'โดรนจีน' ในมือกองทัพกัมพูชา เปิดตัวเขี้ยวเล็บใหม่ที่ตั้งใจเอาไว้ตอบโต้ "ตัวแทนสหรัฐฯ"
เว็บไซต์ Sky Family หรือ 天空之家 ซึ่งเป็นเว็บไซต์ภาษาจีนว่าด้วยการบินและอากาศยานไร้คนขับ (โดรน) เมื่อเดือนกุมภาพันธ์ 2024 มีรายงานชิ้นหนึ่งเรื่อง "กัมพูชาต้อนรับโดรนจีน 2 ลำอย่างอบอุ่น ไม่กลัวการรุกรานจากตัวแทนสหรัฐฯ อีกต่อไป"
เนื้อหาของบทความนี้กล่าวว่าในเวลานั้นเจ้าหน้าที่ทหารระดับสูงของกัมพูชาได้เป็นประธานในพิธีรับโดรนใหม่ ณ สนามบินกำปงชนัง โดรนสองลำที่เดินทางมาถึงในครั้งนี้เป็นโดรนผลิตในจีนสองลำ ได้แก่ CW-15 และ CW-40 ที่ผลิตโดยบริษัท Chengdu Zongheng Dapeng UAV Technology ในจีน
กระทรวงกลาโหมกัมพูชาระบุว่า ทีมงานชาวจีนได้อธิบายคุณลักษณะสมรรถนะของโดรนทั้งสองลำแล้ว และระบุว่าโดรนเหล่านี้สามารถนำไปใช้งานในด้านต่างๆ เช่น งานข่าวกรองทางทหาร เมื่อปีที่แล้ว จังหวัดกำปงชนังก็ยืนยันว่าสนามบินกำปงชนังจะถูกส่งมอบให้กับกองทัพเพื่อใช้ในภารกิจทางทหาร
ทั้งนี้ จังหวัดกำปงชนังตั้งอยู่ตรงใจกลางของประเทศ อยู่ทางตอนเหนือของกรุงพนมเปญและอยู่ที่ทางใต้ของทะลสาบโตนเลสาบ
รายงานระบุว่า "กัมพูชาประสบปัญหาในการติดตามและยิงโดรนของข้าศึกอย่างทันท่วงที หากอาศัยเพียงปืนใหญ่ต่อสู้อากาศยาน แต่ปัจจุบัน ด้วยการสนับสนุนจากโดรนของจีน กัมพูชาสามารถติดตามสถานการณ์ชายฝั่งและชายแดนได้แบบเรียลไทม์ ซึ่งมีความสำคัญอย่างยิ่งต่อความมั่นคงแห่งชาติของกัมพูชา"
จากกรณีนี้ Sky Family ได้ชี้ว่า "กัมพูชาได้จัดพิธีพิเศษเพื่อต้อนรับการมาถึงของโดรนจีนอย่างอบอุ่น เพื่อแสดงให้เห็นถึงความสำคัญของโดรนเหล่านี้ กัมพูชาตั้งอยู่บนคาบสมุทรอินโดจีน ซึ่งเป็นประเทศที่มีทั้งส่วนที่ไม่มีทางออกสู่ทะเลและติดชายฝั่ง เนื่องจากมีเวียดนามเป็นประเทศเพื่อนบ้านและสหรัฐอเมริกาเป็นเป้าหมายเชิงยุทธศาสตร์ กัมพูชาจึงจำเป็นต้องหาวิธีการตรวจสอบพื้นที่ทางอากาศและทางทะเลอย่างเร่งด่วน โดรนจีนสามารถให้การสนับสนุนนี้ได้"
จากการตั้งข้อสังเกตของ Sky Family เพ่งเล็งไปที่เวียดนาม ซึ่งในเวลานั้นถูกจีนมองว่าร่วมมือทางการทหารกับสหรัฐฯ เพื่อที่จะควบคุมอิทธิพลของจีน และการที่กัมพูชาได้โดรนของจีนไป ก็อาจมีส่วนช่วยควบคุม "การควบคุมจีน" ของสหรัฐฯ และเวียดนามอย่างที่บทความได้พาดหัวไว้ว่า "กัมพูชาต้อนรับโดรนจีน 2 ลำอย่างอบอุ่น ไม่กลัวการรุกรานจากตัวแทนสหรัฐฯ อีกต่อไป"
ทั้งนี้ ปีที่แล้ว กัมพูชากล่าวหากลุ่ม “โดรนจากประเทศที่สาม” ว่าปรากฏตัวใกล้ชายแดนเวียดนามและรุกรานดินแดนกัมพูชา กัมพูชาจึงประกาศตอบโต้ว่าจะส่งทหาร 500 นายและปืนต่อสู้อากาศยาน 200 กระบอกไปยังพื้นที่ชายแดนติดกับเวียดนาม เพื่อยิงโดรนที่รุกรานเข้ามาได้ทุกเมื่อ
กัมพูชาไม่ได้ระบุประเทศที่โดรนเหล่านี้เป็นเจ้าของอย่างชัดเจน โดยเน้นย้ำเพียงว่าโดรนเหล่านี้น่าจะถูกปล่อยจากเรือในทะเล เวียดนามก็ปฏิเสธข้อกล่าวหาเช่นกัน แต่บางคนเชื่อว่าโดรนเหล่านี้น่าจะถูกปล่อยจากเวียดนามโดยกลุ่มตัวแทนที่ได้รับการสนับสนุนจากสหรัฐฯ เข้ามาในกัมพูชา
คุณลักษณะของโดรนทั้งสองรุ่น
1. Zongheng Dapeng CW-15 (纵横大鹏CW-15)
ข้อมูลจาก Baidu ระบุว่านี่เป็นโดรนปีกตรึงสำหรับขึ้นลงแนวดิ่งระดับอุตสาหกรรมที่พัฒนาโดยบริษัท Chengdu Zongheng Automation Technology Co., Ltd.โดรนนี้ติดตั้งระบบหลบหลีกสิ่งกีดขวางอัจฉริยะที่สามารถรับรู้ภูมิประเทศและวางแผนเส้นทางแบบไดนามิก โดรนติดตั้งอุปกรณ์ ADS-B เพื่อตรวจจับอากาศยานภายในรัศมี 160 กิโลเมตรและหลบหลีกโดยอัตโนมัติ โดรนมีระยะเวลาบินที่ยาวนานและรองรับโมดูลภารกิจหลายแบบ โดรนนี้ถูกใช้อย่างกว้างขวางในการป้องกันไฟป่า (ทดสอบบินสำเร็จในปี 2567) การลาดตระเวนทางทหาร (ติดตั้งโดยกองทัพกัมพูชาในปี 2567) ความปลอดภัยสาธารณะ การรับมือกับเหตุฉุกเฉิน ไฟฟ้า การสำรวจและการทำแผนที่ และด้านอื่นๆ ในปี 2567 โดรนนี้ได้รับเลือกให้เป็นหนึ่งในชุดแรกของ "ผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรมเฉิงตู" และกลายเป็นผลิตภัณฑ์ตัวแทนของ "การผลิตอัจฉริยะเฉิงตู"
2. Zongheng Dapeng CW-40 (纵横大鹏CW-40)
ข้อมูลจาก natgod.com ระบุว่าโดรนรุ่นนี้มาพร้อมเครื่องยนต์หัวฉีดเชื้อเพลิงอิเล็กทรอนิกส์สี่จังหวะที่ผลิตในประเทศจีน ระบบนำทาง GPS ที่ใช้ระบบ Beidou ของจีน โดรนนี้มีน้ำหนักบรรทุกสูงสุด 10 กิโลกรัม ระยะเวลาบินสูงสุด 10 ชั่วโมง รัศมีการควบคุมที่มีประสิทธิภาพ 200 กิโลเมตร และการส่งข้อมูลแบบเข้ารหัส โดรนนี้มาพร้อมกับฝักออปโตอิเล็กทรอนิกส์สามดวงประสิทธิภาพสูง เหมาะสำหรับการเฝ้าระวังวิดีโอระยะไกลขนาดใหญ่ ระบบ CW-40 ทั้งหมดสามารถประกอบและถอดประกอบได้อย่างรวดเร็วภายใน 15 นาที และสามารถขึ้นและลงจอดได้จากยานพาหนะ เรือ และแพลตฟอร์มเคลื่อนที่ รวมถึงสถานที่และเรือระยะไกล โดรนสามารถกำหนดค่าโหมดการทำงานได้หลากหลาย ได้แก่ สถานีเดียว หน่วยเดียว สถานีเดียวหลายหน่วย และสถานีเดียวหลายหน่วย เพื่อให้เหมาะกับสถานการณ์การใช้งานที่หลากหลาย ทั้งทางอากาศสู่พื้นดิน อากาศสู่ทะเล และสถานการณ์การใช้งานอื่นๆ
โดยทีมข่าวต่างประเทศ The Better
Photo - UAVCN.net