โปรดอัพเดตเบราว์เซอร์

เบราว์เซอร์ที่คุณใช้เป็นเวอร์ชันเก่าซึ่งไม่สามารถใช้บริการของเราได้ เราขอแนะนำให้อัพเดตเบราว์เซอร์เพื่อการใช้งานที่ดีที่สุด

ธุรกิจ-เศรษฐกิจ

ททท.เปิดแผนเที่ยวไทยปี’69 ยกระดับคุณค่าทุกมิติสู่ ‘The New Thailand’

ประชาชาติธุรกิจ

อัพเดต 23 ชั่วโมงที่ผ่านมา • เผยแพร่ 23 ชั่วโมงที่ผ่านมา

ททท.ประกาศแผนปี’69 พลิกโฉมท่องเที่ยวไทยสู่ “The New Thailand” ปรับพร้อมโครงสร้างพร้อมยกระดับอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวทุกมิติสู่การให้ความสำคัญเชิงคุณค่า Value is the New Volume การกระจายโอกาสสู่ท้องถิ่น จัดการสมดุลส่วนแบ่งตลาดต่างประเทศ-ในประเทศเป็น 58 : 42 พร้อมมีตัวชี้วัดทั้งเศรษฐกิจ สังคม สิ่งแวดล้อม หวังดันไทยเป็น 1 ใน 10 ประเทศที่มีรายได้ทางการท่องเที่ยวมากที่สุดในโลก

นายสรวงศ์ เทียนทอง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา เปิดเผยว่า รัฐบาลเห็นถึงความสำคัญของการท่องเที่ยวในการเป็นฟันเฟืองหลักในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจ โดยได้อนุมัติงบฯกลางกระตุ้นเศรษฐกิจด้านการท่องเที่ยวกว่า 4,518 ล้านบาท เพื่อเดินหน้าขับเคลื่อนการท่องเที่ยวอย่างต่อเนื่องผ่าน 22 โครงการหลัก พร้อมผลักดันแนวคิด 5 New Paradigm ได้แก่ New Customer, New Product, New Partnerships, New Marketing Strategy และ New Key Performance Indicator

มุ่งเสริมศักยภาพท่องเที่ยวทุกมิติ

โดยมุ่งเสริมศักยภาพการท่องเที่ยวในทุกมิติ ไม่ว่าจะเป็นการสร้างความเชื่อมั่นด้วยการยกระดับความปลอดภัย การพัฒนาสิ่งอำนวยความสะดวกด้านการท่องเที่ยว การพัฒนาแหล่งเที่ยว Hidden Gems สู่มาตรฐานสากล ผ่านเครือข่ายเมืองสร้างสรรค์ของ UNESCO ยกระดับอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวไทยในภูมิภาคเอเชีย-แปซิฟิก และการร่วมมือกับ GSTC พัฒนาการท่องเที่ยวสู่ความยั่งยืน

และเปิดประตูสู่โอกาสทางเศรษฐกิจด้วย Sport Tourism Events ควบคู่ไปกับการเผยแพร่เสน่ห์ไทย วัฒนธรรมไทยสู่สายตาชาวโลก ด้วยหมุดหมายของการขับเคลื่อนสู่การท่องเที่ยวคุณภาพ เพิ่มรายได้ กระจายการท่องเที่ยวสู่เมืองน่าเที่ยว สร้างโอกาสอย่างทั่วถึง เพื่อให้บรรลุเป้าหมายที่ตั้งไว้ทั้งแง่ของจำนวนและรายได้ และพร้อมมุ่งสู่ปี 2569 อย่างเต็มศักยภาพ

“แม้ว่าปี 2568 อุตสาหกรรมท่องเที่ยวเผชิญหน้ากับความท้าทายหลากหลายประการ ตั้งแต่ต้นปีจนถึงขณะนี้พบว่าประเทศไทยก็ยังคงเป็นจุดหมายปลายทางท่องเที่ยวที่ต้อนรับนักท่องเที่ยวต่างชาติกว่า 18.08 ล้านคน-ครั้ง สร้างรายได้กว่า 1.40 ล้านล้านบาท” นายสรวงศ์กล่าว

จุดเริ่มต้น The New Thailand

ด้านนางสาวฐาปนีย์ เกียรติไพบูลย์ ผู้ว่าการการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) กล่าวว่า ปี 2569 จะเป็นจุดเริ่มต้นของการเปลี่ยนกระบวนทัศน์การท่องเที่ยวไทยเป็น The New Thailand ซึ่งมุ่งยกระดับอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวสู่การให้ความสำคัญเชิงคุณค่า (Value is the New Volume) ผ่านแนวคิดหลัก “Stay Focus” เดินหน้าอย่างมีเป้าหมาย ผ่านจุดเน้น 4 ประการ

ประกอบด้วย ปรับโครงสร้างอุตสาหกรรมท่องเที่ยวสู่ “การท่องเที่ยวคุณภาพ” ปรับสมดุลด้วยการกระจายโอกาสสู่ท้องถิ่น สร้างแรงดึงดูดใหม่ด้วยการออกแบบประสบการณ์ที่ตรงใจนักท่องเที่ยวเฉพาะกลุ่ม และจับมือทุกภาคส่วนมุ่งหน้าสู่ความยั่งยืนควบคู่กับการเร่งสร้างความเชื่อมั่นประเทศไทย เผยแพร่ Soft Power

และจัดการสมดุลส่วนแบ่งตลาดเป็นตลาดต่างประเทศ ร้อยละ 58 และตลาดในประเทศ ร้อยละ 42 โดยมีหัวใจของความสำเร็จอยู่ที่ “คุณค่าและประสบการณ์” ที่นักท่องเที่ยวได้รับ พร้อมทั้ง “ความพึงพอใจ” ของทุกภาคส่วน เพื่อสร้างความสมดุลตัวชี้วัดทั้งเศรษฐกิจ สังคม และสิ่งแวดล้อม เพื่อให้ประเทศไทยเป็น 1 ใน 10 ประเทศที่มีรายได้ทางการท่องเที่ยวมากที่สุดในโลก

รุกทั้งมิติกลุ่มตลาด-กลุ่มพื้นที่

โดยในส่วนของตลาดต่างประเทศ ททท.จะมุ่งทำการตลาดเชิงรุก โดยให้ความสำคัญใน 2 มิติหลัก ได้แก่ มิติกลุ่มตลาด (Market Segment) ที่มีศักยภาพสูงในการเดินทาง ได้แก่ Millennials, Gen Z, Luxury และ Health & Wellness และมิติกลุ่มพื้นที่ (Market Areas) แบ่งเป็น 3 กลุ่ม เพื่อตอบโจทย์เชิงรายได้อย่างชัดเจน

ได้แก่ 1.กลุ่ม Priority ประกอบด้วย กลุ่มตลาดหลัก อาทิ จีน ฮ่องกง จะมุ่งสร้างภาพลักษณ์และความเชื่อมั่นด้านความปลอดภัย พร้อมขยายสู่เมืองท่องเที่ยวใหม่ กลุ่มตลาดระยะใกล้ คือ มาเลเซีย เกาหลีใต้ สิงคโปร์ สร้างภาพจำใหม่ ขยายตลาด Segment ใหม่ควบคู่กับกระตุ้นฐานตลาดเดิม

กลุ่มตลาดระยะใกล้ที่เติบโตดี คือ อินเดีย ญี่ปุ่น เน้นเจาะกลุ่ม Quality Leisure และกลุ่มตลาดระยะไกลที่เติบโตดี ได้แก่ รัสเซีย อังกฤษ สหรัฐอเมริกา ฝรั่งเศส และเยอรมนี มุ่งเจาะกลุ่ม High Value สร้าง New Million Market

2.กลุ่มตลาดขนาดกลาง-เล็ก ได้แก่ ตลาดระยะใกล้ อาทิ ไต้หวัน เวียดนาม อินโดนีเซีย ฟิลิปปินส์ กระตุ้นและขยายตลาดใหม่ทั้งในเชิง Segment และพื้นที่ ตลาดระยะไกล อาทิ ออสเตรเลีย สแกนดิเนเวีย อิตาลี สเปน เร่งสร้างภาพไทยในฐานะ Green Destination และ Long Stay Paradise

และ 3.กลุ่ม High Value Market ตลาดตะวันออกกลางศักยภาพสูง นำเสนอ Premium Leisure และ Health & Wellness พร้อมรักษาการเติบโตของอิสราเอล รวมถึงทำ Airline Focus เพิ่มที่นั่งและความถี่เที่ยวบิน

“ไทยเที่ยวไทย” เศรษฐกิจฐานราก

สำหรับตลาดในประเทศนั้น นางฐาปนีย์กล่าวว่า ไทยเที่ยวไทยยังคงเป็นหัวใจสำคัญที่จะช่วยสร้างเศรษฐกิจฐานรากที่แข็งแกร่ง และนำพาสู่การท่องเที่ยวยั่งยืน โดย ททท.จึงเดินเกมด้วยกลยุทธ์การตลาดเชิงพื้นที่ (Area-Based Marketing) ผสมผสานกับการออกแบบสินค้าและบริการเชิงประสบการณ์ เพื่อตอบโจทย์กลุ่มเป้าหมายศักยภาพ Millennials, High End/Ultra Wealth และ Multi-Generation Family

โดยนำเสนอกิจกรรม Exclusive Experience ในจังหวัดท่องเที่ยวหลัก, กระตุ้นความถี่ในกลุ่มจังหวัดเมืองหลัก-น่าเที่ยว ให้เกิดการเดินทางตลอดทั้งปี ด้วยการเจาะตลาด Health and Wellness และส่งเสริมให้เกิดการท่องเที่ยวข้ามภาคด้วยสินค้าบริการที่นำเสนอเสน่ห์ไทยและเพิ่ม Event Marketing

ขณะเดียวกัน ก็ยังคงมุ่งส่งเสริมเมืองน่าเที่ยวด้วยสินค้าและบริการตามอัตลักษณ์พื้นที่ โดยมีไฮไลต์ตามภูมิภาค และร่วมกับกระทรวงวัฒนธรรม และองค์การบริหารพื้นที่พิเศษเพื่อการท่องเที่ยวอย่างยั่งยืน (อพท.) ส่งเสริมเมืองสร้างสรรค์ ของ UNESCO 3 จังหวัด ได้แก่ สุโขทัย เพชรบุรี และสุพรรณบุรี พร้อมจะต่อยอดความสำเร็จ “Grand Moment”

agoda

เฟ้นหาจุดขายใหม่มัดใจนักท่องเที่ยว

สำหรับ Highlight Products ของปี 2569 ททท.จะคัดสรรประสบการณ์ทางการท่องเที่ยวที่มีอัตลักษณ์ คุณภาพและความพร้อมมาแปรรูปเป็นสินค้าท่องเที่ยวเชิงสร้างสรรค์มัดใจนักท่องเที่ยวทุกกลุ่มเป้าหมาย โดยให้น้ำหนักกับ Creative Products Focus การค้นหาจุดเน้นใหม่ ๆ ที่เชื่อมโยงกับอัตลักษณ์ของพื้นที่

อาทิ สินค้ากลุ่มแหล่งท่องเที่ยวทางธรรมชาติ เพื่อนำเสนอเป็น UNSEEN Destination-Unforgettable Experience สินค้ากลุ่มสุขภาพ (Wellness และ Meditation) สินค้ากลุ่มมูเตลู ศรัทธา และความเชื่อ สินค้าตามพฤติกรรมนักท่องเที่ยวยุคใหม่ เช่น เส้นทางคนโสด เส้นทาง LGBTQ เส้นทางตามรอย Series หนัง-ละคร และภาพยนตร์ กลุ่ม Sport Tourism กลุ่ม Night Tourism กลุ่ม Thailand Soft Power ฯลฯ

รวมถึงร่วมกับสายการบินพันธมิตรขยายเครือข่ายความเชื่อมโยงทางการบินด้วย Airline Focus ทั้ง Commercial Flight และ Charter Flight การจัดทำเส้นทางเชื่อมโยงเมืองหลักสู่เมืองน่าเที่ยว รวมถึงประเทศเพื่อนบ้านทั้งเส้นทางทางบก ทางน้ำ เช่น เรือยอชต์ เรือสำราญ (Cruise) เส้นทางเที่ยวแม่น้ำโขงเชื่อมโยงประเทศเพื่อนบ้าน ทางอากาศ เช่น Private Jet และ Helicopter ทางราง (รถไฟ) เช่น รถไฟ Kiha (กีฮะ), Royal Blossom, STR Prestige, Blue Jasmin และ Thailand Standard Focus

สร้างเครือข่ายและผลักดันให้เกิดการยกระดับมาตรฐานการบริการสู่มาตรฐานยั่งยืนในระดับสากลพร้อมไปกับการพัฒนา Sustainable Model อาทิ โครงการ Thailand Tourism Awards (TTA), CF Hotels, STGs STAR, Sustainable Product Prototype ภายใต้ Krabi Prototype พร้อมกันนี้ จะเดินหน้าสร้างความเชื่อมั่นผ่านโครงการ Trusted Thailand (Safe Travel Stamp) เพื่อการท่องเที่ยวที่ปลอดภัย มีมาตรฐาน และสร้างภาพลักษณ์ที่แข็งแรงของประเทศไทย

อัดอีเวนต์ระดับโลก

นางสาวฐาปนีย์กล่าวเพิ่มเติมอีกว่า ไม่เพียงเท่านั้น ททท.ยังจะเติมเต็มประสบการณ์ด้วยอีเวนต์ที่ตอบโจทย์ทุกไลฟ์สไตล์ ให้เทศกาล ประเพณี กิจกรรมระดับนานาชาติเป็นแม่เหล็ก ดึงดูดนักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและต่างชาติ เริ่มจาก World Events ได้แก่ Maha Loy Krathong จ.สุโขทัย, VIJIT Chao Phraya, Amazing Thailand Marathon 2025, Amazing Thailand Countdown และ Maha Songkran World Water Festival และปรากฏการณ์ครั้งสำคัญของ TOMORROWLAND THAILAND 2026 ครั้งแรกในเอเชียในเดือนธันวาคม 2569

นอกจากนี้ยังมี International Events อาทิ SEA GAMES Sport & Tourism ไหว้ครูมวยไทยโลก เทศกาลตรุษจีน เทศกาลดนตรีนานาชาติ Rolling Loud Thailand Wonderfruit และ Big Moutain Music Festival รวมถึงกิจกรรมท่องเที่ยวเชิงกีฬา Thailand Marathon และฮอนด้า แอลพีจีเอ ไทยแลนด์ เทศกาลพลุพัทยา เป็นต้น
“ปี 2569 จะเป็นปีแห่งความตั้งใจของอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวไทยในการยกระดับ ปรับสมดุล และเดินหน้าสู่คุณภาพอย่างแท้จริง เพื่อการเติบโตที่มั่นคงและยั่งยืน สะท้อนความพร้อมและศักยภาพของประเทศไทยที่จะก้าวข้ามจากการเป็นเพียงจุดหมายปลายทางที่น่าเที่ยวสู่การเป็นจุดหมายปลายทางที่ทรงคุณค่าในทุกมิติทั้งเศรษฐกิจ สังคม สิ่งแวดล้อม และวัฒนธรรม” นางฐาปนีย์กล่าว

The New Thailand

จีน-มาเลย์-เกาหลีใต้ เที่ยวไทยสูงสุดครึ่งปีแรก

ข้อมูลจากกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬาระบุว่า ในช่วงครึ่งปีแรก (มกราคม-มิถุนายน 2568) ที่ผ่านมา ประเทศไทยมีนักเดินทางชาวต่างชาติเดินทางเข้ามากว่า 16 ล้านคน สร้างรายได้จากการท่องเที่ยวประมาณ 743,582 ล้านบาท

ในจำนวนนี้ “อโกด้า” แพลตฟอร์มดิจิทัลด้านการท่องเที่ยวอ้างอิงจากยอดการจองที่พักบนแพลตฟอร์มว่า นักเดินทางจากจีน มาเลเซีย และเกาหลีใต้ ครองตำแหน่งชาติที่เดินทางมาประเทศไทยสูงสุด รองลงมาคือ ญี่ปุ่น และสิงคโปร์

โดยกรุงเทพฯ พัทยา และภูเก็ต ยังคงครองตำแหน่งเมืองท่องเที่ยวยอดนิยมในหมู่นักเดินทางจากประเทศดังกล่าวอย่างต่อเนื่อง ขณะเดียวกัน “หาดใหญ่” จ.สงขลา ได้กลายเป็นหนึ่งในจุดหมายปลายทางที่ได้รับความนิยมเพิ่มขึ้นเช่นกัน โดยเฉพาะในกลุ่มนักท่องเที่ยวจากมาเลเซียและสิงคโปร์

ความนิยมที่เพิ่มขึ้นของหาดใหญ่อาจเกิดจากปัจจัยในด้านความคุ้มค่า เนื่องจากเป็นเมืองที่ได้รับการจัดอันดับให้เป็นจุดหมายปลายทางที่มีราคาถูกที่สุดในประเทศไทย และติดอันดับ 1 ใน 3 ของจุดหมายปลายทางราคาถูกในเอเชียติดต่อกัน 2 ปีซ้อน อีกทั้งถูกมองว่าเป็นเมืองที่มอบประสบการณ์การท่องเที่ยวที่หลากหลาย ไม่ว่าจะเป็นในด้านความคึกคัก ความสงบริมชายหาด ไปจนถึงเสน่ห์ทางวัฒนธรรมที่น่าค้นหา

อย่างไรก็ตาม ประเทศที่มีจำนวนนักเดินทางมาเยือนประเทศไทยมากที่สุดกลับไม่ใช่ประเทศที่นักเดินทางพำนักอยู่นานที่สุด โดยนักเดินทางจาก “จีน” แม้จะครองอันดับ 1 ในด้านจำนวนผู้มาเยือน แต่เมื่อพิจารณาระยะเวลาการเข้าพักเฉลี่ยแล้วพบว่า นักเดินทางจาก “เกาหลีใต้” ใช้เวลาอยู่ในประเทศไทยนานที่สุด รองลงมาคือ ญี่ปุ่น มาเลเซีย สิงคโปร์ และจีน ตามลำดับ

นอกจากนี้ นักเดินทางแต่ละประเทศยังมีจุดหมายปลายทางที่นิยมสำหรับการพักระยะยาวแตกต่างกัน โดยส่วนใหญ่มักเลือกจุดหมายปลายทางที่เป็นเกาะ เช่น “เกาะเต่า” ซึ่งมีแหล่งดำน้ำที่มีชื่อเสียงระดับโลก และ “เกาะพะงัน” ที่สามารถเติมเต็มประสบการณ์พักผ่อนด้วยความสงบของธรรมชาติและปาร์ตี้ชื่อดัง

รวมถึงจุดหมายปลายทางในภาคกลางอย่าง “ปทุมธานี” ที่มีบรรยากาศแสนสงบและวิถีชีวิตแบบท้องถิ่นใกล้เมืองหลวงอีกด้วย

อ่านข่าวต้นฉบับได้ที่ : ททท.เปิดแผนเที่ยวไทยปี’69 ยกระดับคุณค่าทุกมิติสู่ ‘The New Thailand’

ติดตามข่าวล่าสุดได้ทุกวัน ที่นี่
– Website : https://www.prachachat.net

ดูข่าวต้นฉบับ
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...

ล่าสุดจาก ประชาชาติธุรกิจ

เปิดข้อมูล 5 เดือนแรกปี'68 ผู้โดยสารทางอากาศทะลุ 72 ล้านคน

18 นาทีที่แล้ว

กรมอุตุนิยมวิทยา ไทยตอนบนยังเจอฝนตกหนัก เตือนระวังน้ำท่วมฉับพลัน

1 ชั่วโมงที่ผ่านมา

มาสด้า ต่อ ‘จิ๊กซอว์’ สำคัญ กลับมาเพอร์ฟอร์มอีกครั้ง

1 ชั่วโมงที่ผ่านมา

อายิโนะโมะโต๊ะ ปี'67 รายได้ 3.2 หมื่นล้าน 'ผงชูรส' ยังขายดี

1 ชั่วโมงที่ผ่านมา

วิดีโอแนะนำ

ข่าวและบทความธุรกิจ-เศรษฐกิจอื่น ๆ

ค้าปลีกที่คิดเชิงระบบ: ซีพี แอ็กซ์ตร้า กับการหนุนเศรษฐกิจฐานรากยั่งยืน

TNN ช่อง16

เปิดข้อมูล 5 เดือนแรกปี'68 ผู้โดยสารทางอากาศทะลุ 72 ล้านคน

ประชาชาติธุรกิจ

หยุดยาววันเฉลิมพระชนมพรรษา คนไทยเที่ยวในประเทศลดลง หาที่เที่ยวต่างประเทศพุ่ง

ฐานเศรษฐกิจ

“พาณิชย์” เร่งช่วยเหลือผู้ได้รับผลกระทบจากสถานการณ์ชายแดนไทย–กัมพูชา

สยามรัฐ

เปิดดูรายละเอียด "ญี่ปุ่น" ยอมแลกอะไรบ้าง ทำไม "สหรัฐฯ" ยอมหั่น "ภาษีทรัมป์" เหลือ 15 %

TNN ช่อง16

KLeasing wins Best Automobile Financing award from The Asian Banker

AEC10NEWs

นักลงทุนคิดหนักค้ากัมพูชา เขมรยิงมั่ว-ธุรกิจหายวับ 1.1 หมื่นล้าน

ประชาชาติธุรกิจ

ราคาน้ำมันประจำวันที่ 26/07/68 อัปเดตจาก 4 สถานี

สยามรัฐ

ข่าวและบทความยอดนิยม

ททท.เปิดแผนเที่ยวไทยปี’69 ยกระดับคุณค่าทุกมิติสู่ ‘The New Thailand’

ประชาชาติธุรกิจ

ธปท. ชี้แบงก์ไทยในกัมพูชานำพนักงานกลับประเทศทั้งหมดภายในวันนี้ (25 ก.ค.)

ประชาชาติธุรกิจ

SET วันนี้ (25 ก.ค.) แกว่งตัว ลุ้นปรับขึ้น ผลกระทบจากสถานการณ์ไทย-กัมพูชา จำกัด

ประชาชาติธุรกิจ
ดูเพิ่ม
Loading...