โปรดอัพเดตเบราว์เซอร์

เบราว์เซอร์ที่คุณใช้เป็นเวอร์ชันเก่าซึ่งไม่สามารถใช้บริการของเราได้ เราขอแนะนำให้อัพเดตเบราว์เซอร์เพื่อการใช้งานที่ดีที่สุด

ทั่วไป

แนะ 5 ข้อ แก้ปัญหาผู้ประกอบการค้าชายแดนตกเป็นเหยื่อมิจฉาชีพ

สำนักข่าวไทย Online

อัพเดต 19 สิงหาคม 2568 เวลา 20.02 น. • เผยแพร่ 1 ชั่วโมงที่ผ่านมา • สำนักข่าวไทย อสมท

รัฐสภา 19 ส.ค.-กมธ.เศรษฐกิจฯวุฒิสภา แนะ 5 ข้อ แก้ปัญหาผู้ประกอบการค้าชายแดนตกเป็นเหยื่อมิจฉาชีพ จี้ ธปท.-สมาคมธนาคารไทย-สตช. จับมือสร้างกลไกกลาง ลดภาระเหยื่อ

นายพงษ์ศักดิ์ เกิดวงศ์บัณฑิต สว. ในฐานะรองประธานคณะกรรมาธิการ(กมธ.)การเศรษฐกิจการเงิน และการคลังวุฒิสภา แถลงเรื่องปัญหาการถูกอายัดบัญชีของผู้ประกอบการธุรกิจส่งออกชายแดน ว่า ผู้ประกอบการด้านการค้าชายแดนกำลังเผชิญปัญหาบัญชีถูกอายัดทรัพย์ถือเป็นปัญหาที่มีความซับซ้อนและสะท้อนถึงจุดอ่อน บางประการในระบบการกำกับดูแลด้านการธุรกรรมทางการเงินของประเทศ ซึ่งเจ้าหน้าที่ตำรวจแจ้งว่าบริษัทยักษ์ใหญ่ของไทย 10 กว่าบริษัทก็เป็นเหยื่อของมิจฉาชีพมาแล้ว

นายพงษ์ศักดิ์ กล่าวต่อว่า ทางกมธ.ฯได้รับหนังสือ ร้องเรียนจากผู้ประกอบการส่งออกชายแดนจำนวนหลายรายซึ่งประกอบธุรกิจ ด้านการค้าชายแดนขายสินค้าอุปโภคบริโภคให้กับผู้ซื้อฝั่งลาวและเวียดนามโดยมีการดำเนินการตามใบสั่งซื้อ ผ่านศุลกากรตามปกติ และผู้ซื้อชำระเงินผ่านแอปพลิเคชั่น แต่การค้าชายแดนมีความละเอียดอ่อน บริษัทไทยจะมีปัญหาในการออกเอกสารแสดงแหล่งกำเนิดสินค้า มีปัญหาการขาดเงินบาทในประเทศลาวและเวียดนาม และยังมีปัญหาการโอนเงินผ่านธนาคารผ่านธนาคารพาณิชย์ ผู้ซื้อจึงต้องใช้เส้นทาง โพยก๊วน ที่เป็นโต๊ะแลกเงินที่ไม่ได้รับใบอนุญาตในการโอนเงินเข้ามาในประเทศไทย ซึ่งมีอัตราแลกเปลี่ยนที่ดีกว่าการโอนผ่านธนาคารพาณิชย์ ส่งผลให้มีมิจฉาชีพแอบอ้างหรือสวมรอย โดยการใช้ข้อมูลทางธุรกรรมทางด้านการเงินของผู้ประกอบการ ลวงบุคคลภายนอกที่ไม่เกี่ยวข้อง โอนเงินเข้าบัญชีของผู้ประกอบการโดยไม่พบที่มา ทำให้หน่วยงานราชการหรือหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง แจ้งอายัดบัญชีตามมาตรา 7 ของพระราชกำหนดป้องกันอาชญากรรมทางเทคโนโลยี พ.ศ.2568 ซึ่งให้อำนาจในการระงับบัญชี โดยไม่จำเป็นต้องแจ้งให้เจ้าของบัญชีทราบล่วงหน้า

นายพงษ์ศักดิ์ กล่าวต่อว่า การโอนผ่านช่องทางนอกระบบในลักษณะนี้ แม้จะไม่มีความผิดในแง่ของเจตนา แต่กลายเป็นช่องว่างที่ทำให้ผู้ประกอบการตกเป็นเหยื่อของแก๊งมิจฉาชีพ อาชญากรรมทางเทคโนโลยีหรือขบวนการฟอกเงินโดยไม่รู้ตัว และแม้ว่าผู้ประกอบการจะสามารถแสดงหลักฐานได้ครบถ้วนแต่ตำรวจคืนเงินไม่ได้ เพราะผู้เสียหายแจ้งความขอคืนเงินและมีเส้นทางการเงินที่ชัดเจน ทางกมธ.ฯจึงเห็นว่าเป็นปัญหาทั้งระบบที่จะต้องได้รับการแก้ไขรอบด้าน

นายพงษ์ศักดิ์ กล่าวว่า กมธ.ฯจึงเห็นว่าควรมีทางออกในการเยียวยาและแก้ไขปัญหาให้กับผู้เสียหายที่ตกเป็นเครื่องมือของอาชญากรรมทางเทคโนโลยี คือ1.ผู้ประกอบการที่เป็นเหยื่อต้องรีบไปชี้แจงกับพนักงานสอบสวนในแต่ละคดี โดยนำเอกสารการค้าทั้งหมดใบอินวอย หลักฐานการส่งออก ผ่านศุลกากรไปแสดง หากหลักฐานเพียงพอและพิสูจน์ว่าทำการค้าโดยสุจริต พนักงานสอบสวนก็น่าจะปลดอายัดให้ แต่หากผู้ประกอบการยังทำธุรกิจในรูปแบบเดิม ที่มีการรับเงินโดยไม่ตรวจสอบแหล่งที่มาของเงินและลูกค้า ก็จะถูกอายัดบัญชีไปเรื่อย ๆ เพราะทางการใช้มาตรการนี้เป็นการสกัดกั้นมิจฉาชีพ 2.ผู้ประกอบการแจ้งความในฐานะเป็นผู้เสียหาย เนื่องจากธุรกิจของตนก็ได้รับความเสียหายด้วย 3.ผู้ประกอบการสามารถโอนคดี มารวมกันที่เดียวในฐานะผู้เสียหายร่วม 4.ขอให้ตำรวจอายัดเฉพาะยอดเงินร้องเรียนเสียหายร้องเรียนเท่านั้น แทนการอายัดทั้งบัญชี และ5. ประสานงานกับส่วนกลางขอให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เช่น สมาคมธนาคารไทย และธนาคารแห่งประเทศไทย(ธปท.) ประสานงานกับสถานีตำรวจทั่วประเทศให้พิจารณาการปลดอายัดบัญชี ในกรณีที่มีหลักฐานชัดเจน โดยเฉพาะผู้ประกอบการที่เป็นเหยื่อร่วม

นายพงษ์ศักดิ์ กล่าวต่อว่า การป้องกันไม่ให้เกิดเหตุการณ์ซ้ำต้องมีการตรวจสอบแหล่งที่มาของเงินที่โอนเข้ามา และผู้ประกอบการอาจต้องมีรายละเอียดของบัญชีที่ได้รับอนุญาตให้ชำระเงิน จากคู่ค้าเพื่อลดความเสี่ยงในการรับเงินของบุคคลของบุคคลที่เราไม่รู้จัก รวมถึงทำบัญชีของคู่ค้าที่เชื่อถือได้เท่านั้น และเปลี่ยนรูปแบบการค้า โดยผู้ประกอบการต้องปรับตัวจากการค้าแบบดั้งเดิมมาสู่รูปแบบที่โปร่งใสมากขึ้น และเสนอให้ธนาคารการแจ้งเตือนเจ้าของบัญชี ทันที เมื่อมีการระงับบัญชีเพื่อที่ผู้ประกอบการจะได้แก้ไขได้ทัน ทั้งนี้กมธ.ฯยังเห็นว่าในงานที่ควบคุมดูแล ทั้ง ธปท. สมาคมธนาคารไทย และสำนักงานตำรวจแห่งชาติ(สตช.)ควรมีกลไกกลางในการประสานงานระหว่างกัน เพื่อการดำเนินคดีอย่างมีเอกภาพลดภาระผู้ประกอบการและสร้างความยุติธรรม ให้เท่าเทียมกันทั่วประเทศและภาครัฐควรให้ความรู้แก่ผู้ประกอบการชายแดนอย่างต่อเนื่องเพื่อไม่ให้เป็นเหยื่อของการฉ้อโกง.-319.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวต้นฉบับ
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...

ล่าสุดจาก สำนักข่าวไทย Online

คณะผู้สังเกตการณ์อาเซียนร่วมตรวจสอบข้อเท็จจริงกัมพูชาละเมิดข้อตกลงหยุดยิง

12 นาทีที่แล้ว

ลีดส์ ยูไนเต็ด เฉือนชนะ เอฟเวอร์ตัน 1-0

28 นาทีที่แล้ว

ทบ.นำ 5 ทหารบาดเจ็บเหตุสู้รบชายแดนส่งต่อ รพ.พระมงกุฎฯ

30 นาทีที่แล้ว

ผู้นำฝ่ายค้านเยี่ยม ชรบ.ทับทิมสยาม โอดขาดแคลนกระสุน

32 นาทีที่แล้ว

วิดีโอแนะนำ

ข่าวและบทความทั่วไปอื่น ๆ

คณะผู้สังเกตการณ์อาเซียนร่วมตรวจสอบข้อเท็จจริงกัมพูชาละเมิดข้อตกลงหยุดยิง

สำนักข่าวไทย Online

20 ปีสร้างสุขภาคใต้ สสส.สานพลังภาคียุทธศาสตร์สุขภาพ จัด “สร้างสุขภาคใต้ ครั้งที่ 14” รวมพลัง 4,000 ภาคี 137 เครือข่าย ขับเคลื่อนสุขภาวะ

77kaoded

ตี๋น้อยเคลื่อนไหวแล้ว! ถึงเป็ดย่าง MK คนอ่านถึงกับอึ้ง

มุมข่าว

Boss จับมือ ท็อตแนม ฮอตสเปอร์ รับหน้าที่พาร์ตเนอร์ด้านแฟชั่น

THE STANDARD

เมกาบางนา จับมือ วิคตอรี่ พาร์ทเนอร์ส เปิดสนามบาสฯ กลางศูนย์การค้า จัดศึกบาสเกตบอล 3X3 ระดับนานาชาติ

TODAY

เปิดราคารถ JAECOO 5 EV : รถไฟฟ้า 100% เริ่มต้น 549,000 - 599,000 บาท

SpringNews

26 ปี ปปง. ตัดวงจรคดีฟอกเงิน ยึดอายัดทรัพย์รายสำคัญ "ตู้ห่าว-หุ้นสตาร์ค-ดิไอคอน-หมอบุญ"

Manager Online

กสม.ขอทุกฝ่ายยุติสร้างเฟกนิวส์สู่ความเกลียดชัง หวังไทย-เขมรจริงใจสร้างสันติสุขยึดประโยชน์ปชช.

Manager Online

ข่าวและบทความยอดนิยม

ดูเพิ่ม
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...