TACP โอนหุ้นหลักทรัพย์ให้ TTB รับ 2 พันล้าน จำนวน 2,698 ล้านหุ้น สิ้นสุดบริษัทย่อย
นายพีระพัฒน์ เมฆสิงห์วี กรรมการผู้จัดการใหญ่บริษัท ทุนธนชาต จำกัด (มหาชน) หรือTCAP แจ้งการโอนหุ้น บริษัทหลักทรัพย์ ธนชาต จำกัด (มหาชน) ให้แก่ธนาคารทหารไทยธนชาต จำกัด (มหาชน) หรือTTB และรับชำระราคาค่าหุ้น จากบริษัทได้ลงนามใน “สัญญาซื้อขายหุ้นบริษัทหลักทรัพย์ธนชาต: Share Purchase Agreement” ซึ่งเป็นข้อตกลงเกี่ยวกับการซื้อขายหุ้นของบริษัทหลักทรัพย์ ธนชาต จำกัด (มหาชน) (“บริษัทหลักทรัพย์ธนชาต”) ที่ทุนธนชาตถืออยู่ทั้งหมดให้แก่ธนาคารทหารไทยธนชาต จำกัด (มหาชน) (“ธนาคารทหารไทย ธนชาต”)
ภายใต้เงื่อนไขที่จำเป็น รายละเอียดตามหนังสือที่แจ้งต่อตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย เมื่อวันที่ 6 มีนาคม 2568 แล้วนั้น ซึ่งต่อมาที่ประชุมสามัญผู้ถือหุ้นของทุนธนชาต ประจำปี 2568 เมื่อวันที่ 2 เมษายน 2568 ได้มีมติอนุมัติให้ทุนธนชาต ขายหุ้นบริษัทหลักทรัพย์ธนชาตที่ถืออยู่ทั้งหมดให้แก่ธนาคารทหารไทยธนชาตแล้ว
บัดนี้ ได้ดำเนินการบรรลุเงื่อนไขที่จำเป็นตาม Share Purchase Agreement เป็นที่เรียบร้อยแล้ว ทุนธนชาตจึงได้ทำการ โอนหุ้นบริษัทหลักทรัพย์ธนชาตที่ถืออยู่ทั้งหมดจำนวน 2,698,959,721 หุ้น คิดเป็นร้อยละ 89.97 ของจำนวนหุ้นที่ออกและชำระ แล้วให้แก่ธนาคารทหารไทยธนชาต เมื่อวันที่ 1 กรกฎาคม 2568
พร้อมรับชำระราคาหุ้นทั้งหมดแล้ว โดยทุนธนชาตได้รับชำระค่าหุ้นดังกล่าวเป็นจำนวนประมาณ 2,062 ล้านบาท ซึ่งเท่ากับมูลค่าบัญชีที่ปรับปรุงด้วยรายการตามที่ตกลงกัน โดยคำนวณภายหลัง จากที่บริษัทหลักทรัพย์ธนชาตจดทะเบียนลดทุนชำระแล้วจาก 3,000 ล้านบาท คงเหลือ 2,010 ล้านบาท เมื่อวันที่ 19 มิถุนายน 2568 และภายหลังการโอนหุ้นดังกล่าวข้างต้น ธนาคารทหารไทยธนชาตเป็นผู้ถือหุ้น ร้อยละ 99.97 ในบริษัทหลักทรัพย์ ธนชาต มีผลให้บริษัทหลักทรัพย์ธนชาตสิ้นสุดการเป็นบริษัทย่อยของทุนธนชาต
การที่บริษัทหลักทรัพย์ธนชาตที่เป็นบริษัทหลักทรัพย์ที่ประกอบธุรกิจด้านหลักทรัพย์มานาน มีธนาคารทหารไทยธนชาตซึ่ง เป็นธนาคารพาณิชย์ขนาดใหญ่มาเป็นผู้ถือหุ้นใหญ่ จะช่วยเสริมสร้างความแข็งแกร่งทางการเงินและเครือข่ายการดำเนินธุรกิจของ บริษัทหลักทรัพย์ธนชาต สร้างโอกาสในการเติบโตทางธุรกิจและความสามารถในการแข่งขันเป็นอย่างมาก อันจะเป็นผลดีต่อ พนักงาน ลูกค้า และผู้ที่มีส่วนได้เสียต่อไป ทั้งนี้ ทุนธนชาตและบริษัทย่อยยังคงเป็นผู้ถือหุ้นใหญ่ของธนาคารทหารไทยธนชาต ในสัดส่วนไม่เกินร้อยละ 24.99 ต่อไป