“โรม” รู้ทัน “กัมพูชา” คิดอะไรอยู่ ยั่วยุคนไทยจนหลายคนไม่พอใจ
สำนักข่าวไทย Online
อัพเดต 7 กรกฎาคม 2568 เวลา 19.22 น. • เผยแพร่ 4 ชั่วโมงที่ผ่านมา • สำนักข่าวไทย อสมทสระแก้ว 7 ก.ค.-กมธ.มั่นคงแห่งรัฐฯ ปิดห้องคุยหน่วยงาน “ปกครอง-มั่นคง” หาทางออกแก๊งคอลเซ็นเตอร์-ยาเสพติด-ค้ามนุษย์ “โรม” รู้ทัน “กัมพูชา” คิดอะไรอยู่ ยั่วยุคนไทยจนหลายคนไม่พอใจ กระตุก เมื่อไหร่ที่บานปลาย คนชายแดนเดือดร้อนก่อนลำดับแรก ด้าน “ปลัดจังหวัด” รายงานมาตรการเหมาะสม คำนึงถึงมนุษยธรรม แต่กัมพูชาไม่ตอบรับ
ที่ด่านศุลกากรบ้านคลองลึก อำเภออรัญประเทศ จังหวัดสระแก้ว กรรมาธิการ (กมธ.) ความมั่นคงแห่งรัฐ กิจการชายแดนไทย ยุทธศาสตร์ชาติในการปฏิรูปประเทศ สภาผู้แทนราษฎร นำโดยนายรังสิมันต์ โรม สส.บัญชีรายชื่อ พรรคประชาชน ในฐานะประธาน กมธ. เข้าประชุมรับฟังบรรยายสรุปและแลกเปลี่ยน ความคิดเห็นเกี่ยวกับปัญหาความมั่นคงชายแดน ปัญหายาเสพติด การค้ามนุษย์และแก๊งคอลเซ็นเตอร์ ร่วมกับหน่วยงานปกครอง, กองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง , กรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ), กองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในราชอาณาจักร (กอ.รมน.), ศุลกากรจังหวัดสระแก้ว
โดยนายรังสิมันต์ กล่าวเปิดการประชุมว่า จังหวัดสระแก้ว โดยเฉพาะอำเภออรัญประเทศเป็นพื้นที่สำคัญในการค้าขายชายแดน เราเองทราบว่ายังใช้ในระหว่างไทยกัมพูชาการค้าชายแดนต้องยอมรับว่ามีมูลค่าสูงมากนับแสนล้านบาท ภายใต้ความขัดแย้งที่เกิดขึ้นระหว่างไทย-กัมพูชา ต้องยอมรับว่าสุดท้ายมันส่งผลกระทบจริงๆ โดยเฉพาะประชาชน มากกว่านั้น ในพื้นที่ของกัมพูชาก็เป็นที่ตั้งของแก๊งคอลเซ็นเตอร์ เท่าที่ตนได้รับข้อมูล มันมีพิกัด ละติจูด ลองจิจูด ที่สามารถตรวจสอบได้ว่ามีแก๊งคอลเซ็นเตอร์ จำนวนมาก 50-60 แห่ง ตนเชื่อว่าตัวเลขความเป็นจริงอาจจะมากกว่านั้น
วันนี้ท่ามกลางความขัดแย้งที่เกิดขึ้น ตนมองเป็นโอกาสในการแก้ไขปัญหาเรื่องคอลเซ็นเตอร์ แต่ในขณะเดียวกันก็เป็นจุดที่เป็นความท้าทายของเรา ในการบริหารจัดการค้าขายชายแดนได้อย่างน้อยที่สุด สามารถประกอบอาชีพได้อย่างมีผลกระทบน้อยที่สุด
“เรารู้ว่ากัมพูชาคิดอะไร กัมพูชาต้องการใช้กลไกศาลโลก และมีความพยายามในการดำเนินการหลายอย่างบางส่วน ก็ต้องยอมรับว่ามันอาจจะมีการยั่วยุที่ทำให้ความรู้สึกของคนไทยหลายคนไม่พอใจ จึงต้องใช้โอกาสนี้ชี้แจงว่าเมื่อไหร่ก็ตามที่สถานการณ์บานปลาย คนชายแดนจะเดือดร้อนก่อนเป็นลำดับแรก” นายรังสิมันต์ กล่าว
นายรังสิมันต์ ยืนยันว่า เราไม่กลัวในการขึ้นศาลยุติธรรมระหว่างประเทศ หรือ ศาลโลก แต่เรามองแล้วว่ากลไกศาลไม่ได้แก้ไขปัญหา แต่จะทำให้เกิดความรู้สึกที่ไม่ดีของคนทั้งสองชาติมากยิ่งขึ้น และสุดท้ายทั้งสองประเทศก็ต้องตั้งอยู่ตรงนี้ ดังนั้นเราไม่อยากให้บางคนมาสร้างบรรยากาศที่ไม่ดี ทั้งๆ ที่คนของทั้งสองประเทศล้วนไปมาหาสู่และมีความสัมพันธ์ที่ดีต่อกัน
จากนั้น นายสุเทพ ชัยวัฒน์ ปลัดจังหวัดสระแก้ว กล่าวรายงานว่า ปัญหาสำคัญในแนวชายแดนไทยกัมพูชาคือการลักลอบข้ามแดนผิดกฎหมาย, แรงงานข้ามชาติ, การลักลอบขนสินค้าผิดกฎหมาย รวมถึงปัญหายาเสพติดและการค้ามนุษย์ ซึ่งตามสถิติปี 2567 มีการรับตัวคนไทยทั้งหมด 52 ครั้ง จำนวน 211 คน ส่วนในปี 2568 มีการรับตัวคนไทยกลับมาทั้งหมด 56 ครั้ง จำนวน 380 คน โดยใช้ศูนย์คัดกรองการส่งต่อระดับชาติหรือ เอ็นอาร์เอ็ม
ส่วนข้อเสนอในการจัดทำรั้วชายแดน ทางจังหวัดสระแก้วได้เสนอเมื่อครั้งที่นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ในขณะนั้น เดินทางมาตรวจราชการ ปัจจุบันรัฐบาลมอบหมายให้กระทรวงการต่างประเทศและกระทรวงกลาโหมศึกษาความเป็นไปได้
ปลัดจังหวัดสระแก้ว กล่าวด้วยว่า การควบคุมจุดผ่านแดน มีการจำกัดเวลาเป็นไปตามความเหมาะสมตามสถานการณ์ และคำนึงถึงหลักมนุษยธรรม แรงงานกัมพูชาที่ถือโบเดอร์พาสให้อยู่ในไทยสิ้นสุด กองกำลังบูรพาก็อนุโลมให้แรงงานเหล่านี้สามารถอยู่ในไทยไปพลางก่อนได้ ซึ่งมีผลตั้งแต่วันที่ 23 มิ.ย. ส่วนปัญหาขนสินค้าขาออก กองกำลังบูรพาได้เป็นการผ่อนผันมาตรการขนส่งให้ระบายรถจากไทยข้ามไปกัมพูชาได้ แต่ฝั่งกัมพูชาไม่ตอบรับในส่วนนี้
จากนั้น นายรังสิมันต์ ได้ขอประชุมลับกับหน่วยงานต่างๆ จึงขอเชิญสื่อมวลชนออกจากห้องประชุม.-312.-สำนักข่าวไทย