"ใบสั่งจราจร 2568" มีกี่ประเภท แนะวิธีสังเกตุของจริงหรือปลอม
จากกรณีที่ พลตำรวจเอก กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร์ ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (ผบ.ตร.) ลงนามในประกาศสำนักงานตำรวจแห่งชาติ (สตช.) เรื่อง กำหนดแบบใบสั่งเจ้าพนักงานจราจร (ฉบับที่ 3) พ.ศ. 2568 เพื่อปรับปรุงแบบใบสั่งให้เหมาะสมและสอดคล้องกับรูปแบบคำสั่งปรับเป็นพินัย ตามพระราชบัญญัติว่าด้วยการปรับเป็นพินัย พ.ศ. 2565
โดยประกาศนี้ อาศัยอำนาจตามมาตรา 140 วรรคสี่ แห่งพระราชบัญญัติจราจรทางบก พ.ศ. 2522 ซึ่งแก้ไขเพิ่มเติมโดยพระราชบัญญัติจราจรทางบก (ฉบับที่ 12) พ.ศ. 2562 และจะมีผลบังคับใช้ตั้งแต่วันที่ 4 สิงหาคม 2568 เป็นต้นไป
ใบสั่งจราจรมีกี่รูปแบบ กี่ประเภท
ใบสั่งแบ่งออกเป็น 3 ประเภท ได้แก่
แบบใบสั่งเจ้าพนักงานจราจรสำหรับให้กับผู้ขับขี่ ติด ผูก หรือแสดงไว้ที่รถ เป็นชุดละ 4 แผ่น
- แผ่นที่ 1 สีขาว : มอบให้ผู้ขับขี่ติดหรือแสดงไว้ที่รถ
- แผ่นที่ 2 สีเหลือง : ส่งให้หน่วยงานที่มีอำนาจปรับเป็นพินัย เพื่อบันทึกข้อมูลในระบบสารสนเทศกลางของสำนักงานตำรวจแห่งชาติ
- แผ่นที่ 3 สีชมพู : สำหรับเจ้าหน้าที่ของรัฐผู้มีอำนาจปรับเป็นพินัย
- แผ่นที่ 4 สีฟ้า : สำเนาคู่ฉบับเก็บไว้เป็นหลักฐานของผู้ออกใบสั่ง
ใบสั่งเจ้าพนักงานจราจรสำหรับส่งทางไปรษณีย์
เป็นชุดละ 6 แผ่น
- แผ่นที่ 1 ใช้ส่งทางไปรษณีย์ถึงผู้ขับขี่ เจ้าของรถ หรือผู้ครอบครอง
- แผ่นที่ 2 เป็นสำเนาคู่ฉบับเก็บไว้เป็นหลักฐานของผู้ออกใบสั่ง
- แบบใบสั่งเจ้าพนักงานจราจรแบบอิเล็กทรอนิกส์
- ใช้สำหรับให้ผู้ขับขี่ โดยสามารถติด ผูก หรือ แสดงไว้ที่รถ
อ่านรายละเอียดเพิ่มเติม (คลิ๊กที่นี่)
"ใบสั่งค่าปรับจราจร" กลายเป็นอีกหนึ่งช่องทางสำหรับแก๊งมิจฉาชีพในการหลอกลวงประชาชน เพราะปัจจุบันมีใบสั่งจราจรแบบออนไลน์หรือที่เรารู้จักกันในชื่อเป็นทางการว่า ใบสั่งอิเล็กทรอนิกส์ จะมีความคล้ายกับใบเสร็จทั่วไปตามห้างสรรพสินค้าและมีคิวอาร์โค้ด (QR Code) สำหรับสแกนเพื่อจ่ายค่าปรับ ซึ่งอาจเป็นช่องโหว่ทำให้มิจฉาชีพใช้ในการหลอกได้
วิธีสังเกตุใบสั่งจริง-ใบสั่งปลอม
ใบสั่งจราจรที่เป็นแบบอิเล็กทรอนิกส์จะมีเลขที่ใบสั่ง เลขทะเบียนรถและประเภทของรถยนต์คันที่กระทำผิด รวมถึงข้อหาในการกระทำผิด พร้อมค่าปรับตามอัตราที่กำหนด ตลอดจนข้อมูลสำคัญต่างๆ ทั้งชื่อเจ้าพนักงานที่ทำการออกใบสั่งค่าปรับจราจร สถานที่ วัน เวลาที่ทำผิด และระยะเวลาในการชำระค่าปรับด้วย
นอกจากนี้ใบสั่งจราจรที่เป็นของจริงด้านล่างจะมี QR Code ที่ใช้สำหรับชำระค่าปรับผ่าน Mobile Banking อยู่ที่ด้านซ้ายล่าง ส่วนด้านขวาล่างจะเป็น QR Code สำหรับขอข้อมูลเพิ่มเติมเอาไว้สแกนตรวจสอบความถูกต้องของใบสั่งจราจร และอีกหนึ่งจุดที่สามารถทำการตรวจเช็กได้ว่าใบสั่งจราจรที่ได้รับเป็นของจริงหรือของปลอมนั้นก็คือ บัญชีธนาคารปลายทางที่รับชำระค่าปรับจะต้องเป็นธนาคารกรุงไทย ชื่อบัญชี “สำนักงานตำรวจแห่งชาติ - ค่าปรับจราจร” เท่านั้น หากเจอชื่ออื่นหรือธนาคารอื่น ให้รู้ไว้เลยว่าเป็นใบสั่งจราจรปลอม