อัคราดึงหางแร่ปั้นโอกาสธุรกิจใหม่ ดันเศรษฐกิจหมุนเวียนยั่งยืน
นายเชิดศักดิ์ อรรถอารุณ ผู้จัดการทั่วไป ฝ่ายความยั่งยืนขององค์กร บริษัท อัครา รีซอร์สเซส จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า ได้ดำเนินการบูรณาการองค์ความรู้จากงานวิจัยในการศึกษาความเป็นไปได้ของการใช้ประโยชน์จาก หางแร่ (Tailings) ที่เกิดจากการกระบวนการผลิตแร่ทองคำและเงินให้กลายเป็นแร่เศรษฐกิจ (Economic Minerals) แห่งอนาคตที่สามารถนำมาผลิตวัสดุก่อสร้างคุณภาพสูง
รวมถึงเตรียมแผนสร้างโอกาสธุรกิจของวิสาหกิจในชุมชนนำร่อง เพื่อสร้างมูลค่าเพิ่มตามแนวทางเศรษฐกิจหมุนเวียน (Circular Economy) สู่การเป็นต้นแบบของอุตสาหกรรมเหมืองแร่ที่มีการบริหารจัดการของเสียให้เกิดประโยชน์สูงสุดอย่างยั่งยืน
โดยดำเนินการร่วมกับจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ซึ่งบริษัทมองเห็นการใช้ทรัพยากรอย่างมีประสิทธิภาพ และความจำเป็นในการจัดการหางแร่เหลือใช้จากการประกอบโลหกรรมในเหมืองแร่ทองคำชาตรี โดยเป็นเหมืองแร่ทองคำที่ใหญ่ที่สุดในประเทศไทย ให้สามารถนำหางแร่กลับมาใช้ใหม่ (Reuse) ได้อย่างเต็มศักยภาพ
ทั้งนี้ เพื่อพัฒนาแนวทางการใช้หางแร่เป็นส่วนประกอบสำคัญในการผลิตอิฐบล็อก ซึ่งคาดการณ์ว่าจะมีความแข็งแรงเหนือกว่าอิฐบล็อกทั่วไป โดยวางแผนถ่ายทอดความรู้การผลิตและการจัดจำหน่ายในพื้นที่นำร่องจังหวัดพิจิตรและจังหวัดเพชรบูรณ์ เพื่อกระจายรายได้และสร้างอาชีพให้กับชุมชนรอบเหมือง
“บริษัทคาดหวังว่าหางแร่จะกลายเป็นหนึ่งในวัสดุที่เพิ่มมูลค่าทางเศรษฐกิจที่สร้างแรงกระเพื่อมต่ออุตสาหกรรมก่อสร้างไทย ส่งผลกระทบเชิงบวกต่อชุมชน สังคม และขับเคลื่อนเศรษฐกิจหมุนเวียนในอนาคตอย่างยั่งยืนท่ามกลางความท้าทายทางเศรษฐกิจและแรงกดดันทางสิ่งแวดล้อม”
ดร.พีท หอมชื่น อาจารย์ประจำภาควิชาวิศวกรรมเหมืองแร่และปิโตรเลียม คณะวิศวกรรมศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย กล่าวว่า โครงการดังกล่าวเป็นจุดเริ่มต้นในการบูรณาการองค์ความรู้ด้านวิศวกรรมเหมืองแร่กับแนวคิดเศรษฐกิจหมุนเวียน เพื่อสร้างมูลค่าเพิ่มให้กับหางแร่ซึ่งเป็นวัสดุเหลือทิ้งจากกระบวนการแต่งแร่ โดยการนำมาพัฒนาเป็นอิฐบล็อกคุณภาพสูงที่มีความแข็งแรงและทนทานกว่าอิฐทั่วไป
นอกจากจะช่วยลดการใช้ทรัพยากรจากธรรมชาติแล้ว ยังช่วยลดคาร์บอนฟุตพริ้นท์ในกระบวนการก่อสร้าง สร้างศักยภาพของชุมชนและรายได้ให้กับชุมชนรอบเหมือง ให้สามารถพึ่งพาตนเองได้อย่างยั่งยืนเพื่อยกระดับคุณภาพชีวิตในระยะยาว ซึ่งสอดคล้องกับนโยบาย Net Zero และ SDGs ด้าน Sustainable Cities & Communities และ Responsible Consumption & Production
“ความร่วมมือดังกล่าวจะเป็นต้นแบบสำคัญที่แสดงให้เห็นถึงศักยภาพของผู้ประกอบการเหมืองแร่และงานวิจัยไทยในการตอบโจทย์ทั้งด้านเศรษฐกิจ สังคม และสิ่งแวดล้อม”