หุ้นเวียดนามขึ้นไม่หยุด แต่กองทุนไปสะดุดตรงไหน !?
ตลาดหุ้นเวียดนามกำลังอยู่ในช่วงขาขึ้นอย่างชัดเจน ทั้งดัชนี VN30 และ VN-Index ต่างทำจุดสูงสุดในรอบ 3 ปี โดย VN30 พุ่งขึ้นกว่า 25% ในช่วง 6 เดือนที่ผ่านมา ขณะที่ VN-Index ปรับขึ้น 19%
อย่างไรก็ตาม ผลตอบแทนของกองทุน PRINCIPAL VNEQ-A ซึ่งลงทุนในหุ้นเวียดนามกลับโตเพียง +1.79% เท่านั้น ทำให้นักลงทุนเริ่มตั้งคำถามว่า “ดัชนีขึ้นแรง แต่ทำไมกองทุนไม่ขึ้นตาม?”
เหตุผลหลักที่ทำให้กองทุนสะดุด
Source: Finnomena Funds,Macrobond, Data as of 14/07/2025
1. ค่าเงินดองอ่อนค่า
ค่าเงินดอง (VND) ที่อ่อนค่าต่อเนื่อง เมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐฯ อ่อนไป 2.8% และอ่อนค่าหนักถึง 8% เมื่อเทียบกับเงินบาทไทย การอ่อนค่านี้ส่งผลโดยตรงให้มูลค่าการลงทุนเมื่อแปลงกลับเป็นเงินบาทลดลง แม้ในสกุลเงินดองจะบวกก็ตาม
Source: Finnomena Funds, Bloomberg, Data as of 14/07/2025
ในช่วงที่ค่าเงินดองแข็งค่า กองทุน PRINCIPAL VNEQ-A สามารถสร้างผลตอบแทนได้ดีและมีแนวโน้มชนะดัชนีหลักของตลาดหุ้นเวียดนามอย่าง VN30, VN-Index และ MSCI Vietnam
อย่างไรก็ตาม ในช่วงที่ค่าเงินดองอ่อนค่าลง ผลตอบแทนของกองทุน PRINCIPAL VNEQ-A กลับฟื้นตัวได้ช้ากว่าเมื่อเทียบกับดัชนี สะท้อนให้เห็นถึงผลกระทบโดยตรงจากค่าเงินที่อ่อนลง
2. การเลือกหุ้น (Stock Selective)
Source: Finnomena Funds,Macrobond, Data as of 14/07/2025
การปรับขึ้นของตลาดหุ้นเวียดนามในช่วงครึ่งปีแรกนั้น เป็นการปรับขึ้นแบบ “กระจุกตัว” โดยกว่า 90% ของการเพิ่มขึ้นราว 100 จุดของดัชนี VN-Index มาจากหุ้นกลุ่ม Vingroup (VIC) เพียงไม่กี่ตัว ซึ่งเป็นหุ้นขนาดใหญ่และมีอิทธิพลต่อตลาดสูง โดยเฉพาะหุ้น Vingroup (VIC) ซึ่งเป็นหุ้นใหญ่อันดับ 1 ในตลาดเวียดนาม ปรับขึ้นไปเกือบ 82%
Source: Finnomena Funds, LSEG, MSCI, Dragon Capital, Data as of 14/07/2025
*รายชื่อหุ้นและน้ำหนักในดัชนี VN30 อ้างอิงจาก VN30 ETF ของ Dragon Capital
เมื่อดูองค์ประกอบของดัชนี FTSE Vietnam, MSCI Vietnam และ VN30 จะพบว่าหุ้นของกลุ่ม VinGroup ครองน้ำหนักสูงสุดในทั้งสามดัชนี นี่คือปัจจัยสำคัญที่ทำให้ตลาดหุ้นเวียดนามในครึ่งปีแรกของปี 2025 ปรับขึ้นแรง แต่กระจุกตัวในหุ้นไม่กี่ตัว
การที่กองทุนบางกองไม่ถือหุ้นในกลุ่ม VinGroup จึงอาจทำให้ผลตอบแทนในช่วงที่ผ่านมาไม่ได้ตามดัชนีอย่างที่ควร แต่ในระยะยาว การเลือกหุ้นโดยดูจากพื้นฐานที่แข็งแกร่ง กระจายความเสี่ยง และระมัดระวังต่อความเสี่ยงเชิงโครงสร้าง ยังเป็นกลยุทธ์ที่สอดคล้องกับหลักการลงทุนที่ยั่งยืน
ทั้งนี้ Principal Fund ได้ให้เหตุผลที่กองทุน PRINCIPAL VNEQ-A ไม่ได้ลงทุนในหุ้น Vingroup เนื่องจากหุ้นดังกล่าวไม่ผ่านเกณฑ์ด้านฐานะทางการเงิน ซึ่งเป็นหลักเกณฑ์สำคัญที่ใช้ในการคัดเลือกหลักทรัพย์เข้าพอร์ตการลงทุน (Investment Universe)
อย่างไรก็ตาม หากพิจารณาในภาพรวม ตลาดหุ้นเวียดนามยังคงมีปัจจัยพื้นฐานที่แข็งแกร่ง และมีโมเมนตัมเชิงบวกที่น่าสนใจหลายประการ ซึ่งจะช่วยขับเคลื่อนการเติบโตในระยะยาวได้
ส่งออกยังแรง แซงทุกประเทศ
Source: Finnomena Funds,Macrobond, Data as of 14/07/2025
จากกราฟอัตราการเติบโตของการส่งออกแบบค่าเฉลี่ย 6 เดือน เราจะเห็นได้ชัดว่า เวียดนามมีแนวโน้มการฟื้นตัวของการส่งออกที่โดดเด่นกว่าเพื่อนบ้าน ไม่ว่าจะเป็นจีน อินเดีย หรือไทย โดยเฉพาะในช่วงกลางปี 2025 ที่เวียดนามมีการเติบโตสูงถึงกว่า 16% YoY สะท้อนถึงความแข็งแกร่งของภาคอุตสาหกรรมและความสามารถในการแข่งขันของประเทศ
ได้ประโยชน์จาก Tariff ที่ต่ำ
Source: Finnomena Funds, npr, Bloomberg Data as of 14/07/2025
ในขณะที่หลายประเทศถูกสหรัฐฯ ปรับเพิ่มอัตราภาษีนำเข้า เวียดนามกลับได้รับการปฏิบัติที่ค่อนข้างดี โดยมีอัตราภาษีที่ลดลงจาก 46% เหลือเพียง 20% อย่างไรก็ตาม รัฐบาลเวียดนามยังไม่ได้ยอมรับข้อตกลงนี้อย่างเป็นทางการ เนื่องจากก่อนหน้านี้เวียดนามได้เสนออัตราภาษีที่ต่ำกว่านี้ แต่ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ได้ปรับเพิ่มอัตราภาษีในช่วงสุดท้ายของการประชุม จึงมีความเป็นไปได้ที่อัตราภาษีที่เวียดนามจะได้รับนั้นอาจต่ำกว่า 20%
FDI ยังไหลเข้า แม้โลกผันผวน
Source: Finnomena Funds,Macrobond, Data as of 14/07/2025
FDI (Foreign Direct Investment) หรือเงินลงทุนจากต่างประเทศที่เข้ามาจริงในเวียดนาม ยังคงขยายตัวอย่างต่อเนื่อง แม้ในช่วงโควิดจะมีชะลอบ้าง แต่หลังจากปี 2022 เป็นต้นมาการฟื้นตัวเป็นไปอย่างมั่นคง โดยเฉพาะปี 2023 ที่มีการเติบโตเชิงบวกอย่างต่อเนื่อง
ดัชนียังไม่แพง เมื่อเทียบกับกำไร
Source: Finnomena Funds, Bloomberg, Data as of 14/07/2025
แม้ว่าดัชนี VN30 จะปรับตัวขึ้นมาทำจุดสูงสุดใหม่ในปี 2025 แต่เมื่อดูในมิติของ Valuation แล้ว ยังถือว่าอยู่ในระดับที่สมเหตุสมผล โดยค่า P/E ของ VN30 ล่าสุดอยู่ที่ราว 10.9 เท่า ซึ่งต่ำกว่าค่าเฉลี่ยในอดีตที่ราว 15 เท่า (ปัจจุบัน P/E ของ SET Index อยู่ที่ประมาณ 15.5 เท่า)
นอกจากนี้ ยังมีการคาดการณ์ EPS ปีถัดไปที่เติบโตต่อเนื่อง หมายความว่าการขึ้นของราคาหุ้นเกิดจากปัจจัยพื้นฐานมากกว่าความคาดหวังเกินจริง
สรุปมุมมองตลาดหุ้นเวียดนาม
เวียดนามเป็นประเทศที่ประสบความสำเร็จในการเจรจาการค้ากับสหรัฐฯ ด้วยเงื่อนไขที่ดีกว่าคู่แข่งหลายราย ซึ่งเป็นปัจจัยสำคัญที่ช่วยหนุนให้ตลาดหุ้นเวียดนามตอบรับเชิงบวกอย่างโดดเด่น
ขณะที่ภาคการส่งออกของเวียดนามยังคงเติบโตแข็งแกร่ง เม็ดเงินลงทุนโดยตรงจากต่างประเทศ (FDI) ไหลเข้าต่อเนื่อง สะท้อนความเชื่อมั่นในศักยภาพระยะยาวของประเทศ
ประกอบกับมีพัฒนาการสำคัญคือการเปิดใช้งานระบบ KRX ที่เวียดนามทุ่มเทพัฒนามานานกว่าทศวรรษ ซึ่งเป็นก้าวสำคัญในการยกระดับโครงสร้างตลาดทุน เพื่อเตรียมความพร้อมสู่การเปลี่ยนผ่านจาก “ตลาดชายขอบ (Frontier Market)” ไปสู่ “ตลาดเกิดใหม่ (Emerging Market)”
และถึงแม้ว่าดัชนีตลาดหุ้นเวียดนามจะปรับตัวขึ้นแรงในช่วงที่ผ่านมา แต่ระดับ Valuation โดยรวมยังคงสมเหตุสมผลเมื่อเทียบกับศักยภาพการเติบโตของบริษัทจดทะเบียนและแนวโน้มเศรษฐกิจในอนาคต
“Finnomena Funds จึงคงมุมมอง Slightly Positive ต่อตลาดหุ้นเวียดนาม และแนะนำสะสมกองทุน PRINCIPAL VNEQ-A”
- PRINCIPAL VNEQ-A เป็นกองทุนหุ้นเวียดนามศักยภาพสูง เป็นตลาดที่ถูกและดี เหมาะกับการสะสมในระยะยาว เพราะมีโอกาสจะเป็นผู้ชนะที่แท้จริงจากสงครามการค้า จากการเร่งให้เกิด China+1 ย้ายฐานผลิตออกจากจีน และเพิ่มความสามารถทางการแข่งขันจากอัตรา Tariff ที่โดนน้อยกว่าคู่แข่ง
คำเตือน: การลงทุนมีความเสี่ยง ผู้ลงทุนต้องทำความเข้าใจลักษณะสินค้า เงื่อนไขผลตอบแทน และความเสี่ยงก่อนตัดสินใจลงทุน | การลงทุนในกองทุนรวมไม่ใช่การฝากเงิน | กองทุนอาจลงทุนกระจุกตัวในอุตสาหกรรมและประเทศที่ลงทุน จึงมีความเสี่ยงที่ผู้ลงทุนอาจสูญเสียเงินลงทุนจำนวนมาก ผู้ลงทุนจึงควรพิจารณาการกระจายความเสี่ยงของพอร์ตการลงทุนโดยรวมของตนเองด้วย | ผู้ลงทุนอาจมีความเสี่ยงจากอัตราแลกเปลี่ยน เนื่องจากการป้องกันความเสี่ยงขึ้นอยู่กับดุลพินิจของผู้จัดการกองทุน | สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมหรือขอรับหนังสือชี้ชวนได้ที่บริษัทหลักทรัพย์นายหน้าซื้อขายหน่วยลงทุน ฟินโนมีนา จำกัด ในช่วงเวลาวันทำการตั้งแต่ 09:00-17:00 น. ที่หมายเลขโทรศัพท์ 02 026 5100 และทาง LINE “@FinnomenaPort” | สำหรับผู้ลงทุนในความดูแลของ Kept by krungsri ติดต่อทีม Kept help center ที่หมายเลขโทรศัพท์ 02 296 6299