ว่างเปล่าของเพื่อนคนเก่ง ก็เห็นแต่ความว่างเปล่า

ไม่ใช่ว่าเพื่อนลาออกหรือย้ายไปทำงานที่อื่นแต่อย่างใด เจ้าตัวเพียงได้รับการเลื่อนขั้น อัปเกรดตัวเองจากพนักงานตัวน้อยไปเป็นหัวหน้าพี่ใหญ่คอยคุมทีมก็เท่านั้น เก้าอี้ข้างๆ ก็เลยว่าง เพราะเจ้าตัวมีห้องทำงานส่วนตัวเป็นของตัวเองแล้ว

ถามว่ายินดีไหม ขอตอบตรงนี้ว่ายินดีมากที่เพื่อนประสบความสำเร็จและก้าวไปอีกขั้นของเส้นทางอาชีพการทำงาน ถึงอย่างนั้น มันก็แอบรู้สึกเหมือนมีกระจกใสบางๆ กั้นกลางระหว่างเราเอาไว้ ไม่มีอีกแล้วการเลื่อนเก้าอี้ไปชวนเม้ามอยรายวัน หรือชวนไปแอบอู้ที่ร้านกาแฟใต้ตึกด้วยกัน

มันคงรู้สึกไม่คุ้นชิน เมื่อเพื่อนกลายมาเป็นหัวหน้างานเราอย่างเต็มตัว เหมือนกับเราและเพื่อนจำเป็นต้องสร้างหัวโขน หัวหน้ากับลูกน้อง เพิ่มขึ้นมาอีกหนึ่งหัว จนหลายครั้งก็ทำตัวไม่ถูก ไม่รู้ว่าจะสวมหัวไหนเข้าหาอีกฝ่ายดี จนท้ายสุดกลายมาเป็นความตึงเครียดและความอึดอัดระหว่างกัน

เราเองก็ไม่อยากจะให้มิตรภาพจืดจางลงเท่าไหร่หรอก ในฐานะเพื่อนก็คงไม่อยากให้เหลือแค่บทบาทของหัวหน้าและลูกน้องเพียงอย่างเดียว แล้วเราจะรักษามิตรภาพนี้ให้คงอยู่ต่อไปได้อย่างไร แม้ในวันที่เรากับเพื่อนจะอยู่คนละตำแหน่งกัน

เมื่อเพื่อนเป็นหัวหน้าของเรา

ตอนทำงานกับหัวหน้าคนเก่าก็ถือว่ามีความยากในระดับหนึ่งแล้ว ทว่าพอมาทำงานกับเพื่อนตัวเอง ก็แอบทวีความท้าทายในอีกระดับเหมือนกัน เพราะคราวนี้ไม่ได้มีแค่เรื่องงานแล้ว แต่ยังมีเรื่องของมิตรภาพที่ต่างฝ่ายต้องหมั่นเติมไม่ให้มันจางหายด้วย

หลังจากที่เพื่อนได้ขึ้นเป็นหัวหน้าเราอย่างเต็มตัว มันก็คงมีความรู้สึกมากมายเกิดขึ้นตามมาอย่างแน่นอน ทั้งเรื่องความคาดหวังของเพื่อนต่อตัวเราจะเป็นอย่างไร เราจะเข้าหาอีกฝ่ายได้เหมือนเดิมไหม หรือเพื่อนจะรับฟังปัญหาจากเราหรือไม่ นำไปสู่ความกังวลถัดไป ว่าปัญหาจุกจิกเหล่านี้จะบ่อนทำลายมิตรภาพและความสัมพันธ์ที่เคยแน่นแฟ้นของพวกเราหรือเปล่า

ความกังวลมากมายที่เกิดขึ้นล้วนเป็นเรื่องธรรมดา และเกิดขึ้นกับใครหลายคนด้วยเช่นกัน โดยงานวิจัยของ สก็อต ทอนิดันเดล (Scott Tonidandel) ศาสตราจารย์จาก Davidson College ผู้ศึกษาเกี่ยวกับความท้าทายด้านความเป็นผู้นำ ผ่านการสำรวจเหล่าผู้จัดการหน้าใหม่กว่า 300 คน พบว่า ความท้าทายนี้เกิดขึ้นจากการที่เพื่อนของเรามีอำนาจในมือมากกว่า ยิ่งไปกว่านั้น การเปลี่ยนบทบาทนี้ยังอาจนำไปสู่ความรู้สึกว่ามิตรภาพกำลังถูกทดสอบ กลายเป็นแรงกดดันที่ทำให้เราต้องคิดมากทั้งในเรื่องของงานและความสัมพันธ์ ซึ่งความกังวลเหล่านี้ยังส่งผลกระทบต่อฝ่ายเพื่อนที่เป็นผู้นำด้วย

ลองนึกถึงเวลาต้องรับฟีดแบ็กงานจากเพื่อนที่กลายมาเป็นหัวหน้า เราอาจรู้สึกตั้งแง่หรือไม่พอใจกับคำวิพากษ์วิจารณ์ เพราะในฐานะเพื่อน เราอาจคาดหวังว่าอีกฝ่ายจะพูดด้วยความถนอมน้ำใจ ไม่ตรงไปตรงมาเกินไปเหมือนเวลาทำงาน

นอกจากนี้ บิล เจนทรี (Bill Gentry) นักวิจัยประจำศูนย์ภาวะผู้นำเชิงสร้างสรรค์ ยังเสนอมุมมองเพิ่มเติมว่า ความตึงเครียดระหว่างเรากับเพื่อน อาจเกิดจากความเคยชินเดิมที่เรามักเม้าเจ้านายด้วยกัน แต่ตอนนี้เพื่อนกลายเป็นหัวหน้าของเราเสียเองแล้ว อีกฝ่ายก็อาจกังวลว่าตนจะถูกพูดถึงในทางลบ เพราะรู้ว่าเรามักวิจารณ์หัวหน้าลับหลังอยู่เป็นประจำ ยิ่งเพื่อนบางคนรู้ตัวว่า ตนเองทำงานไม่ตรงตามความคาดหวังของคนในทีมด้วยแล้ว ก็ยิ่งทำให้กำแพงที่ไม่เคยมี เริ่มก่อตัวขึ้นมาทีละเล็กทีละน้อย

ฉะนั้นแล้ว ก็คงไม่แปลก หากถึงเวลาที่เพื่อนขึ้นเป็นหัวหน้านำทีม แล้วเราจะรู้สึกว่าการทำงานกับอีกฝ่ายเป็นเรื่องยากขึ้น เพราะทั้งเราและเพื่อนต่างก็ต้องแบกรับทั้งบทบาทหัวหน้าลูกน้องและเพื่อนนั่นเอง

แล้วเราจะรักษามิตรภาพนี้ไว้ได้ยังไง

หากเป็นใครสักคนที่ไม่ใช่เพื่อนเรา ขึ้นมาเป็นหัวหน้าทีม เชื่อว่าหลายคนก็คงไม่สนใจหรือมีปฏิสัมพันธ์อะไรมากมายเกินเลยกว่าหัวหน้าลูกน้องหรอก แต่เมื่ออีกฝ่ายดันเป็นเพื่อนสนิทของเราด้วยแล้ว เราก็คงไม่อยากให้คำว่า หัวหน้า-ลูกน้อง กลายมาเป็นระเบิดเวลา ทำลายมิตรภาพของเราลงแน่นอน

อย่าเพิ่งด่วนตัดสินใจเลิกคบใครสักคน เพราะบทบาทอีกฝ่ายเปลี่ยนแปลงไปไม่เหมือนเดิม เราได้รวบรวมวิธีอันน่าสนใจจาก IFP (Insights for Professionals) เว็บไซต์ด้านการให้ข้อมูลเชิงลึกสำหรับมืออาชีพ ที่จะช่วยให้เรารักษามิตรภาพไว้ได้ แม้ในวันที่อีกฝ่ายก้าวขึ้นมาเป็นหัวหน้าเราเต็มตัว ดังนี้

ยอมรับความเปลี่ยนแปลง

อันดับแรกตัวเราอาจต้องยอมรับถึงความเปลี่ยนแปลงให้ได้เสียก่อน ว่าเพื่อนของเราได้ก้าวสู่บทบาทใหม่ ต้องมีหน้าที่และความรับผิดชอบที่แตกต่างจากเดิม ซึ่งอาจรวมไปถึงหน้าที่การประเมินการทำงานของตัวเราเองด้วย เมื่อเราสามารถยอมรับความเปลี่ยนแปลงเหล่านี้ได้แล้ว ตัวเราก็จะพร้อมปรับมุมมองและทัศนคติต่ออีกฝ่าย ช่วยให้เราเป็นมืออาชีพในการทำงานร่วมกันมากยิ่งขึ้น

แสดงออกว่าเราซัปพอร์ตอีกฝ่ายในทุกทาง

เชื่อว่า เพื่อนกันก็ย่อมต้องการให้อีกฝ่ายประสบความสำเร็จและพบเจอแต่เรื่องดี เพราะฉะนั้น ในกรณีนี้ เราเองก็ต้องแสดงออกให้ชัดเจน ว่าตัวเราพร้อมสนับสนุนอีกฝ่ายเสมอ ไม่ว่าจะเป็น การทำงานร่วมกันอย่างเต็มที่ การให้ความร่วมมือในโปรเจกต์ต่างๆ หรือแม้แต่การให้กำลังใจเมื่อเพื่อนต้องเผชิญกับความยากลำบากในฐานะหัวหน้า

หลีกเลี่ยงการนินทาในออฟฟิศ

การนินทาเป็นสิ่งที่เกิดขึ้นโดยทั่วไปทุกสังคมและทุกสถานที่ ย้อนกลับไปเมื่อก่อนเรากับเพื่อนยังเคยเม้าหัวหน้าด้วยกันอยู่เลย ทว่าเมื่อเพื่อนกลายมาเป็นหัวหน้าเสียเอง ตัวเราก็อาจจำเป็นต้องหลีกเลี่ยงการซุบซิบนินทาในออฟฟิศให้มากที่สุด เพราะถ้าเพื่อนเห็นว่าเราอยู่ในวงสนทนา (แม้จะไม่ได้พูดถึงตัวเพื่อนเองก็ตาม) ก็อาจนำไปสู่ความไม่ไว้ใจกัน จนกระทบต่อความสัมพันธ์ได้ในอนาคต

พยายามไม่คาดหวังการปฏิบัติที่พิเศษกว่าคนอื่น

เมื่อเพื่อนกลายมาเป็นหัวหน้าเรา เราก็อาจคาดหวังให้อีกฝ่ายปฏิบัติต่อตัวเราพิเศษกว่าเพื่อนร่วมงานคนอื่นๆ ตลอดจนอยากให้เพื่อนมอบสิทธิพิเศษบางอย่างให้ การคาดหวังไม่ใช่เรื่องผิด แต่ถ้ามันไม่ได้เป็นไปตามที่หวัง ก็อาจทำให้เรารู้สึกไม่ดีต่ออีกฝ่ายได้ ซึ่งสุดท้ายมันก็จะทำให้เราผิดใจกับเพื่อนของเราได้

กำหนดขอบเขตให้ชัดเจน

แม้จะต้องแบก 2 หัวโขนไว้พร้อมกัน เราก็ต้องขีดเส้นแบ่งให้ชัดเจน ว่าเวลาไหนเราต้องใช้หัวไหน พยายามคิดเอาไว้เสมอ ว่าในที่ทำงานเราอาจต้องรับบทบาทหัวหน้าลูกน้องมากหน่อย แต่เมื่อหมดเวลางาน เราเป็นเพื่อนกัน และพร้อมเปิดใจรับฟังเรื่องราวจากอีกฝ่ายเหมือนที่ผ่านมา

เมื่อตำแหน่งหรือบทบาทของเราและเพื่อนเปลี่ยนไป ความสัมพันธ์ก็ย่อมได้รับผลกระทบ ทำให้หลายสิ่งหลายอย่างระหว่างเรากับเพื่อนอาจเปลี่ยนไปตามไปด้วย การมีบทบาทหลายอย่างในที่ทำงานไม่ใช่เรื่องแปลก แต่สิ่งสำคัญคือเราต้องเรียนรู้ที่จะหาจุดสมดุลระหว่างมิตรภาพและบทบาทหน้าที่ เพื่อให้ความสัมพันธ์ยังคงอยู่ หากเรายังคงอยากรักษาเพื่อนคนนั้นเอาไว้

แล้วก็ต้องไม่ลืมกลับมาเช็คด้วยนะว่า เรากำลังพยายามมากเกินไปจนเหนื่อยหรือเปล่า เพราะการจะประคับประคองความสัมพันธ์ใดๆ ไว้ ไม่สามารถทำได้ด้วยฝ่ายเดียว มิตรภาพจะอยู่รอดได้ก็ต่อเมื่อทั้ง 2 ฝ่ายต่างช่วยกันรักษา แม้บทบาทของเราจะไม่เหมือนเดิมก็ตาม

อ้างอิงจาก

insightsforprofessionals.com

hbr.org

forbes.com

Graphic Designer: Manita Boonyong
Editorial Staff: Runchana Siripraphasuk

ดูข่าวต้นฉบับ
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...

ล่าสุดจาก The MATTER

จริงหรือหลอก? เมื่อ ‘ทรัมป์’ อ้างช่วยยุติสงครามที่เกิดขึ้นทั่วโลกแล้ว 7 ครั้ง เพื่อหวังรางวัลโนเบลสาขาสันติภาพ

2 ชั่วโมงที่ผ่านมา

11 มังงะ One-shot น่าอ่าน ฉลองครบรอบ 10 ปี Shonen Jump+

2 ชั่วโมงที่ผ่านมา

วิดีโอแนะนำ

ข่าวและบทความไลฟ์สไตล์อื่น ๆ

ข่าวและบทความยอดนิยม

‘Readymade’ เมื่อของใดๆ ก็เป็นศิลปะได้ทั้งนั้นกับ ‘มาร์แซล ดูช็องป์’

The MATTER

‘Beautiful Goodbye’ เมื่อทุกก้าวที่เปลี่ยนแปลงของการเติบโต คือความสวยงามของการจากลา

The MATTER

ว่างแต่ไม่พร้อมคุย ไม่ได้ละเลยแต่ลืมตอบแชต อะไรทำให้เราเป็นแบบนี้?

The MATTER
ดูเพิ่ม
Loading...
Loading...
Loading...
รีโพสต์ (0)
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...