โปรดอัพเดตเบราว์เซอร์

เบราว์เซอร์ที่คุณใช้เป็นเวอร์ชันเก่าซึ่งไม่สามารถใช้บริการของเราได้ เราขอแนะนำให้อัพเดตเบราว์เซอร์เพื่อการใช้งานที่ดีที่สุด

ทั่วไป

'Femme Fatale' ฉลาก ‘นารีพิฆาต’ ที่ดึงสายตาเราไปจากประเด็นสำคัญ

Thairath Plus - ไทยรัฐพลัส

อัพเดต 22 ชั่วโมงที่ผ่านมา • เผยแพร่ 22 ชั่วโมงที่ผ่านมา
ภาพไฮไลต์

ตั้งแต่มีข่าว ‘สีกากอล์ฟ’ หญิงคนหนึ่งผู้มีความสัมพันธ์กับพระชั้นผู้ใหญ่ 7 รูป จนนำไปสู่การลาสิกขา สิ่งที่เราได้เห็นทุกๆ วันคือ ‘คีย์เวิร์ด’ สุดแสนครีเอทีฟ ฉายาที่โผล่ขึ้นมาแรกๆ ของเธอคือ“นารีพิฆาตสงฆ์” และ “สีกาล่าเจ้าคุณ” และล่าสุดที่พระพรหมบัณฑิตให้สัมภาษณ์กับสื่อว่า ณ ขณะนี้มี “มหาเสนาบดีมาร” กำลังครอบงำคณะสงฆ์

หากนำคีย์เวิร์ดเหล่านั้นไปชนกับทิศทางของสังคมที่มุ่งบอกว่า ‘สงสารพระ’ เพราะเขาก็เป็นมนุษย์เหมือนเราทุกคนและการอุปสมบทตั้งแต่ยังเยาว์ทำให้พวกเขาอ่อนต่อโลก ผมนึกถึงประเภทตัวละครในหนังและวรรณกรรมประเภทหนึ่ง นั่นคือ‘Femme Fatale’ หญิงสาวผู้ทั้งสวย ทั้งฉลาด แต่ใช้ความสวยและฉลาดของตัวเองในการทำชั่ว

การเชื่อมโยงภาพจำนารีพิฆาตนี้เข้าไปยังตัวละครวรรณกรรมที่มีอยู่มาตั้งแต่สมัยโบราณเป็นมากกว่าการสังเกตการณ์สนุกๆ แต่ Femme Fatale เป็นประเภทตัวละครที่กระโดดข้ามไปมาจากเรื่องแต่งและโลกจริง หลายๆ ครั้งถูกใช้เบี่ยงเบนประเด็นและความผิดที่เกิดขึ้นจริง หรือบางครั้งถึงขั้นถูกใช้เป็นเครื่องมือในการสาดสีใส่คนที่ไม่ได้ทำผิด

Femme Fatale ความสวยกินคนที่อยู่กับเรามาตั้งแต่โบราณ

มองย้อนกลับไปในวรรณกรรมในอดีต เราสามารถพบตัวละครที่ตกอยู่ในหมวดหมู่หญิงสาวผู้ใช้เสน่ห์และสติปัญญาของตัวเองในการฆ่าผู้ชายได้ตั้งแต่สมัยกรีกโบราณ ตัวอย่างเช่นไซเรน ปีศาจหญิงผู้อาศัยอยู่ในมหาสมุทร ใช้เสียงร้องเพลงเพื่อสะกดใจนักเดินเรือผู้ชายให้เดินเข้าหาความตายของตัวเอง โดยในภาษาอังกฤษ ชื่อเรียกไซเรนยังถูกใช้เป็นเหมือนแสลงที่สื่อถึงกลุ่มผู้หญิงที่เอารัดเอาเปรียบผู้ชาย

Femme Fatale ที่โด่งดังที่สุดในประวัติศาสตร์อยู่ในปกรณัมคริสตศาสนา อีฟคือหญิงสาวผู้ชักชวนอดัมให้กินผลไม้ต้องห้ามในสวนอีเดน กลายเป็นบาปกำเนิด (Original Sin) ที่ติดตัวมนุษยชาติไปตลอดกาล และนอกจากนั้นในเวอร์ชั่นของศาสนายิว ภรรยาคนแรกของอดัมชื่อว่า ลิลิธ หญิงร้อนแรงผู้ถูกไล่ออกจากสวนอีเดนเนื่องจากนางไม่เชื่อฟังสามี และกลายเป็นมารดาของปีศาจในที่สุด

ตัวละครรูปแบบนี้โผล่มาให้เราเห็นอยู่เสมอ แต่ว่าชื่อเรียก Femme Fatale กลายเป็นคำที่ทุกคนรู้จักเมื่อนิยายและภาพยนตร์สืบสวนสอบสวนหลังสงครามโลกครั้งที่ 2 เราว่าใครๆ ก็นึกภาพหญิงสาวลึกลับ สวมแว่นดำ สูบบุหรี่ด้วยท่าทางยั่วยวน และแต่งตัวแบบเดาไม่ออกว่าจะไปไนต์คลับหรือว่างานศพกันแน่

“นักวิชาการเสนอว่าความนิยมของตัวละคร Femme Fatale ในโลกภาพยนตร์กลางศตวรรษที่ 20 เกิดขึ้นจากความเปลี่ยนแปลงในบทบาททางเพศที่ผู้หญิงเริ่มประกอบอาชีพนอกบ้านตัวเองมากขึ้นเพื่อคงหาเลี้ยงครอบครัวระหว่างที่ผู้ชายออกไปรบ” บทความเรื่อง Femme Fatale โดยพจนานุกรม Britannica เขียนอธิบาย

นิยายสืบสวนสอบสวนตั้งอยู่บนความรู้สึกไม่ไว้วางใจของมนุษย์ โลกของวรรณกรรมเหล่านี้มักมืดดำ ไม่มีใครน่าเชื่อถือ และทุกคนต่างมีจริยธรรมสีเทา ในทางหนึ่ง วรรณกรรมสืบสวนสอบสวนหลังสงครามโลกสะท้อนความหวาดระแวงของยุคสมัย เวลาเปลี่ยนแปลงและความก้าวหน้าเปลี่ยนความหมายของศีลธรรมขาวดำที่โลกเคยยึดถือ Femme Fatale เป็นหนึ่งในสิ่งที่สะท้อนความวิตกกังวลนั้น

นารีพิฆาตและการโยนความผิดให้ ‘มารยาหญิง’

การที่คนคนหนึ่งจะถูกจัดว่าเป็น Femme Fatale ได้ ไม่ใช่แค่เพราะว่าคนคนนั้นเป็นผู้หญิงที่ทำในสิ่งไม่ดี แต่ว่าต้องเจาะจงว่าเป็นผู้หญิงที่ใช้ ‘ความเป็นหญิง’ เป็นเครื่องมือในการทำไม่ดี บทสนทนาเรื่อง Femme Fatale จึงผูกติดกับมิติเพศอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้

แก่นของการเป็น Femme Fatale คือ ‘การเป็นผู้หญิงในแบบที่สังคมบอกว่าไม่ควรจะเป็น’ สังคมบอกว่าผู้หญิงต้องเป็นผู้ตอบสนองอารมณ์ของผู้ชาย ส่วน Femme Fatale คือคนที่รู้ว่าผู้ชายมีจุดอ่อนอารมณ์ตรงไหน แล้วใช้จุดอ่อนนั้นในการถือครองอำนาจเหนือพวกเขา สังคมบอกว่าผู้หญิงเป็นผู้ตาม แต่ Femme Fatale เป็นมากกว่าผู้นำด้วยซ้ำ เธอเป็นอิสระ เธอโดดเดี่ยว และความอิสระนั้นถูกมองว่าคือความเป็นแก่ตัวเสมอในเรื่องเล่า

อย่างที่เราว่าไปก่อนหน้า ตัวละครนารีพิฆาตที่เราคุ้นตาสะท้อนความกลัวของยุคสมัย และหนึ่งในความกลัวของผู้ชายที่มีรากมาจากความเชื่อเหยียดเพศที่มีอยู่ตลอด นั่นคือความกลัวว่าพวกเขาจะถูกผู้หญิงหลอก และเหตุที่พวกเขาหวาดกลัวเรื่องนี้ก็เพราะแนวคิดการมองเซ็กซ์ผ่านสายตาเศรษฐศาสตร์

ทฤษฎี Sexual Economics ถูกพัฒนาขึ้นโดยนักจิตวิทยาสังคม รอย บอไมสเตอร์ มันเป็นทฤษฎีที่มองเพศสัมพันธ์เป็นตลาด และเซ็กซ์เป็นทรัพยากรที่ผู้หญิงถือครอง ส่วนผู้ชายต้องการ โดยในทฤษฎีนี้ผู้หญิงจะสามารถถือครองร่างกายของตัวเองเอาไว้ จนกว่าผู้ชายจะสามารถหาทรัพยากรอื่นมาแลกไป อาจจะเป็นความรัก เงิน ความมั่นคง ความสนใจ ฯลฯ คงจะแปลกใจถ้าผมบอกว่าทฤษฎีนี้กำเนิดขึ้นเมื่อปี 2004 ไม่ใช่ช่วง 50s เพราะหากใช้สายตาการมองเพศในปัจจุบันมอง ทฤษฎีนี้คงมีรอยพรุนยิ่งกว่าถนนลูกรัง

แม้จะเกิดขึ้นเมื่อปี 2004 ปฏิเสธไม่ได้ว่ามุมมองเพศเช่นนี้มีอยู่ในโลกจริงๆ ก่อนที่ทฤษฎีนี้จะถูกตีพิมพ์ เนื่องจากมันอยู่ในโครงสร้างสังคมชายเป็นใหญ่มาเนิ่นนาน โครงสร้างที่มองว่าคุณค่าหลักของผู้หญิงอยู่ที่เซ็กซ์และการเป็นวัตถุทางเพศ และตัวละคร Femme Fatale เป็นประเภทตัวละครที่ตระหนักรู้ถึงอำนาจที่พวกเธอมีเหนือเซ็กซ์และใช้มันให้เป็นประโยชน์ เราน่าจะคุ้นชื่ออำนาจนี้ว่า ‘มารยาหญิง’

ตัวอย่างของการที่แนวคิด Femme Fatale ถูกใช้ลดทอนคนไม่ได้อยู่ในเรื่องแต่ง แต่เป็นคนจริงๆ นั่นคือราชินีคลีโอพัตรา ราชินีคนสุดท้ายของราชวงศ์ปโตเลมี เรื่องราวชีวิตของเธอถูกเล่าต่อผ่านวรรณกรรมและภาพยนตร์ ที่บอกว่าอำนาจของเธอมาจากการใช้มารยาและความงามในการยั่วยวนคนมีอำนาจ เช่น จักรพรรดิจูเลียส ซีซาร์ และนายพลมาร์ค แอนโทนี ทั้งหมดนำไปสู่การเสียกรุงของอียิปต์ให้กับอาณาจักรโรมัน

แต่ตามบันทึกทางประวัติศาสตร์ คลีโอพัตราเป็นที่รู้จักเพราะความสามารถด้านการเมืองการปกครอง การทูต และสติปัญญาของเธอ นักเขียนและปราชญ์พลูทาร์กเขียนไว้ในหนังสือ Life of Antony ว่าความงามของเธอ “ไม่ได้โดดเด่นอะไรในตัวของมันเอง” เพียงแค่ว่าราชินีรู้วิธีวางท่าให้สง่าเท่านั้น

ภาพ Femme Fatale ของเธอมาจากโฆษณาชวนเชื่อของโรมัน และบทละครของวิลเลียม เชคสเปียร์ ฉายแสงทำให้รักของนางกับมาร์ค แอนโทนีกลายเป็นเรื่องรักโศกนาฏกรรมอมตะ การถูกฉายภาพแบบดังกล่าวมาหลายศตวรรษทำให้เรามองเรื่องราวของราชินีผู้หลักแหลมเหลือแค่ ‘มารยาหญิงสามารถทำให้อาณาจักรล่มสลายได้’

มารยาหญิงถูกใช้เป็นสิ่งที่เบี่ยงเบนเราออกจากประเด็นต่างๆ บทสนทนารอบๆ กรณีสีกากอล์ฟที่เราเห็นอยู่บนหน้าหนังสือพิมพ์ทุกวันนี้วนเวียนอยู่กับการโยนโทษให้กับ ‘ความเป็นหญิง’ มากกว่าการพูดเรื่องการกระทำจริงๆ หรือช่องโหว่ในการตรวจสอบในวงการพระสงฆ์เสียด้วยซ้ำ

สวยเป็นภัย (ต่อตัวเอง)

อย่างที่เราว่าไป ฉลาก Femme Fatale กระทบกับคนในชีวิตจริงได้ และมันเคยทำให้คนบางคนติดคุกจริงๆ มาแล้ว

เมื่อปี 2009 อแมนดา น็อกซ์ สาวชาวอเมริกันพบร่างรูมเมทของเธอระหว่างที่เธออาศัยอยู่ที่อิตาลี หลังจากนั้นน็อกซ์และแฟนหนุ่มถูกตัดสินจำคุก 30 ปีในข้อหาฆาตกรรม โดยสื่ออิตาลีตีข่าวว่าเธอเป็นคนเย็นชา เปิดกว้างเรื่องเพศ และที่สำคัญคือตั้งฉายาเธอว่า Foxy Knoxy เพื่อให้ผู้คนมองเธอเป็นคนเจ้าเล่ห์ เธอใช้เวลาในคุกอยู่ราว 4 ปี ก่อนจะได้รับการปล่อยตัวเพราะพบฆาตกรจริงๆ

น็อกซ์ถูกตีตราว่าเป็น Femme Fatale เพราะว่าเธอเป็นผู้หญิงหน้าตาดี ที่ไม่แสดงออกเหมือนที่ผู้หญิงพึงแสดงออก สวยเกินไปเมื่อเกิดโศกนาฏกรรมและนิ่งเกินไปเมื่อควรร้องไห้ เธอกลายเป็นเป้าประจำสัปดาห์สำหรับสื่อในการเขียนพาดหัวขายหนังสือพิมพ์ และการถูกแปะป้ายครั้งนั้นพรากชีวิตอิสระของเธอไปถึง 4 ปี

ทั้งหมดทั้งมวล นี่ไม่ใช่การบอกว่าใครบริสุทธิ์หรือใครไม่บริสุทธิ์ แต่เป็นการเชื้อเชิญให้เรามองกรณีต่างๆ โดยตระหนักรู้ถึงฉลาก Femme Fatale ฉลากที่บางครั้งก็ทรงพลัง บางครั้งก็เหยียดเพศ

แต่บ่อยครั้งที่สุด มันเป็นฉลากที่เตะตาเหลือเกิน จนมันทำให้เรามองไม่เห็นประเด็นสำคัญ

อ้างอิง: britannica.com, psychologytoday.com, cbsnews.com, nationalgeographic.com, youtube.com

ตามข่าวก่อนใครได้ที่
- Website : plus.thairath.co.th
- LINE Official : Thairath

Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...

ล่าสุดจาก Thairath Plus - ไทยรัฐพลัส

จากอรัญประเทศถึงช่องบกและเส้นเขตแดนที่ไม่เคยมีอยู่จริงของคนชายแดน

1 วันที่แล้ว

พืชหายาก ขุมทรัพย์ของมนุษย์ที่ถูกหลงลืม เมื่อผู้คนในเมืองห่างไกล ‘พืช’ เข้าไปทุกที

1 วันที่แล้ว

วิดีโอแนะนำ

ข่าวและบทความทั่วไปอื่น ๆ

OR คว้า 5 รางวัล Marketeer No.1 Brand Thailand 2025 สะท้อนความเชื่อมั่น

สำนักข่าวไทย Online

กรมอุทยานฯ ประกาศยืนยัน ยังไม่มีเขื่อนผุดรอบมรดกโลก ดงพญาเย็น-เขาใหญ่

มุมข่าว

กรมชลฯ เตือนเชียงใหม่ เฝ้าระวังน้ำปิงล้นตลิ่งสะพานนวรัฐเย็นนี้

TNN ช่อง16

ยูนนานพบฝูง ‘ช้างเอเชีย’ ออกหากิน พร้อมแก๊งช้างน้อยจอมซน

Xinhua

ผบ.ตร.ยันไม่ก้าวล่วงกรณีอดีต รอง ผบ.ตร.ร้องศาลปกครองฯ

สำนักข่าวไทย Online

เยือน ‘พิพิธภัณฑ์เมืองโบราณ’ ชมวัตถุเก่าแก่นับพันในลั่วหยาง

Xinhua

บุกสอบการเงินวัดดัง เจ้าอาวาสวัดประยูรฯ โยงอดีตเจ้าคุณหรือไม่

มุมข่าว

สรุปราคาทองวันนี้ วันที่ 17 กรกฎาคม 2568 ราคาทองอยู่ที่บาทละเท่าไหร่

ThaiNews - ไทยนิวส์ออนไลน์

ข่าวและบทความยอดนิยม

ดูเพิ่ม
Loading...