โปรดอัพเดตเบราว์เซอร์

เบราว์เซอร์ที่คุณใช้เป็นเวอร์ชันเก่าซึ่งไม่สามารถใช้บริการของเราได้ เราขอแนะนำให้อัพเดตเบราว์เซอร์เพื่อการใช้งานที่ดีที่สุด

ทั่วไป

คืบหน้า คดีนายหน้าประกันภัยหลอกเก็บเบี้ยประกันภัย นักศึกษา ม.ขอนแก่น

AEC10NEWs

อัพเดต 15 กรกฎาคม 2568 เวลา 14.10 น. • เผยแพร่ 5 ชั่วโมงที่ผ่านมา • AEC10NEWS

สำนักงานคณะกรรมการกำกับและส่งเสริมการประกอบธุรกิจประกันภัย (สำนักงาน คปภ.) ได้รับรายงานว่า เมื่อวันที่ 24 มิถุนายน 2568 เวลา 16.00 น. มีนักศึกษามหาวิทยาลัยขอนแก่น จำนวนกว่า 50 คน รวมตัวกัน ณ บริเวณสถานีบริการน้ำมัน ปตท. ภายในมหาวิทยาลัยขอนแก่น อำเภอเมือง จังหวัดขอนแก่น เนื่องจากกลุ่มนักศึกษาดังกล่าวได้รับความเสียหายจากกรณีที่นายบัณฑิต จำปาแขม (นายบัณฑิตฯ) นายหน้าประกันวินาศภัย ได้ตั้งโต๊ะรับทำกรมธรรม์ประกันภัยภาคบังคับ (พ.ร.บ.) และต่ออายุภาษีรถจักรยานยนต์ และรถยนต์ภายในบริเวณสถานีบริการน้ำมันดังกล่าว ต่อมา เมื่อกลุ่มนักศึกษาได้ชำระเงินค่าเบี้ยประกันภัย นายบัณฑิตฯ ได้ออกใบเสร็จรับเงินชั่วคราวให้แก่ผู้ขอเอาประกันภัยในนามบริษัท ศรีกรุงโบรกเกอร์ จำกัด แต่ไม่นำเงินค่าเบี้ยประกันภัยส่งให้แก่บริษัทประกันภัย รวมทั้งไม่ดำเนินการต่ออายุภาษีรถประจำปีให้แก่กลุ่มนักศึกษาแต่อย่างใด

ภายหลังได้รับรายงาน นายชูฉัตร ประมูลผล เลขาธิการคณะกรรมการกำกับและส่งเสริมการประกอบธุรกิจประกันภัย มิได้นิ่งนอนใจต่อเหตุการณ์ฯ ดังกล่าว จึงได้มีบัญชาให้นายอดิศร พิพัฒน์วรพงศ์ รองเลขาธิการด้านกฎหมายและตรวจสอบ นางสาววสุมดี วสีนนท์ รองเลขาธิการ ด้านกำกับคนกลางและประกันภัยภูมิภาค นายจอม จีระแพทย์ ผู้ช่วยเลขาธิการ สายกฎหมายและคดี และนางสาววิไลรัตน์ แสงแก้ว ผู้ช่วยเลขาธิการ สายส่งเสริมและประกันภัยภูมิภาค เร่งตรวจสอบข้อเท็จจริงและดำเนินการตามกฎหมายกับผู้กระทำความผิด ต่อมา เมื่อวันที่ 25 มิถุนายน 2568สำนักงาน คปภ. จังหวัดขอนแก่น จึงได้ลงพื้นที่ตรวจสอบข้อมูลเพื่อให้ความช่วยเหลือด้านการประกันภัย รับข้อร้องเรียน รวมถึงให้คำแนะนำแก่ผู้เสียหายในการแจ้งความร้องทุกข์นายบัณฑิตฯ ในความผิดฐานฉ้อโกงและความผิดตามพระราชบัญญัติประกันวินาศภัยต่อพนักงานสอบสวนสถานีตำรวจภูธรเมืองขอนแก่น โดยมีผู้เสียหายเข้าแจ้งความร้องทุกข์นายบัณฑิตฯ ต่อพนักงานสอบสวน จำนวน 57 ราย นอกจากนี้ บริษัท ศรีกรุงโบรกเกอร์ จำกัด ได้เยียวยาความเสียหายโดยการจัดทำกรมธรรม์ประกันภัยภาคบังคับให้แก่ผู้เสียหายทั้ง 57 ราย

ในวันเดียวกันนั้น พนักงานเจ้าหน้าที่ สำนักงาน คปภ. จังหวัดขอนแก่น ได้แจ้งข้อกล่าวหากับนายบัณฑิตฯ ว่า การที่นายบัณฑิตฯ รับชำระเงินค่าเบี้ยประกันภัยจากผู้เอาประกันภัย แต่มิได้แจ้งขอเอาประกันภัย และมิได้นำส่งเงินค่าเบี้ยประกันภัยให้กับบริษัทประกันภัย อันมีผลทำให้ผู้ขอเอาประกันภัยมิได้รับความคุ้มครอง การกระทำของนายบัณฑิตฯ ดังกล่าวข้างต้นจึงเป็นการดำเนินงานที่ก่อหรืออาจก่อให้เกิดความเสียหายแก่ผู้เอาประกันภัย ผู้รับประโยชน์ตามกรมธรรม์ประกันภัย หรือประชาชน อันเป็นความผิดตามมาตรา 76/1 (6) แห่งพระราชบัญญัติประกันวินาศภัย พ.ศ. 2535 และที่แก้ไขเพิ่มเติม นอกจากนี้ การกระทำดังกล่าวของนายบัณฑิตฯ ถือได้ว่ามีเจตนาทุจริต หลอกลวงผู้อื่นด้วยการชักชวน ชี้ช่อง หรือจัดการให้ผู้อื่นนั้นทำสัญญาประกันภัยกับบริษัท แต่ไม่ดำเนินการให้มีการทำสัญญาประกันภัยเกิดขึ้น และโดยการหลอกลวงดังกล่าวของนายบัณฑิตฯ ทำให้ได้ไป ซึ่งทรัพย์สินจากผู้ถูกหลอกลวงหรือบุคคลที่สามการกระทำของนายบัณฑิตฯ จึงเข้าข่ายเป็นความผิดฉ้อฉลประกันภัยตามมาตรา 108/3 แห่งพระราชบัญญัติประกันวินาศภัย พ.ศ. 2535 แก้ไขเพิ่มเติมโดยพระราชบัญญัติประกันวินาศภัย (ฉบับที่ 4) พ.ศ. 2562อีกกรณีหนึ่ง ซึ่งนายบัณฑิตฯ รับทราบตามที่พนักงานเจ้าหน้าที่แจ้งข้อกล่าวหาแล้ว และไม่มีพยานหลักฐานอื่นใดนำมาแสดงต่อพนักงานเจ้าหน้าที่เพื่อโต้แย้งแก้ข้อกล่าวหาข้างต้นอีก เลขาธิการ คปภ. ในฐานะนายทะเบียน จึงมีคำสั่งที่ 27/2568 ลงวันที่ 30 มิถุนายน 2568 เพิกถอนใบอนุญาตเป็นนายหน้าประกันวินาศภัยของนายบัณฑิตฯ อาศัยอำนาจตามความในมาตรา 76/1 (6) แห่งพระราชบัญญัติประกันวินาศภัย พ.ศ. 2535 และที่แก้ไขเพิ่มเติม ทั้งนี้ นายบัณฑิตฯ ไม่สามารถกระทำการและไม่อาจยื่นขอรับใบอนุญาตเป็นตัวแทน/นายหน้าประกันชีวิตและวินาศภัยได้ เป็นระยะเวลา 5 ปี นับแต่วันที่ 30 มิถุนายน 2568 สำหรับความผิดฐานฉ้อฉลประกันภัย ตามมาตรา 108/3 แห่งพระราชบัญญัติประกันวินาศภัย พ.ศ. 2535 แก้ไขเพิ่มเติมโดยพระราชบัญญัติประกันวินาศภัย (ฉบับที่ 4) พ.ศ. 2562 พนักงานสอบสวนผู้รับผิดชอบคดี จะดำเนินการตามกฎหมายต่อไป

สำหรับประเด็นปัญหาคนกลางประกันภัยทุจริตเงินค่าเบี้ยประกันภัยนั้น สำนักงาน คปภ. ร่วมกับสมาคมประกันชีวิตไทย สมาคมประกันวินาศภัยไทย สมาคมตัวแทนประกันชีวิตและที่ปรึกษาการเงิน และสมาคมนายหน้าประกันภัยไทย ได้วางแนวทางการดำเนินการและแก้ไขปัญหาดังกล่าว โดยอยู่ระหว่างให้บริษัทประกันภัยกำหนดแนวนโยบายให้การรับชำระเบี้ยประกันภัยจะต้องโอนเข้าบัญชีของบริษัทประกันภัยโดยตรงเท่านั้น หากตัวแทนประกันภัยหรือนายหน้าประกันภัยบุคคลธรรมดา รับชำระค่าเบี้ยประกันภัยเป็นเงินสดจากผู้ขอเอาประกันภัย บริษัทประกันภัยจะต้องมีระบบในการตรวจสอบการรับชำระเงินของตัวแทนประกันภัยและนายหน้าประกันภัย โดยให้นำส่งบริษัทประกันภัยภายใน 24 ชั่วโมง หากมีการฝ่าฝืนไม่นำส่งเงินภายในระยะเวลาที่กำหนดดังกล่าว ให้บริษัทประกันภัยยกเลิกสัญญาแต่งตั้งตัวแทนประกันภัยและนายหน้าประกันภัยบุคคลธรรมดา และนำข้อมูลดังกล่าวส่งให้สำนักงาน คปภ. เพื่อบันทึกในระบบฐานข้อมูลเกี่ยวกับการฉ้อฉลประกันภัย หรืออาจจะฉ้อฉลประกันภัยของตัวแทนประกันภัยและนายหน้าประกันภัยต่อไป

ข่าวที่เกี่ยวข้อง : คปภ. ยกระดับกระบวนการยุติธรรมทางเลือก ขับเคลื่อนอนาคตระบบประกันภัยไทย

ดูข่าวต้นฉบับ
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...

ล่าสุดจาก AEC10NEWs

ธนาคารไทยพาณิชย์ ประเมินค่าเงินบาทวันนี้ 32.35-32.60 บาท/ดอลลาร์

2 ชั่วโมงที่ผ่านมา

สรุปสถานการณ์น้ำภาพรวมของประเทศ วันที่ 15 ก.ค. 68

4 ชั่วโมงที่ผ่านมา

วิดีโอแนะนำ

ข่าวและบทความทั่วไปอื่น ๆ

ชี้พรรครัฐบาลญี่ปุ่นอาจสูญเสียเสียงข้างมากในสภาสูง

สำนักข่าวไทย Online

ยังไง? ‘ผู้ว่าแบงก์ชาติ’ คนใหม่เข้าครม.ไม่ทัน ‘ณัฐฏ์จารี’ บอกยังไม่เห็นเอกสาร

The Bangkok Insight

ตำรวจบุก หลัง ศาลออกหมายจับ ลูกก๊ก อาน 3 คน ค้นพื้นที่ 7 จุด

มุมข่าว

ลูกชายร้อง รื้อคดีพ่อถูกยิงดับ หลังตำรวจ-อัยการสั่งไม่ฟ้อง

INN News

นักสิทธิมนุษยชน ถูกทหารฟ้องข้อหาหมิ่นประมาท และ พ.ร.บ.คอมฯ จากการช่วยชาวบ้าน ‘ทวงเงินจากค่ายทหาร’

The MATTER

ออกหมายจับ 'สีกากอล์ฟ' ฟอกเงิน-รับของโจร ปมเงินวัดชูจิตฯ

JS100
วิดีโอ

แก๊งจีนดำฆ่าจีนเทา เรียกค่าไถ่-สังหารโหด | ข่าวช่องวัน

ข่าวช่องวัน 31
วิดีโอ

หนุ่มชนแล้วหนี ต่อยหน้านักข่าวตามติดคดี | ข่าวช่องวัน

ข่าวช่องวัน 31

ข่าวและบทความยอดนิยม

คปภ. ยกระดับกระบวนการยุติธรรมทางเลือก ขับเคลื่อนอนาคตระบบประกันภัยไทย

AEC10NEWs

คปภ. ดึงพลังผู้นำยุคใหม่ร่วมขับเคลื่อนระบบประกันภัยไทยสู่ความยั่งยืน

AEC10NEWs

คปภ. สั่ง “เคดับบลิวไอ ประกันภัย” หยุดรับประกันชั่วคราว

AEC10NEWs
ดูเพิ่ม
Loading...