โปรดอัพเดตเบราว์เซอร์

เบราว์เซอร์ที่คุณใช้เป็นเวอร์ชันเก่าซึ่งไม่สามารถใช้บริการของเราได้ เราขอแนะนำให้อัพเดตเบราว์เซอร์เพื่อการใช้งานที่ดีที่สุด

ไลฟ์สไตล์

จะเป็นผู้คอยรับไว้ ‘The Catcher in the Rye’ กับการแปลภาษาไทย ครั้งที่ 4

กรุงเทพธุรกิจ

อัพเดต 18 ชั่วโมงที่ผ่านมา • เผยแพร่ 3 ชั่วโมงที่ผ่านมา

นวนิยายเรื่อง The Catcher in The Rye เป็นผลงานของ เจ.ดี. ซาลินเจอร์ (J.D.Salinger) ตีพิมพ์ปีค.ศ. 1951 ได้รับการแปลไปถึง 30 ภาษาทั่วโลก มียอดขายกว่า 65 ล้านเล่ม

ติดอันดับนวนิยายภาษาอังกฤษที่ดีที่สุด 100 เล่มของนิตยสาร Time ใน ปี 2005 ได้รับการขนานนามจาก Modern Library และผู้อ่านว่าเป็นหนึ่งในนวนิยายภาษาอังกฤษที่ดีที่สุด 100 เล่มของศตวรรษที่ 20

ในประเทศไทย ได้รับการตีพิมพ์ถึง 3 ครั้ง 1) ทุ่งฝัน แปลโดย ศาสนิก / สำนักพิมพ์เรจีน่า พ.ศ.2531 2) ชั่วชีวิตของผม แปลโดย คำรวี-ใบเตย / สำนักพิมพ์ ปิยะสาส์น 3) จะเป็นผู้คอยรับไว้ไม่ให้ใครร่วงหล่น แปลโดย ปราบดา หยุ่น / สำนักพิมพ์ ไลต์เฮาส์ พ.ศ. 2552

ล่าสุด ครั้งที่ 4 เดอะแคตเชอร์อินเดอะไรย์ The Catcher in the Rye แปลโดย ภาณุ บุรุษรัตนพันธุ์ สำนักพิมพ์ Beat / มิถุนายน 2568

  • วรรณกรรมระดับโลกที่อยู่ในใจนักอ่านมากว่า 70 ปี

ตึ๋ง-ภาณุ บุรุษรัตนพันธุ์ นักแปล เจ้าของรางวัลสุรินทราชา ประจำปี พ.ศ. 2567 เล่าถึงการแปลนิยายเล่มนี้ให้ฟังว่า ก่อนแปลไม่เคยอ่าน The Catcher in the Rye ฉบับแปลภาษาไทยของใครมาก่อนเลย

"อ่านต้นฉบับภาษาอังกฤษ ขณะที่แปลอยู่ ในฐานะคนอ่าน ผมรู้สึกว่า มันสนุกนะ เรื่องของเด็กวัยรุ่นที่ต้องจัดการกับปัญหาของตัวเอง

โฮลเดนถูกไล่ออกจากโรงเรียน เป็นครั้งที่ 4 แล้ว มันมีเบื้องหลังของปัญหาที่ทำให้ชีวิตเขาไม่ลงตัว มันเกี่ยวกับ ทัศนคติ การดิ้นรนและปัญหาของโฮลเดน ไม่ได้มาลอย ๆ การที่เขาไม่ตั้งใจเรียน หรือเป็นเด็กแก่แดดเกินอายุ 16 เมื่อ 70 ปีที่แล้ว มันมีเหตุผลของมันอยู่

Cr. Kanok Shokjaratkul

โฮลเดนมีพ่อเป็นทนาย แม่เป็นแม่บ้าน อยู่ในแวดวงคนมีเงิน เป็นตัวละครที่บางทีเราก็รำคาญแต่ก็เอาใจช่วยตลอดเวลา

The Catcher in the Rye เป็นเรื่องที่เกิดในปี 1950 ผมพยายามหลีกเลี่ยงไม่ใช้ภาษาและสำนวนปัจจุบัน

ฉากของเรื่องอยู่ที่นิวยอร์ก ในรัศมีประมาณ 10 บล็อกรอบ Central Park มีความสำคัญกับฉากจบของนิยาย เพราะมีเรื่องเกี่ยวกับ ม้าหมุน

Cr. Kanok Shokjaratkul

ผมเคยอยู่นิวยอร์กช่วงปี 80s รถไฟใต้ดินมีกราฟฟิตี้เยอะแยะ เริ่มมี Street Art แบบรอยสัก เมืองถูกทำร้ายจากเหตุการณ์ 9/11 มีคนตายเป็นพัน

ที่ High Line เมื่อก่อนเป็นทางรถไฟที่ทิ้งร้าง เป็นย่านอันตรายที่สุดในแมนฮัตตัน ตอนนี้เปลี่ยนไปเพราะชุมชนรวมตัวกันต่อสู้หลายปี จนได้งบมาทำเป็นสวนสาธารณะที่สวยงาม

Cr. Kanok Shokjaratkul

โฮลเดนเป็นเด็กดีคนหนึ่ง เขาพูดถึงชีวิตในช่วงก่อนคริสต์มาส ช่วงเวลาของความสุข ผู้คนเฉลิมฉลอง แต่เป็นช่วงที่โฮลเดน เหงาที่สุด

The Catcher in the Rye พูดแทนเสียงของวัยรุ่นได้ค่อนข้างจะถึงลูกถึงคน เพราะเนื้อแท้แล้ว เด็กวัยรุ่นเวลามีปัญหา หาทางไปไหนไม่ได้ มันไม่หนีกันเท่าไร"

Cr. Kanok Shokjaratkul

  • ตัวแทนเสียงของวัยรุ่นอเมริกา

ปืน-สธน ตันตราภรณ์ นักเขียน นักแปล นักจัดพอดแคสต์ ที่มาร่วมพูดคุยถึงหนังสือเล่มนี้ในงาน Book Talk The Catcher in The Rye : จากนิวยอร์ก 1950 ถึงวันนี้

ในงาน Biblio HOMEMADE vol.2 วันที่ 3 สิงหาคม 2568 ณ Slow Combo สามย่าน บอกว่า ตัวเองเป็นแฟนนักเขียน J.D. Salinger มากกว่าเป็นแฟน The Catcher in the Rye วันนี้ที่มาก็แต่งตัวแบบโฮลเดนด้วย สวมหมวกสีแดงใส่กลับหลัง เหมือนในนิยาย

"ความประทับใจหรือประสบการณ์ที่ผมมีกับหนังสือเล่มนี้มี 3 ส่วน 1) ยังไม่ได้อ่านแต่ได้ยินก่อน ผมดูภาพยนตร์ค่อนข้างเยอะ ชื่อ Catcher in the Rye มักถูกพูดถึงในภาพยนตร์ ซีรีส์ หนังสือ ที่เกี่ยวกับ Coming of Age ตัวละครกำลังเติบโตหรือปรับเปลี่ยนความคิด

2) ได้จับหนังสือเล่มนี้ฉบับภาษาไทยโดยปราบดาหยุ่น สารภาพตรง ๆ ว่าอ่านไม่จบ ไม่ได้แปลว่าแปลไม่ดี แต่มันไม่สัมพันธ์กับช่วงเวลาและจังหวะชีวิตในตอนนั้น 3) ได้รับการติดต่อมาให้อ่านเวอร์ชั่นของคุณตึ๋ง ปี 58 ผมอ่านแบบแทบจะรวดเดียวจบ และใช้ปากกาเน้นข้อความไปทั่ว

Cr. Kanok Shokjaratkul

มันมีเสน่ห์เมื่อเราโตขึ้น หนังสือคลาสสิกที่ดีคือ ณ วันที่คุณอ่านครั้งแรก กับเมื่อคุณผ่านไปอีก 10, 20, 30 ปี ถ้ามันทำให้คุณเปลี่ยนได้ หนังสือเล่มนั้นคือคลาสสิก

ในสำนวนของคุณตึ๋ง มันสะใจดี เรื่องนี้มีความเนิบ หรือ เวิ่น แต่คุณตึ๋งทำได้มีเสน่ห์มาก เพราะมันไม่มี Plot แต่มันลากเราไปติดตามตัวละคร ถ้าคนรุ่นใหม่อ่านอาจจะตั้งคำถามว่า Plot อยู่ไหน Climax อยู่ที่ไหน หนังสือเล่มนี้ Climax มันอยู่ในแต่ละบท ในชุดความคิดของมัน

ถ้าคุณอ่านไปทีละบท จะเข้าใจว่าตัวละครมันพลิกหน้าพลิกหลังอยู่เสมอในความสับสนของมันเอง คุณตึ๋งมีความกล้าที่จะเอาคำออกมา มันไม่ได้สะใจด้วยความหยาบคายของคำ มันเป็นเสียงที่มีเสน่ห์

เป็นตัวแทนเสียงของวัยรุ่นอเมริกาในยุคก่อนที่จะมีวัฒนธรรมฮิปปี้ หรือวัฒนธรรมต่อต้านสถาบัน ยุคที่เด็กทุกคนเรียบร้อย อยู่ในกรอบเป็นอย่างดี

Cr. Kanok Shokjaratkul

แต่โฮลเดนแตกต่างออกไป เขาใช้คำหยาบ แก่แดด มีเงินก็อยากหาเหล้ากิน เลี้ยงเหล้าหญิง ผลก็คือหนังสือเล่มนี้ถูกแบนมาเรื่อย ๆ จนถึงปี 1970 ก็ยังโดนแบน

คุณค่าของ Catcher in the Rye มี 3 ส่วน 1) บันทึกสังคม เราได้เห็นสังคมอเมริกายุค 1950s ที่มี Norm มีความรับผิดชอบ มีวัฒนธรรมที่ชัดเจน มันทำให้เกิดคำถาม 2) บันทึกเมือง เราเห็นนิวยอร์กในอีกมุมหนึ่ง ที่เงียบมาก เงียบจนแทบไม่เห็นอะไรเลย

3) เปิดเผยตัวตน เป็นช่วงที่อเมริกาเพิ่งผ่านสงครามโลกครั้งที่ 2 มาหมาด ๆ เด็กอายุ 16 ก็ตั้งคำถามว่าจะโตไปเป็นผู้ใหญ่แบบไหน แสดงออกถึงความสับสนของเขา

เป็นนิยายเล่มแรก ๆ ที่พูดถึง Mental Depression ทำไมทุกอย่างข้างนอกดูชวนให้มีความสุข แต่ฉันกลับไม่เข้าใจว่าชีวิตนี้อยู่ได้อย่างไร ในปี 1951 มันยังไม่มีโรคนี้ที่แพร่หลาย ตัวละครไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้นกับสภาพจิตใจของตัวเอง

สัญลักษณ์ในเรื่องนี้ คือ ตัวละครจะหยิบหมวก Red Hunting Hat มาใส่เสมอเมื่อเขาเริ่มเปราะบาง อยากผจญภัย หนีออกไป หรือต้องการอะไร และใส่หมวกกลับหลัง สะท้อนเนื้อแท้ในวัยของเขาที่ไม่ใส่แบบเดิม ๆ

Cr. Kanok Shokjaratkul

ผมอ่านตอนที่เลยวัยรุ่นมาแล้ว ทำให้อ่านไม่จบ เพราะมันใกล้เคียงกับตัวผมมาก แต่พอวันหนึ่งที่คุณโตแล้วกลับมาอ่าน คุณจะได้เจอเสียงที่แปลกไป

มันไม่ใช่แค่เสียงของวัยรุ่น แต่เป็นเสียงของคนที่ถูกกดดันในทุกมิติ แล้วมันเก็บอยู่ข้างใน มันเลยระเบิดออกมาเป็นอักษรให้เราอ่านกัน มันสะท้อนอะไรหลายอย่าง

ผมขอเชียร์ให้คน 2 ประเภทได้อ่านหนังสือเล่มนี้ครับ 1) คนที่กำลังจะเป็นวัยรุ่น หรือ วัยรุ่น คุณจะได้ค้นพบว่าความว้าวุ่น ความต่อต้านของตัวเอง เป็นกลไกทางธรรมชาติที่ฮอร์โมนสร้างให้ คุณไม่ได้เป็นคนเดียว ไม่ต้องลำบากใจ เป็นด้วยกันหมด

2) คนที่เลยวัยรุ่นมาแล้ว คุณจะได้ย้อนกลับไปแล้วไม่ลืมว่า ไอ้ที่ดุลูกดุหลาน และพูดถึงสังคมของเราในวันนี้ คุณล้วนเคยเป็นคนเหล่านั้นมาทั้งสิ้น คุณเคยเป็นโฮลเดน แค่อาจจะใส่สูทผูกไท แต่ไม่ได้แปลว่าตอนวัยรุ่นไม่เคยเป็นแบบ Open Mind เสียงนี้มันควรจะได้รับการอ่านกัน"

Cr. Kanok Shokjaratkul

  • มุมมองต่างไป เมื่ออ่านในช่วงวัยที่ต่างกัน

แอน-เดือนเพ็ญ จุ้ยประชา ผู้ดูแลคอนเทนต์เพจ Urban Creature และผู้ร่วมก่อตั้งเพจ Walk Wander ที่ร่วมพูดคุยด้วย กล่าวว่า ตอนแรกที่อ่านฉบับภาษาไทยของคุณปราบดาหยุ่น ตอนนั้นอยู่ในช่วงวัยรุ่น มีความรู้สึกว่า โฮลเดนมันไม่น่าคบเลย ทำไมนิสัยเป็นแบบนี้

"พอได้มาอ่านใหม่ในวัย 30 ต้น ๆ ที่เรามีประสบการณ์และโตขึ้น ก็ได้มุมมองใหม่ ๆ เยอะเลย ทำให้เราเข้าใจและมองโฮลเดนในมุมที่ต่างไปจากเดิมมาก ๆ

ในแง่ของคุณค่า วัยรุ่นจะได้เห็นตัวเองมากขึ้น ที่มีความสับสน ไม่พอใจโลก ไม่ชอบสังคม ในขณะเดียวกันก็อยากให้คนยอมรับ อยากมีเพื่อน แต่ก็ไม่อยากมีเพื่อน มันเป็นวัยที่ย้อนแย้งในตัวเองสูง

Cr. Kanok Shokjaratkul

เราได้เห็นความผันผวนของโฮลเดนที่ไม่ชอบผู้ใหญ่แบบนี้ รู้สึกเหงา อยากไปอยู่คนเดียว แต่ก็อยากหาคนรู้ใจ มีความคิดต่อต้านโลก ทำไมต้องทำตามสังคม มีความขบถ ต่อต้านสังคม รู้สึกว่าโลกมันแย่ แต่เราก็ต้องอยู่ต่อไป

ไม่ว่าใครจะมาอ่าน ต่อให้ไม่เคยไปนิวยอร์ก ไม่เคยเจอประสบการณ์แบบโฮลเดน มันก็มีความรู้สึกว่าเราไม่ชอบไอ้เด็กนี่ แต่เราก็เอาใจช่วย เรารู้สึกว่าเขาเป็นเพื่อนเรา อยากให้เขากลับบ้าน สังเกตเห็นว่าเขาเหงาและปวดร้าว

Cr. Kanok Shokjaratkul

ในบริบทสังคมปัจจุบันที่มีโซเชียลมีเดีย เด็กสมัยนี้ก็ยังเหงาอยู่ ความสับสนในวัยรุ่น ทำให้เราตระหนักรู้กับตัวเอง ความเหงา ความโดดเดี่ยวที่เกิดขึ้น ไม่ว่ากี่สิบปีหรือกี่ร้อยปีก็ตาม มันยังคงคลาสสิกเพราะคนยังเชื่อมโยงกับตัวโฮลเดนและสิ่งที่เขาเจอได้

คุณตึ๋งแปลออกมาได้ดีมาก ภาษาที่โฮลเดนพูดอาจจะดูธรรมดาในยุคนี้ แต่ในยุคนั้นเป็นเรื่องใหม่ เป็นวัยรุ่นที่กล้าพูด กล้าสบตา กล้าตรงไปตรงมา

บางทีเราก็เผลอหลุดไปตามเขา บางประโยคเขาพูดออกมาแบบไม่คิดอะไรเลย เห็นความเสียดสีรุนแรง ใช้คำหยาบ แต่เขาก็มีมุมที่น่ารัก เห็นความใสซื่อของตัวละคร

Cr. Biblio

เช่น เวลาที่เขาพูดถึงน้องสาวของเขา หรือสิ่งสวยงามที่เขาต้องการปกป้อง มีความสีชมพู มีความน่ารัก ไม่สามารถตัดสินได้ว่าดีหรือไม่ดี เพราะมีหลายมุม

ความโดดเดี่ยวของโฮลเดนเป็นตัวแทนความเงียบ ความรกร้างว่างเปล่า แม้มีคนเยอะ มีเสียงเยอะ แต่เขาก็ยังโดดเดี่ยว ถ้าโฮลเดนไม่มีเงิน เขาจะไปหาใครไม่ได้เลย เงินเป็นปัจจัยสำคัญที่ทำให้เขาใช้ชีวิตแบบนั้นได้

เมื่อไม่รู้ว่าจิตวิญญาณมันคืออะไรกันแน่ มันเลยต้องออกไปหาอะไรมาเติมความว่างเปล่า"

ดูข่าวต้นฉบับ
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...

ล่าสุดจาก กรุงเทพธุรกิจ

Humanica ผนึก TBS ขับเคลื่อน HR วงการแพทย์ไทยสู่ยุคดิจิทัล

58 นาทีที่แล้ว

'สว.อลงกต' ระบุ 'วุฒิสภา' ไม่คว่ำ-ไม่ยื้อ "ร่างพ.ร.บ.งบฯ69"

1 ชั่วโมงที่ผ่านมา

ทบ. ขู่ใช้สิทธิ์ปกป้องตัวเอง โต้กลับกัมพูชาละเมิดหยุดยิง

1 ชั่วโมงที่ผ่านมา

'KFCI Butterbear' ชูความคุ้มค่า ฉีกสงครามราคา ลุ้นควง 'น้องเนย' โกอินเตอร์

1 ชั่วโมงที่ผ่านมา

วิดีโอแนะนำ

ข่าวและบทความไลฟ์สไตล์อื่น ๆ

Weapons จากคดีเด็กหายลึกลับที่อัดแน่นด้วยฉากจำชวนผวา

THE STANDARD

ทรูคอร์ปอเรชั่นจัดทัพผู้นำแต่งตั้งหัวหน้าคณะผู้บริหารด้านข้อมูลและปัญญาประดิษฐ์ Chief Data and AI Officer

GM Live

ดูแลลำไส้ให้ดี ชีวิตก็ดีขึ้นได้! วิธีดูแลลำไส้หรือสมองที่สองของมนุษย์

sanook.com

‘ฝันร้ายกลางเดือนร้อน’ นิมิตหลอนของละครตลก

The Momentum

Taylor Swift ประกาศอัลบั้มใหม่ชุดที่ 12 ในชื่อ The Life of a Showgirl

THE STANDARD

ดื่มน้ำเต้าหู้ตอนเช้า vs ตอนเย็น ช่วงเวลาไหนดีที่สุด?

sanook.com

'ลอร่าซัมเมอร์' ธุรกิจใหม่ 'จ๋า-อลิสา' มาพัทยาต้องแวะ

ประชาชาติธุรกิจ

Google เคาะชื่อ Cinnamon Bun เป็นโค้ดเนมอย่างเป็นทางการของ Android 17

Thairath - ไทยรัฐออนไลน์

ข่าวและบทความยอดนิยม

Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...