ทหารกัมพูชาเปิดฉากยิง ห่างปราสาทตาเมือนธม 200 เมตร
(24 ก.ค. 68) ความขัดแย้งระหว่างไทยและกัมพูชาเริ่มตึงเครียดขึ้นทุกที หลังวานนี้(23 ก.ค.) มีทหารไทยเหยียบทุ่นระเบิดสังหารที่บริเวณช่องอานม้า จ.อุบลราชธานี เป็นเหตุให้มีทหารนายหนึ่งได้รับบาดเจ็บสาหัส ต่อมา พล.ท.บุญสิน พาดกลาง แม่ทัพภาคที่ 2 ลงนามคำสั่งกองทัพภาคที่ 2 (เฉพาะ) ที่ 213/2568 เรื่องการปิดจุดผ่านแดนตามแนวชายแดนไทย – กัมพูชา และสถานที่ท่องเที่ยวในพื้นที่รับผิดชอบ และงดนักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติ รวมถึงงดการเยี่ยมชมปราสาทตาเมือน และปราสาทตาควาย ของนักท่องเที่ยวเพื่อปรับปรุงระบบการรักษาความปลอดภัย
ล่าสุดเช้านี้มีรายงานข่าวการปะทะกันที่ฐานหมูป่า อ.พนมดงรัก จ.สุรินทร์ หลังจากที่หน่วยเฉพาะกิจที่ 2 กองกำลังสุรนารี ได้ส่งชุดประสานงานพูดคุยชายแดน แจ้งให้ทางกัมพูชาทราบว่าไทยประกาศปิดการท่องเที่ยวปราสาทตาเมือนธมแล้ว แต่การพูดคุยล้มเหลว
ต่อมาเจ้าหน้าที่ฝ่ายไทยได้ลวดหนามหีบเพลงมาล้อมทางขึ้นและบริเวณรอบปราสาทตาเมือนธม ขณะที่ทหารกัมพูชาได้ตั้งอาวุธปืนหน้าแนวทางขึ้นปราสาทตาเมือนธม พร้อมนำโดรนฝ่ายกัมพูชาบินลาดตระเวนโดยรอบปราสาท
กำลังพลกัมพูชาจำนวน 6 นาย พร้อมอาวุธครบมือรวมทั้ง RPG เดินเข้ามาใกล้แนวลวดหนาม ก่อนที่จะเกิดการปะขึ้นโดยฝ่ายกัมพูชาเปิดฉากยิงก่อน
เฟซบุ๊ก Wassana Nanuam ได้โพสต์รายละเอียดของเหตุที่เกิดขึ้นดังนี้
“ทบ.รายงานเหตุการณ์ปะทะบริเวณพื้นที่ปราสาทตาเมือน อ.พนมดงรัก จ.สุรินทร์ หลังฝ่ายกัมพูชาเปิดฉากยิง เมื่อเช้าวันที่ 24 กรกฎาคม 2568
วันที่ 24 กรกฎาคม 2568 เวลา 07.35 น. หน่วยเฉพาะกิจที่ดูแลพื้นที่ปราสาทตาเมือนรายงานว่า ได้ยินเสียงอากาศยานไร้คนขับ (UAV) ของฝ่ายกัมพูชา บินวนอยู่บริเวณหน้าปราสาทตาเมือนธม แม้ไม่สามารถตรวจพบตัวอากาศยานได้ด้วยสายตา แต่สามารถได้ยินเสียงอย่างชัดเจน
ต่อมา ฝ่ายกัมพูชาได้นำอาวุธเข้าสู่ที่ตั้งบริเวณด้านหน้าแนวลวดหนาม และพบกำลังพลกัมพูชาจำนวน 6 นาย พร้อมอาวุธครบมือรวมทั้ง RPG เดินเข้ามาใกล้แนวลวดหนาม บริเวณด้านหน้าฐานปฏิบัติการของไทย
ฝ่ายไทยได้ใช้การตะโกนเจรจาเพื่อหลีกเลี่ยงความขัดแย้งและยกระดับสถานการณ์ โดยฝ่ายไทยเฝ้าระวังตลอดแนวชายแดนเพื่อเตรียมรับสถานการณ์
อย่างไรก็ตาม เมื่อเวลาประมาณ 08.20 น. ฝ่ายกัมพูชาได้เปิดฉากยิงเข้ามาบริเวณตรงข้ามฐานปฏิบัติการทางทิศตะวันออกของปราสาทตาเมือน ในระยะประมาณ 200 เมตร
ขณะนี้ หน่วยงานที่เกี่ยวข้องของกองทัพบกกำลังติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด หากมีข้อมูลเพิ่มเติมจะรายงานความคืบหน้าให้ทราบต่อไป”