'อนุทิน' ย้อนเกล็ด 'ภูมิธรรม' มาตรฐานเดียวกัน 'อัลไพน์-เขากระโดง'

ที่พรรคภูมิใจไทย นายอนุทิน ชาญวีรกูล หัวหน้าพรรคภูมิใจไทย ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีการโยกย้ายภายในกระทรวงมหาดไทย โดยเฉพาะในส่วนของ นายขจรเกียรติ รักพานิชมณี ผู้ว่าฯ ฉะเชิงเทรา ที่ถูกโยกมาเป็นอธิบดีกรมที่ดิน ท่ามกลางการจับตาไปที่ เซ็นเพิกถอนโฉนดที่ดินเขากระโดง ว่า เรื่องนี้ต้องดูตามกฎหมาย ถ้าสุ่มสี่สุ่มห้า เซ็นแล้วผิดกฎหมาย หรือทำไปด้วยเจตนารมณ์ที่ไม่บริสุทธิ์ จงใจทำให้เกิดความเสียหาย หรือเป็นการกลั่นแกล้งกัน ก็ให้ดูว่าในสมัยก่อนมีอธิบดีกรมที่ดิน อดีตปลัดกระทรวง ต้องถูกโทษจำคุกเรื่องแบบนี้เราก็เห็นกันมาหมดแล้ว

เมื่อภามว่ากรณีดังกล่าวจะอยู่แค่ระดับอธิบดีหรือฝ่ายการเมืองจะได้รับผลกระทบด้วยหรือไม่ นายอนุทิน กล่าวว่า ตนไม่ทราบ โดยส่วนนี้ต้องไปถามผู้ที่เสียหาย

ส่วนที่นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกฯ และรมว.มหาดไทย ในฐานะรักษาราชการแทนนายกรัฐมนตรี ระบุว่า จะใช้มาตรฐานเดียวกันกับกรณีที่ดินอัลไพน์นั้น ถ้าคนระดับท่านพูด ก็ต้องเชื่อ แต่ขอให้ท่านทำให้เร็ว เหมือนกับเรื่องเขากระโดง

ส่วนที่มีการมองว่า เป็นการล้างบางสายสีน้ำเงินนั้น นายอนุทิน ระบุว่า ในส่วนของอธิบดีกรมที่ดินเป็นการขอย้ายตัวเอง เพราะปฏิเสธที่จะปฏิบัติตามข้อสั่งการ

ในส่วนของนายภาสกร บุญญลักษม์ อธิบดีกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.) ที่ถูกโยกไปเป็นผู้ว่าระยองนั้น นายอนุทิน ยืนยันว่า ไม่ใช่สายสีน้ำเงิน ซึ่งอธิบดี ปภ. อยู่กับนายเสริมศักดิ์ พงษ์พานิช อดีตรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย ตั้งแต่เป็นเด็กติดตามกันมา ซึ่งตัวนายเสริมศักดิ์ ก่อนหน้านี้ก็มีข่าวว่าจะมานั่งเป็นมท.1 - มท.2 ด้วยซ้ำ อันนี้จึงไม่เกี่ยวกับสายสีน้ำเงินแน่นอน และไม่เกี่ยวกับตนแน่นอน เพราะใครๆ ก็รู้ว่าอธิบดี ปภ.ทำงานมาตั้งแต่เป็นรุ่นเด็กอยู่แล้วว่าอยู่กับใครมา

เมื่อถามว่า สุดท้ายกรณีเขากระโดงจะต้องรื้อหรือยื้อกันไปอีกนานแค่ไหน นายอนุทิน กล่าวว่า เป็นเรื่องของกฎหมาย

"สมัยที่อยู่กระทรวงมหาดไทยก็ยังเรียกอธิบดีกรมที่ดินมาถามว่า ถ้าผมไม่ใช่ มท.1 ผลจะเป็นแบบนี้หรือไม่ ก็ได้รับการยืนยัน นอนยัน นั่งยัน ว่า ก็เป็นแบบนี้ ไม่ว่าใครจะมาเป็น มท.1 ผลของคณะกรรมการมาตรา 61 ก็เป็นเช่นนี้ ส่วนตัวยังบอกให้ทุกคนเป็นพยาน บันทึกกันไว้ จากนั้นจึงมีบันทึกไปที่ปลัดกระทรวงมหาดไทย"

ในส่วนของประชาชนที่ได้รับโฉนดอย่างถูกต้อง ก็คงต้องต้องหาวิธีแก้ไขกันต่อไป เพราะไม่ใช่แค่ชาวบ้าน แต่เศรษฐกิจก็จะพังไปหมด ซึ่งที่ดินส่วนใหญ่มีโฉนดหมดแล้ว คงไม่มีใครโง่ที่จะซื้อที่ดินที่ไม่ถูกต้องตามกฎหมาย

นายอนุทิน ยังกล่าวถึงกรณีที่กรมสอบสวนคดีพิเศษ(ดีเอสไอ) ลงพื้นที่ตรวจสอบสนามบินขนงพระอาจรุกล้ำทางสาธารณะว่า ประเด็นนี้ก็ให้หน่วยงานตรวจสอบ และมีเอกสารหลักฐานที่จะต้องไปชี้แจง

ถามต่อว่า ดีเอสไอควรจะไปตรวจสอบรีสอร์ทบนที่ดินของ น.ส.แพทองธาร ชินวัตร ด้วยหรือไม่ นายอนุทิน หัวเราะ พร้อมย้อนว่า “ชอบถามแบบนี้” ก่อนกล่าวต่อว่า หากจะทำ ก็ต้องทำให้เท่าเทียมกันทุกคน แต่การเที่ยวไปตรวจที่ตรงนั้นตรงนี้ แล้วอีกหน่อยใครจะกล้าลงทุน เศรษฐกิจก็นิ่งหมด พร้อมย้ำว่า เศรษฐกิจดีขึ้น เพราะมีการเปลี่ยนมือ การลงทุน การขาย การได้กำไร คนถึงจะไปจับจ่ายใช้สอย ใช้เงิน เศรษฐกิจต้องหมุนด้วยเงิน