"เอมิเรตส์ แอร์ไลน์ส" ผนึก "Crypto.com" เปิดรับบิทคอยน์และสกุลเงินคริปโต ฯ จ่ายค่าตั๋วเครื่องบิน

โลกการบินพลิกโฉมขยายสู่ยุคดิจิทัล เมื่อสายการบินยักษ์ใหญ่อย่าง "เอมิเรตส์ แอร์ไลน์ส" จากดูไบ จับมือ "Crypto.com" แพลตฟอร์มคริปโตฯ ระดับโลก ลงนามบันทึกความเข้าใจ (MOU) ครั้งประวัติศาสตร์ เตรียมเปิดประตูสู่ "ยุคใหม่" ของการชำระค่าบริการด้วย "คริปโตเคอร์เรนซี" รวมถึงรุกคืบโลก "NFTs" และ "เมตาเวิร์ส" ซึ่งนี่ไม่ใช่แค่การจ่ายเงิน แต่คือ "การปฏิวัติการเดินทาง" และ "การค้าไร้พรมแดน" ที่กำลังจะเกิดขึ้นจริง

สายการบินเอมิเรตส์ แอร์ไลน์ส ได้จับมือกับ Crypto.com เพื่อสำรวจโซลูชันการชำระเงินด้วยสกุลเงินดิจิทัลทั่วทั้งระบบนิเวศการเดินทางของดูไบ โดยดูไบ ดิวตี้ ฟรี ได้ลงนามบันทึกความเข้าใจกับกระดานเทรดคริปโตฯ ระดับโลก เพื่อเปิดใช้งานการชำระเงินด้วยสินทรัพย์ดิจิทัลทั้งในร้านค้าจริงและแพลตฟอร์มออนไลน์ โดยมีเป้าหมายที่นักเดินทางต่างชาติหลายล้านคน ซึ่งเดินทางผ่านสนามบินนานาชาติดูไบ ด้วยข้อตกลงนี้ ดูไบจะกลายเป็น "ผู้บุกเบิก" ในด้านการค้าปลีกการเดินทางที่รองรับคริปโตฯ ซึ่งสอดคล้องกับ "วาระ D33" ของดูไบ ที่ต้องการเสริมสร้างตำแหน่งของตนในฐานะศูนย์กลางนวัตกรรมระดับโลกและผู้นำในเศรษฐกิจอัจฉริยะ

ขณะที่สมเด็จพระราชินีชีคอาเหม็ด บิน ซาอีด อัล มักทูม ประธานหน่วยงานการบินพลเรือนดูไบ และซีอีโอของสายการบินเอมิเรตส์ แอร์ไลน์ส แอนด์ กรุ๊ป เน้นย้ำว่าความร่วมมือครั้งนี้เป็น "ก้าวที่น่าหวังสู่ความพยายามร่วมกันของเราในการเปลี่ยนแปลงการเดินทางและการค้า" ด้วยการสำรวจโซลูชันการชำระเงินดิจิทัลขั้นสูงที่ช่วยยกระดับประสบการณ์นักเดินทางตั้งแต่การจองไปจนถึงการค้าปลีก

ด้านนายราเมช ซิดัมบี กรรมการผู้จัดการของดูไบ ดิวตี้ ฟรี และนายโมฮัมเหม็ด อัล ฮาคิม ประธานฝ่ายปฏิบัติการยูเออีของ Crypto.com ได้ลงนามในข้อตกลงความร่วมมืออย่างเป็นทางการที่สำนักงานใหญ่ของสายการบินเอมิเรตส์ โดยมีสมเด็จพระราชินีชีคอาเหม็ด บิน ซาอีด อัล มักทูม ร่วมเป็นสักขีพยาน

นอกเหนือจากการบูรณาการการชำระเงินแล้ว MOU นี้ยังครอบคลุมความร่วมมือเชิงกลยุทธ์ รวมถึงแคมเปญการตลาดร่วมกันและโปรแกรมการมีส่วนร่วมของลูกค้า ซึ่งออกแบบมาเพื่อใช้ประโยชน์จากจุดแข็งของทั้งสององค์กร

"MOU นี้เน้นย้ำถึงความมุ่งมั่นของเราต่อนวัตกรรมและการมอบความสะดวกสบายและทางเลือกที่มากขึ้นสำหรับลูกค้าของเรา" ซิดัมบีกล่าว โดยเน้นย้ำว่าการบูรณาการการชำระเงินด้วยคริปโตฯ นี้จะเพิ่มมูลค่าอย่างมีนัยสำคัญให้กับฐานลูกค้าต่างประเทศที่หลากหลายของดูไบ ดิวตี้ ฟรี

ด้านเอริก อันเซียนี ประธานและซีโอโอของ Crypto.com ก็แสดงความตื่นเต้นเช่นกัน เขาเน้นย้ำถึงบทบาทของความร่วมมือในการขยายกรณีการใช้งานคริปโตฯ ในชีวิตประจำวัน โดยระบุว่าจะ "นำโมเมนตัมที่แท้จริงมาสู่อุตสาหกรรมสินทรัพย์ดิจิทัล" พร้อมทั้งช่วยให้ทั้งสองบริษัทสามารถนำเสนอโซลูชันทางการเงินที่เป็นนวัตกรรมอย่างแท้จริง

ทั้งนี้ ดูไบ ดิวตี้ ฟรี มีเป้าหมายที่จะวางรากฐานที่แข็งแกร่งสำหรับการนำการชำระเงินด้วยคริปโตฯ มาใช้ ซึ่งขับเคลื่อนโดยผลประกอบการที่แข็งแกร่งในช่วงครึ่งแรกของปี 2568 โดยมีรายรับ 4.118 พันล้าน AED (1.128 พันล้านดอลลาร์สหรัฐฯ) ซึ่งเพิ่มขึ้น 5.34% เมื่อเทียบเป็นรายปี ความร่วมมือครั้งนี้สร้างขึ้นบนประวัติศาสตร์ของบริษัทในการยอมรับเทคโนโลยีการชำระเงินที่ล้ำสมัย โดยก่อนหน้านี้ได้รวมโซลูชันต่างๆ เช่น Alipay และ TerraPay เพื่อสร้างระบบนิเวศที่พร้อมสำหรับอนาคตสำหรับการค้าปลีกการเดินทางทั่วโลก

อย่างไรก็ดีทั้งสองฝ่ายจะเริ่มการศึกษาความเป็นไปได้และการวางแผนรายละเอียดเพื่อนำโซลูชันการชำระเงินด้วยคริปโตฯ มาใช้ และเริ่มโครงการความร่วมมือภายใต้ข้อตกลงนี้

โมเมนตัมที่เพิ่มขึ้นในการยอมรับคริปโตฯ ทั่วโลก

การบูรณาการคริปโตฯ ของดูไบ ดิวตี้ ฟรี เสริมกลยุทธ์การเปลี่ยนแปลงทางดิจิทัลของสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ ซึ่งประสบความสำเร็จในการเป็นพันธมิตรกับ Crypto.com สำหรับการชำระค่าบริการของรัฐบาล และธนาคารอิสลามแห่งดูไบสำหรับผลิตภัณฑ์ที่สอดคล้องกับหลักชะรีอะห์

ขณะที่ช่วงเวลาดังกล่าวสอดคล้องกับโมเมนตัมทั่วโลกที่เพิ่มขึ้นสำหรับการชำระเงินด้วยคริปโตฯ ในการเดินทาง ดังที่เห็นได้จากการนำระบบการชำระเงินการท่องเที่ยวด้วยคริปโตฯ ระดับชาติของภูฏานมาใช้เมื่อเร็วๆ นี้ โดยร่วมมือกับ Binance Pay

ความชัดเจนด้านกฎระเบียบและจุดยืนที่สนับสนุนคริปโตฯ ของดูไบ กำลังดึงดูดธุรกิจต่างๆ ท่ามกลางกฎระเบียบ MiCA ที่เข้มงวดของสหภาพยุโรป ซึ่งกระตุ้นให้บริษัทคริปโตฯ แสวงหาเขตอำนาจศาลที่เอื้ออำนวยมากขึ้น วิสัยทัศน์ของสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ในการบรรลุเป้าหมายการทำธุรกรรมแบบไร้เงินสด 90% ภายในปี 2569 ตามที่ระบุไว้ในกลยุทธ์ไร้เงินสด สร้างสภาพแวดล้อมที่เหมาะสมสำหรับการนำการชำระเงินด้วยคริปโตเคอร์เรนซีมาใช้ เจ้าหน้าที่รัฐบาลประมาณการว่าการเปลี่ยนผ่านการชำระเงินดิจิทัลอาจเพิ่มรายได้ให้กับเศรษฐกิจท้องถิ่นอย่างน้อย 8 พันล้านเดอร์แฮม (dirhams)

อย่างไรก็ตาม ข้อกังวลด้านความปลอดภัยยังคงเป็นอุปสรรคสำคัญต่อการนำการชำระเงินด้วยคริปโตเคอร์เรนซีมาใช้อย่างแพร่หลาย โดย 37% ของผู้ใช้ระบุว่าการแฮ็กและการฉ้อโกงเป็นอุปสรรคสำคัญ ตามการวิจัยอุตสาหกรรมล่าสุด เนื่องจากดูไบ ดิวตี้ ฟรี ให้บริการนักเดินทางต่างชาติหลายล้านคนต่อปี ความร่วมมือครั้งนี้อาจเร่งการนำคริปโทเคอร์เรนซีมาใช้ในกระแสหลักมากขึ้น โดยการแสดงให้เห็นถึงกรณีการใช้งานจริงในชีวิตประจำวัน ที่ขยายไปไกลกว่าการใช้งานในปัจจุบัน

กระนั้นการจับมือกันระหว่าง "เอมิเรตส์ แอร์ไลน์ส" สายการบินระดับโลก และ "Crypto.com" ยักษ์ใหญ่ในวงการคริปโตฯ ไม่ใช่แค่เรื่องของ "การจ่ายเงิน" แต่มันคือ "สัญญาณปฏิวัติการเงิน" ที่กำลังเขย่าโลกการเดินทางและการค้าปลีก ซึ่งดูไบกำลังประกาศกร้าวว่า "พวกเขาคือผู้นำ" ในการก้าวเข้าสู่ยุคเศรษฐกิจดิจิทัลอย่างเต็มตัว และพร้อมที่จะเปิดประตูให้ "คริปโตเคอร์เรนซี" กลายเป็นส่วนหนึ่งในชีวิตประจำวันของผู้คนอย่างแท้จริง ซึ่งการที่สายการบินระดับโลกกล้าที่จะกระโดดเข้าสู่สมรภูมิการชำระเงินด้วยคริปโต ฯ รวมถึงการรุกคืบสู่โลก NFTs และ เมตาเวิร์ส สะท้อนให้เห็นถึง "วิสัยทัศน์ที่กว้างไกล" ของดูไบที่ต้องการเป็น "ศูนย์กลางนวัตกรรม" ของโลก ในขณะที่หลายประเทศยังคงลังเลและเข้มงวดกับกฎระเบียบ ดูไบกลับเลือกที่จะ "เปิดรับ" และ "สร้างสภาพแวดล้อมที่เอื้ออำนวย" ซึ่งดึงดูดธุรกิจคริปโตฯ ทั่วโลกให้หลั่งไหลเข้ามา โดยเฉพาะอย่างยิ่งท่ามกลาง "กฎ MiCA" ที่เข้มข้นของสหภาพยุโรป

อย่างไรก็ตาม ท่ามกลางความตื่นเต้นนี้ สิ่งที่ต้องจับตาคือ "ความปลอดภัย" การที่ 37% ของผู้ใช้ยังคงกังวลเรื่องการแฮ็กและการฉ้อโกง แสดงให้เห็นว่า "ความเชื่อมั่น" ยังคงเป็น "โจทย์ใหญ่" ที่ทั้งเอมิเรตส์และ Crypto.com ต้องพิสูจน์ให้โลกเห็นว่าระบบของพวกเขามีความแข็งแกร่งเพียงพอ หากทำได้สำเร็จ นี่จะไม่ใช่แค่การเปลี่ยนแปลงสำหรับดูไบเท่านั้น แต่จะเป็น "หมุดหมายสำคัญ" ที่เร่งให้ "การยอมรับคริปโตฯ ในกระแสหลัก" เกิดขึ้นเร็วกว่าที่ใคร ๆ คาดคิด

website : mgronline.com
facebook : MGRonlineLive
twitter : @MGROnlineLive
instagram : mgronline
line : MGROnline
youtube : MGR Online VDO