‘ทาทา ยัง’ ปลื้มลูกชายโตเกิดคาด ไม่ติด ถ้า ’น้องเร‘ อยากเดบิวต์เป็นนักร้อง แถมหวงแม่สุดๆ!
เรียกได้ว่าเป็นซุป‘ตาร์ตัวแม่ของวงการร้องเพลง สำหรับ “อมิตา ทาทา ยัง“ ที่ล่าสุดในงานแถลงข่าวพิเศษการกลับมาอย่างยิ่งใหญ่ของดีว่าระดับตำนาน Mariah Carey เพื่อเฉลิมฉลองครบรอบ 20 ปีของอัลบั้มระดับตำนาน The Emancipation of Mimi นักร้องสาวควงแขนกับ “น้องเร” ลูกชายสุดที่รักคู่กันเป็นครั้งแรก โดยเธอได้เผยถึงพัฒนาการของ น้องเร ลูกชายสุดที่รักในวัย 9 ขวบ ด้วยความปลื้มปริ่มที่น้องเรเติบโตมาเป็นเด็กน่ารัก อ่อนโยน และนอบน้อม ซึ่งเป็นสิ่งที่ทาทาสอนมาตลอด และเห็นผลดีเกินคาด
โดย ทาทา เผยว่า "สำหรับพัฒนาการตอนอายุ9ขวบของลูกเรา ก็ดีใจค่ะ ที่โตมาแล้วเป็นเด็กที่น่ารัก อ่อนโยน นอบน้อม ก็ดีใจที่สิ่งที่สอนไว้ได้ผลดี พี่เรน่ารักเห็นไหมว่าทุกคนแฮปปี้ (น้องเร: (ยิ้ม) สวัสดีครับ) ส่วนในเรื่องไหว้สวยอาจจะมาจากที่เรียนนาฏศิลป์ วันเสาร์อาทิตย์เขาจะมีไปเรียนโขนบ้าง เขาชอบเกี่ยวกับการรำ การเต้น (น้องเร: สาเหตุที่ชอบโขน เพราะว่าเต้นเสร็จแล้ว ตอนแม่หลับจะปลุกได้ โดยปลุกว่า นางรำมาแล้วจ้า) คือแม่ก็เลยลุกสิ เราก็นึกว่าอะไรมาลง ช่วงแรกๆ ที่เขาชอบ เราได้ยินเสียงดนตรีไทย เราก็แบบว่าใครเปิดวะ คือเราก็ตกใจ (น้องเร: สาเหตุที่ใช้วิธีนี้ปลุกแม่เพราะว่ามันสนุก แต่ก็ไม่รู้ว่าแม่กลัว)
ในเรื่องของน้องเรคือเกินความคาดหมายและความคาดหวังหลายอย่าง นั่นคือความเข้าใจที่เขาเป็นเหมือนผู้ใหญ่ เขาเข้าใจหลายอย่าง และเขาก็น่ารัก อยู่กับเขาแล้วมีความสุข เขามีความคิดที่น่าสนใจ เด็กเจนนี่ต้องฟังเขาดีดี เพราะว่าไอเดียเขาแบบ…เราชอบภาษาในเจนอัลฟ่า แต่เห็นอย่างนี้ตอนอยู่บ้านเราทะเลาะกันตลอดเวลานะ ทันกันทั้งคู่ เล่นมุกด้วยกันตลอด ถามว่าเขาชอบร้องเพลงไหม (น้องเร: ชอบครับ) แล้วเขาร้องเพลงไม่เพี้ยน ตรงคีย์ แต่เขาไม่ร้องให้ฟังนะ เขารอเดบิวต์ พี่เรรู้ไหมว่าหม่ามี้ดัง (น้องเร: Yes) คือตัวแม่เองไม่อยากร้องแล้ว แต่ลูกยังเอ็นจอยอยู่ ลูกถามว่าวันนี้ทำไมแม่ไม่ร้องแมลงอ่ะ พอไปเล่นคอนเสิร์ต (น้องเร: มีอยู่หนึ่งเพลงที่ไม่ให้คุณแม่ร้องแล้ว คือเพลง Dhoom Dhoom เพราะว่าแม่เคยบอกว่าถ้าให้เรเต้นเพลงของแม่จะให้เต้นเพลง Dhoom Dhoom เรเลยบอกว่า No way) ทำไมอ่ะ คือเขาเป็นสายช็อตฟิวส์มาก รับส่งมุกกันสุดขีด
ส่วนเรื่องที่แลกเปลี่ยนกับลูกชาย เราว่าก็ตามอายุ คือก็เอาเท่าที่เข้าใจ แล้วอยู่ด้วยกันได้ก็แฮปปี้แม่ลูก เรารู้สึกว่าการที่เราเป็นเด็กมันมีความสุขเนอะ คือเชื่อว่าคำว่าอยากกลับไปเป็นเด็กจริงๆ เลยอยากให้เขาอยู่กับความเป็นเด็กนานๆ เพราะว่ามันไม่ต้องไปทะเลาะ ไม่ต้องไปอะไรกับใคร ไม่ต้องไปมีเรื่อง ไม่ต้องไปอะไรเลย เวลาเขากลับมาจากโรงเรียน เขาก็เถียงกับเพื่อนเขา เราก็จะบอกว่าอย่าเพิ่งเถียงกับใครเลย เดี๋ยวโตไปได้เถียงกับคนฉ่ำ ได้ตีกับคนฉ่ำแน่ลูก คือไม่ต้องกลัว ตอนนี้ก็มีความสุขไปก่อน อยู่กับชีวิตในความเด็ก เราก็จะพยายามอยู่กับเขา
ในพาร์ทของการเป็นแม่แบบจริงจัง หม่ามี้ดุไหม (น้องเร: Yes) เวลาดุก็ดุค่ะ เวลาเรื่องที่ต้องดุก็ต้องดุ ก็ต้องตักเตือน ไม่งั้นใครจะดุลูก ที่เราไม่ให้คนอื่นมาดุลูกเราอยู่แล้วไหม แต่เราไม่เคยตีเรเลย (น้องเร: (มองหน้า) คือเราไม่เคยใช้ความรุนแรง และคิดว่าเราคุยกันรู้เรื่องอยู่แล้ว เพราะว่าเขาเป็นเด็กที่ไม่ได้สอนยาก ส่วนที่บอกว่าอยากเห็นลูกเดบิวต์ คือเราไม่ได้วางแผนอะไรเลยค่ะ แค่อยากให้มันเป็นอะไรที่เขาเลือกเอง ถ้าเขาอยากจะทำ ชีวิตของเรก็เป็นชีวิตของเร ไม่ใช่ชีวิตของหม่ามี้ แต่หม่ามี้ก็จะอยู่ตรงนี้เพื่อเรเสมอ ไม่ว่าจะอย่างไรก็ตาม เขาอยากจะทำอะไร ถ้าเขาอยากจะเป็นนักร้องก็เดี๋ยวรอเดบิวต์ ถามว่าน้องเรรู้สึกยังไงที่วันนี้หม่ามี้สวยขึ้น น้องเรบอกว่า I don’t know เขาบอกว่าวันนี้เราแต่งหน้าเยอะไป (หัวเราะ) เราก็พยายามอธิบายให้ลูกฟัง เขาก็บ่นแม่ชุดใหญ่เลย ไม่เป็นไร เดี๋ยวไปลบลูก มันไม่ได้อยู่ตลอดกาล
วันนี้เราสวยขึ้น ก็ดูแลสุขภาพเพื่อเขาและตัวเอง ก็รักตัวเองมากขึ้น ดูแลตัวเองมากขึ้น ส่วนวิธีแชร์เคล็ดลับ ถ้าจะให้แชร์ก็ต้องแชร์กันเป็นปี เพราะว่าไม่ได้เพิ่งเริ่มทำ เราทำมาสักพักใหญ่แล้ว เดี๋ยวค่อยแชร์ถ้าแชร์ยาวแน่ ส่วนไทรอยด์เราก็ไม่ได้เป็นแล้ว สำหรับวันนี้หลายคนก็ชื่นชมว่าเราสวยแล้วผอมแล้ว ก็ต้องขอขอบคุณนะคะ ขอบคุณแฟนๆ ที่เป็นกำลังใจ และเป็นพลังที่ทำให้ทาสู้ ก็อยากจะทำให้ทุกๆ คนเห็นว่าเราทำได้ เมื่อเราดูแลตัวเอง รักตัวเอง ก็จะมีพลังที่มันเกิดขึ้นหลายอย่าง และเราก็จะทำได้ ส่วนลูกก็เป็นอีกหนึ่งพลัง เพราะว่าเห็นคุณแม่น้องไอซ์ พาริส เป็นคนที่สวยมาก คุณแม่เป๊ะมาก ถ้าลูก 27 แล้วยังเป็นแบบนั้นได้ ดิฉันก็คงต้องตามเขาไปแล้วแหละ
เป้าหมายในอนาคตต่อไปจะให้ผอมอีกหรอ เอาเป็นว่าเดี๋ยวดูต่อไปแล้วกันค่ะ ว่าจะขนาดไหน เอาอะไรก็ได้ที่ไม่โทรม ไม่ทำให้เรารู้สึกแย่ ตอนนี้เป็นอย่างนี้ยังพัฒนาได้อยู่ก็ยังอยากไปต่อ แล้วเมื่อปีที่แล้วเราป่วยหนัก แล้วบอกกับตัวเองว่าจะไม่ปล่อยให้ตัวเองกลับมาอยู่ในจุดนี้อีกแล้ว และนั่นก็คือจุดที่พลิกทุกอย่าง เราเริ่มดูแลตัวเองตั้งแต่วันนั้น เริ่มกินดี เริ่มดูแลตัวเอง คือเดินเยอะมาก ส่วนคอนเสิร์ตปลายปีไม่ได้ขึ้นของงานนี้นะคะ เป็นของอีกงานหนึ่งเดือนกันยายน ไปค้นหากันเอาเอง ก็เดี๋ยวไปดูกัน“