โปรดอัพเดตเบราว์เซอร์

เบราว์เซอร์ที่คุณใช้เป็นเวอร์ชันเก่าซึ่งไม่สามารถใช้บริการของเราได้ เราขอแนะนำให้อัพเดตเบราว์เซอร์เพื่อการใช้งานที่ดีที่สุด

ธุรกิจ-เศรษฐกิจ

เอกชนชี้การส่งออกชะลอตัว "ภาษีสหรัฐฯ" ทำไทยเสียโอกาสทางการค้า

ฐานเศรษฐกิจ

อัพเดต 21 ชั่วโมงที่ผ่านมา • เผยแพร่ 7 ชั่วโมงที่ผ่านมา

นายวิศิษฐ์ ลิ้มลือชา นายกสมาคมการค้าอาหารอนาคตไทย เปิดเผยกับ “ฐานเศรษฐกิจ” ว่า ในช่วง 5 เดือนแรกของปี 2568 สถานการณ์การส่งออกสินค้าต่างๆ ของไทยค่อนข้างดี ผู้ซื้อจากฝั่งสหรัฐฯ ที่เป็นตลาดใหญ่เร่งนำเข้าและสต็อกสินค้าเป็นจำนวนมาก เพราะเห็นความไม่แน่นอนเกี่ยวกับภาษีนำเข้า โดยไม่รู้ว่าสุดท้ายจะต้องเสียภาษีเป็นจำนวนเท่าไหร่ อันตราการเติบโตด้านการส่งออกของไทยจึงสูงถึง 27% ขณะเดียวกันก็คาดการณ์ยอดส่งออกในครึ่งปีหลังว่าจะลดลงอย่างแน่นอน

กระทั้งล่าสุด ประกาศอย่างเป็นทางการจากสหรัฐฯ กำหนดภาษีนำเข้าสินค้าไทย 36% โดยบังคับใช้ในวันที่ 1 สิงหาคม 2568 เป็นต้นไป เรื่องนี้อาจเกิดจากการขยายระยะเวลาเจรจาและส่งเอกสารไม่ตรงกัน ทำให้ตัวเลขภาษียังคงสูง แต่สาระสำคัญในความหมายค่อนข้างชัดเจน ว่าไทยสามารถขยายระยะเวลาการเจรจาต่อรองไป จนกว่าจะถึงกำหนดใช้จริง

"ที่ผ่านมาการเจรจาและข้อเรียกร้องจากสหรัฐฯ ต่อประเทศคู่ค้ามีข้อตกลงค่อนข้างเป็นความลับไม่เผยแพร่สู่สาธารณะชน แต่คราวนี้เผยแพร่ใช้เห็นพร้อมลงชื่อของ "โดนัลด์ ทรัมป์" ประธานาธิบดีสหรัฐฯ ทำให้ฝั่งรัฐบาลไทยไม่สามารถพูดได้มากนัก โดยข้อเรียกร้องบางส่วนที่คาดเดาได้คือ ไทยต้องซื้อของจากสหรัฐมากขึ้น และการซื้อขายเหล่านี้รัฐบาลจะต้องพิจารณาตามกฎเกณฑ์ ความคุ้มค่า เปรียบเทียบราคาจากประเทศอื่นๆ เพื่อให้ได้ผลประโยชน์มากที่สุด ซึ่งเป็นเรื่องปกติพื้นฐานของการค้าขาย"

หากการไม่สามารถแก้ไขหรือเจรจาได้ก่อนครบกำหนด จะส่งผลต่อขีดความสามารถในการแข่งขันของไทยกับประเทศคู่แข่ง เช่น เวียดนาม จีน อินโดนีเซีย โดยผลกระทบที่เกิดขึ้นจะไม่เพียงแค่ทำให้ไทยเสียโอกาสทางการค้า แต่จะเสียโอกาสด้านการลงทุนด้วย นักลงทุนต่างชาติที่มีแผนจะมาลงทุนในไทยจะชะลอการตัดสินใจ หากต้องการผลิตสินค้าส่งออกไปยังตลาดสหรัฐฯ

นายวิศิษฐ์ กล่าวว่า ปัจจุบันไทยยังคงเป็นศูนย์กลางโลจิสติกส์ของอาเซียน การลงทุนบางอย่างกับสินค้าบางประเภทอาจยังคงดำเนินต่อไปได้ ขึ้นอยู่กับการหาตลาดใหม่ของผู้ประกอบการ ต้องพยายามกระจายความเสี่ยงและปรับตัวให้เร็ว แต่การขยายตลาดใหม่ไม่ใช่เรื่องง่าย ต้องอาศัยการเปิดประเทศและ FTA รวมทั้งแรงสนับสนุนจากรัฐบาล

"ตอนนี้ผู้ประกอบการไทยก็กำลังพยายามหาตลาดใหม่อยู่ ทั้งร่วมมือกับกระทรวงพาณิชย์ ที่เริ่มให้ความช่วยเหลือในการจับคู่ทางธุรกิจมากขึ้น เพื่อเริ่มหาวิธีจับคู่ค้าใหม่กับประเทศใหม่ๆ ให้มากขึ้น ขณะเดียวกันผู้ประกอบการก็มีความระมัดระวังสูงสุดในการค้าขาย โดยเฉพาะลูกค้าใหม่ การขายจะเป็นในรูปแบบระยะสั้นเพื่อลดความเสี่ยง โดยต้องเปิด LC (Letter of Credit) หรือจ่ายมัดจำก่อนและชำระส่วนที่เหลือเมื่อสินค้าลงเรือพร้อมมีเอกสารยืนยัน"

อย่างไรก็ตาม ครึ่งหลังของปี 2568 เริ่มตั้งแต่เดือนมิถุนายนเป็นต้นมาเริ่มเห็นแนวโน้มการชะลอตัวของการส่งออกของไทยไปยังสหรัฐฯ แล้ว แน่นอนว่าอัตราการเติบโตจะไม่สูงกว่าปีที่ผ่านมา ผู้ประกอบการณ์ยังคงต้องติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิดทุกวัน เพื่อประกอบการตัดสินใจในการขายสินค้าแบบวันต่อวันและเตรียมพร้อมสำหรับการปรับกลยุทธ์ต่อไป

ดูข่าวต้นฉบับ
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...

ล่าสุดจาก ฐานเศรษฐกิจ

“GULF” ทุ่มเงิน 4.2 หมื่นล้าน ลงทุน 11 โรงไฟฟ้า 746.6 เมกฯ

48 นาทีที่แล้ว

ทองแดงหนุนพลังงานสะอาด UN หวั่นซัพพลายกระทบเศรษฐกิจสีเขียว

1 ชั่วโมงที่ผ่านมา

หอการค้า ชี้ ภาษีสหรัฐฯ ทุบเศรษฐกิจไทย ลากยาว GDP โตไม่ถึง 1%

1 ชั่วโมงที่ผ่านมา

ขึ้นมอเตอร์เวย์ฟรี วันอาสาฬหบูชา วันเข้าพรรษา เปิดทดลองให้บริการมอเตอร์เวย์ M81 10-14 ก.ค.68

1 ชั่วโมงที่ผ่านมา

วิดีโอแนะนำ

ข่าวและบทความธุรกิจ-เศรษฐกิจอื่นๆ

จีนนำเข้า "ทุเรียน" ลดลง เหตุคุมเข้มสารตกค้าง เวียดนามวูบ 62 % ไทยสู้อย่างไรระยะยาว ?

TNN ช่อง16

อดีต รมว.คลัง ชี้ “หุ้นไทยยังไม่ฟื้น” จี้รอ Big Bang เปลี่ยนเกมเศรษฐกิจ รัฐบาลใหม่ต้องกล้าปฏิรูป

สยามรัฐ

“GULF” ทุ่มเงิน 4.2 หมื่นล้าน ลงทุน 11 โรงไฟฟ้า 746.6 เมกฯ

ฐานเศรษฐกิจ

“โดนัลด์ ทรัมป์” ส่งจดหมายเรียกเก็บภาษี 7 ประเทศ “ฟิลิปปินส์” โดน 20%

TNN ช่อง16

“เอกนัฏ”ถกเร่งหามาตรการช่วยอุตฯด่วน กนอ.เสนอลดค่าน้ำ-ไฟอุ้มรง.ในนิคมฯ

Manager Online

10-11 ก.ค. 2568 ขับรถฟรี! กทพ. ยกเว้นค่าทางด่วน 3 สาย ทางพิเศษเฉลิมมหานคร–ศรีรัช–อุดรรัถยา

สยามรัฐ

หุ้นวันนี้ดาวโจนส์ 10 กรกฎาคม 2568 ปิดบวก 217 จุด คาดเฟดเตรียมหั่นดอกเบี้ย

TNN ช่อง16

เทรนด์ความงาม 2025 ‘สวยให้โลกจำ’ ..ต้องมีความยั่งยืนที่หลากหลาย

เดลินิวส์

ข่าวและบทความยอดนิยม

Loading...