'ไทย-อิสราเอล' จัดประชุมเชิงปฏิบัติการด้านความปลอดภัยไซเบอร์
สถานเอกอัครราชทูตอิสราเอลประจำประเทศไทยและสำนักงานคณะกรรมการการรักษาความมั่นคงปลอดภัยไซเบอร์แห่งชาติ (สกมช.) ร่วมกันจัดการประชุมเชิงปฏิบัติการด้านความมั่นคงปลอดภัยทางไซเบอร์ระหว่างประเทศไทยละอิสราเอลเป็นครั้งแรก ซึ่งจัดขึ้นระหว่างวันที่ ๕-๗ สิงหาคม ๒๕๖๘ โดยมีคณะผู้เชี่ยวชาญด้านไซเบอร์ชั้นนำจากอิสราเอลเข้าร่วมกิจกรรม
อิสราเอลได้รับการยอมรับในระดับโลกว่าเป็นผู้นำด้านนวัตกรรมความมั่นคงปลอดภัยทางไซเบอร์ โดยยังคงเดินหน้าพัฒนาให้เกิดความก้าวหน้าทางเทคโนโลยีอย่างต่อเนื่อง จนได้ประเทศผู้นำด้านความมั่นคงปลอดภัยทางไซเบอร์ ปัจจุบันนี้อิสราเอลเป็นศูนย์กลางของบริษัทระดับยูนิคอร์นด้านไซเบอร์มากกว่า ๒๐ บริษัท โดยมีระบบนิเวศทางไซเบอร์ที่เปี่ยมด้วยความคิดสร้างสรรค์ การลงทุนเชิงลึกอย่างมีคุณภาพ เปี่ยมด้วยจิตวิญญาณของผู้ประกอบการ อันส่งผลให้ประเทศอิสราเอลมีบทบาทสำคัญยิ่งในเวทีโลก ด้านการรักษาความปลอดภัยโครงสร้างพื้นฐานทางดิจิทัลและการพัฒนาโซลูชันล้ำสมัย เพื่อรับมือกับภัยคุกคามทางไซเบอร์ที่เปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็วอยู่ตลอดเวลา
การประชุมเชิงปฏิบัติการครั้งนี้จัดขึ้นภายใต้กรอบของบันทึกความเข้าใจ (MoU) ระหว่างสำนักงานความมั่นคงไซเบอร์แห่งชาติของอิสราเอล (INCD) และสำนักงานคณะกรรมการการรักษาความมั่นคงปลอดภัยไซเบอร์แห่งชาติ (สกมช.) ของไทย โดยมีเป้าหมายเพื่อส่งเสริมความร่วมมือด้านความมั่นคงปลอดภัยทางไซเบอร์ การประชุมครั้งนี้ถือเป็นอีกก้าวสำคัญอีกก้าวหนึ่งของความสัมพันธ์ระดับทวิภาคี ที่มุ่งสร้างความแข็งแกร่งให้โครงสร้างพื้นฐานดิจิทัลของทั้งสองประเทศ โดยผ่านการแลกเปลี่ยนองค์ความรู้และความร่วมมืออย่างใกล้ชิด
ตลอดระยะเวลาสามวัน ผู้เข้าร่วมประชุมจากทั้งสองประเทศ ซึ่งประกอบด้วยเจ้าหน้าที่ภาครัฐระดับสูง ผู้บริหารด้านความมั่นคงปลอดภัยทางไซเบอร์ และผู้เชี่ยวชาญด้านเทคนิค ได้รับฟังการบรรยายจากผู้เชี่ยวชาญ โดยมีการยกตัวอย่างกรณีศึกษา และมีการแลกเปลี่ยนความคิดเห็นในเชิงลึกเพื่อสำรวจภัยคุกคามทางไซเบอร์ยุคใหม่ ทั้งยังมีการศึกษาแนวปฏิบัติที่เหมาะสมที่สุด และหารือแนวทางเชิงกลยุทธ์ในการปกป้องผลประโยชน์ของประเทศและเศรษฐกิจในโลกยุคดิจิทัล
นางออร์นา ซากิฟ เอกอัครราชทูตอิสราเอลประจำประเทศไทย กล่าวว่า สถานเอกอัครราชทูตอิสราเอลมุ่งมั่นในการส่งเสริมนวัตกรรมทางเทคโนโลยี และขยายความร่วมมือระหว่างประเทศอิสราเอลและประเทศไทย การประชุมตลอดสามวันนี้มีเป้าหมายเพื่อส่งเสริมความเข้าใจซึ่งกันและกัน และสร้างความเป็นหุ้นส่วนระยะยาวในด้านความมั่นคงปลอดภัยทางไซเบอร์ ซึ่งสะท้อนถึงเจตนารมณ์ร่วมของทั้งสองประเทศในการขับเคลื่อนนวัตกรรมและความพร้อมด้านไซเบอร์ เพื่ออนาคตที่ดียิ่งขึ้น