กกต.คาด ลต.ซ่อมศรีสะเกษ รู้ผล2 ทุ่ม คำร้องยุบ 6 พรรค ยังอยู่ในชั้นนายทะเบียนฯ
กกต.คาด ลต.ซ่อมศรีสะเกษ รู้ผล2 ทุ่ม คำร้องยุบ 6 พรรค ยังอยู่ในชั้นนายทะเบียนฯ แจงไทม์ไลน์หลังคณะกกก.ชุด26 คดีฮั๊วสว.เดินเครื่อง เลี่ยงตอบปมจ่อฟันเหี้ยน 229 คน ลั่น ปฏิบัติหน้าที่เป็นกลาง ไม่กดดัน
วันที่ 18 ก.ค. 2568 ที่ โรงแรมเซ็นทารา ไลฟ์ ศูนย์ราชการและคอนเวนชันเซ็นอตอร์ นายอิทธิพร บุญประคอง ประธาน กกต.ให้สัมภาษณ์ถึงการเตรียมความพร้อมในการเลือกตั้งซ่อม เขต 5 จ.ศรีสะเกษ ว่า มีการเตรียมโครงสร้างการเลือกตั้งไว้เสร็จเป็นที่เรียบร้อย มีผู้สมัครเพียง 2 คน ตนหวังว่าจะมีผู้มาใช้สิทธิการเลือกตั้ง 65% คาดว่าจะรู้ผลเลือกตั้ง ประมาณ 20.00 น.เมื่อถามถึงการเป็นผู้ช่วยหาเสียงของน.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกฯ และรมว.วัฒนธรรม ในฐานะหัวหน้าพรรคพท.ทำได้หรือไม่ ถูกคำสั่งศาลรัฐธรรมนูญ สั่งหยุดปฏิบัติหน้าที่นายกฯ นายอิทธิพร กล่าวว่า ผู้ช่วยหาเสียง คือผู้ที่มีอายุเกิน 18 ปีและมีสิทธิ์เลือกตั้งก็เป็นผู้ช่วยหาเสียง ไม่เกี่ยวข้อง และไม่ใช่ข้อห้าม
นายอิทธิพร ถึงประเด็นการยื่นยุบ 6 พรรค กรณีถูกนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกฯ ครอบงำ ว่า ขณะนี้ยังอยู่ในการพิจารณาของนายทะเบียนพรรคการเมือง และก็ต้องผ่านอีก 2 ขั้นตอน ซึ่งกรณีที่เห็นว่าไม่มีมูล ก็ต้องยุติเรื่อง แต่หากเห็นว่า มีการกระทำที่ฝ่าฝืนมาตรา 92 ของ พ.ร.ป.ว่าด้วยพรรคการเมือง ก็ต้องเสนอเรื่องให้ กกต.พิจารณา ว่า จะเห็นอย่างนั้นด้วยหรือไม่ ถ้าเห็นด้วย จะส่งเรื่องไปศาลรัฐธรรมนูญ แต่ขณะนี้เรื่องยังอยู่แค่ในระดับนายทะเบียนพรรค ประธาน กกต.ก็จะไม่แทรกแซง แต่ก็มีการถามบ้างว่าไปถึงไหนแล้ว ซึ่งหากพูดไปก่อนอาจ สร้างความไขว้เขว ดังนั้นที่ผ่านมาจึงไม่สามารถบอกได้ขอให้รอเวลาสักนิดหนึ่ง
เมื่อถามว่า ขณะที่กรณีนายเรืองไกร ลีกิจวัฒนะ สมาชิกพรรคพปชร. มายื่นร้องกรณีคลิปเสียงระหว่างนายกฯ กับสมเด็จฮุนเซ็น นายอิทธิพร กล่าวว่า ไม่มี เรื่องนั้นไม่น่าเกี่ยวข้องกับการฝ่าฝืนกฎหมายเลือกตั้ง ถ้าเป็นในกรอบมาตรฐานจริยธรรม ก็จะเป็นหน้าที่ของอีกหน่วยงานหนึ่ง ไม่ใช่ กกต.เมื่อถามย้ำว่า คำร้องของนายเรืองไกร จะถูกตีตกใช่หรือไม่ นายอิทธิพร กล่าวว่า หากจะพิจารณากันก็จะไม่รับ เพราะอะไรที่ไม่ได้อยู่ในกรอบอำนาจของ กกต.ก็จะไม่พิจารณา
นายอิทธิพร กล่าวถึงความคืบหน้าคดีฮั้วเลือก สว. ว่า คณะกรรมการสืบสวนไต่สวน ชุดที่26 ได้ทำสำนวนเสร็จแล้ว และส่งเรื่องไปยังสำนักงาน กกต.เพื่อพิจารณา วิเคราะห์ศึกษาความเห็นของคณะกรรมการสืบสวนไต่สวน และให้เลขาธิการกกต.แสดงความเห็น เมื่อเลขาธิการมีความเห็นแล้ว ก็จะเสนอไปยังให้คณะอนุกรรมการวินิจฉัยปัญหา หรือข้อโต้แย้ง ซึ่งมีหลายคณะ ก่อนที่จะเสนอเข้าสู่ที่ประชุม กกต. ผลการสืบสวนไต่สวนของคณะต่างๆจะถือว่าเป็นความลับ ซึ่งเป็นไปตามกรอบเวลาที่กำหนดไว้ ในส่วนของขั้นตอนเลขาธิการ กกต.จะใช้เวลา 60 วัน และเมื่อเข้าสู่คณะอนุกรรมการวินิจฉัยปัญหา และข้อโต้แย้ง ก็จะมีเวลาไม่เกิน 90 วัน หลังจากนั้นเมื่อเข้าสู่ที่ประชุมกกต.ก็ไม่เกิน 90 วันเช่นกัน
เมื่อถามถึง ในส่วนกระแสข่าวที่มีผู้ที่อาจ จะถูกดำเนินคดีมากถึง 229 คนนั้น นายอิทธิพร กล่าวว่า ปกติจะให้สำนวนขึ้นมาตามลำดับ ไม่ไปล้วงข้อมูลรายละเอียด ซึ่งที่เป็นข่าว ก็มีจำนวนไม่น้อย เมื่อถามว่าผู้ถูกร้องมีจำนวนมาก กกต.มี นโยบายในการวินิจฉัยอย่างไร นายอิทธิพร กล่าวว่า ไม่มีนโยบาย เป็นการพิจารณาตามขั้นตอนไม่สามารถแทรกแซงอะไรได้ทั้งสิ้น เมื่อถามย้ำว่าจำเป็นต้องตั้งคณะอนุวินิจฉัยพิเศษขึ้นมาหรือไม่ นายอิทธิพร กล่าวว่า ที่ผ่านมาไม่เคยทำเช่นนั้น เพราะไม่ได้เป็นไปตามระเบียบ และต้องมีเหตุผลสำคัญเป็นอย่างยิ่ง ซึ่งตอนนี้ไม่ได้มีความตั้งใจที่จะทำแบบนี้ นอกจากจะทำตามระเบียบ
เมื่อถามว่ามีการมองว่าเรื่องนี้ถูกเร่งดำเนินการเพราะพรรคภท. ออกจากพรรคร่วมรัฐบาลแล้ว นายอิทธิพร กล่าวว่า กกต. ปฏิบัติหน้าที่ตามกระบวนการ ไม่อยู่ภายใต้แรงกดดันอะไรทั้งสิ้น เป็นหน้าที่ของกกต. คณะกรรมการแต่ละคนต้องธำรงไว้ซึ่งความเป็นกลาง และไม่อยู่ภายใต้อาณัติของพรรคการเมือง เมื่อถามถึงการลดเวลาการไต่สวนสามารถทำได้หรือไม่ นายอิทธิพร กล่าวว่า เรื่องการลดเวลาหากจะทำ จะต้องมีความจำเป็นอย่างยิ่ง เคยมีกรณีที่เกิดขึ้นที่ แต่ที่ผ่านมาปฏิบัติตามระเบียบสืบสวนไต่สวนอย่างเคร่งครัด