ล่าไอ้โม่งปั่นหุ้น ECF-BV8 / สุนันท์ ศรีจันทรา
หลังจากราคาหุ้นถูกลากขึ้นมาเป็นแรมเดือน จนกลายเป็นหุ้นที่ร้อนแรง พุ่งทะยานขึ้นมากว่า 4 เด้งภายในเวลา 1 เดือน และพุ่งขึ้นมา 23 เด้ง ภายในเวลา 4 เดือน หุ้นบริษัท อีสต์โคสท์เฟอร์นิเทค จำกัด (มหาชน) หรือ ECF และหุ้น บริษัท ดีวี8 จำกัด (มหาชน) หรือ DV8 ก็เดินทางมาสู่จุดหมายปลายทางขาขึ้น และกำลังถูกถล่มขายจนทรุดลงติดฟลอร์ทั้งคู่
หุ้น ECF ถูกเทขาย หลังจากหุ้นเพิ่มทุนจำนวน 999.90 ล้านหุ้น เข้าซื้อขายเมื่อวันที่ 16 กรกฎาคมที่ผ่านมา จนคาคารูดลงต่ำสุดติดพื้น 30% โดยปิดที่ 1.39 บาท ลดลง 614 สตางค์ หรือลดลง 30.50%
ส่วนหุ้น DV8 ถูกตลาดหลักทรัพย์ ฯ ยกระดับมาตรการกำกับการซื้อขายเป็นขั้นที่ 2 มีผลทันทีวันที่ 16 กรกฎาคม โดยกำหนดให้ซื้อหุ้นด้วยเงินสดหรือบัญชีแคชบาลานซ์ ห้ามคำนวณวงเงินซื้อขายหุ้น ห้ามหักลบการชำระราคาค่าซื้อขายหุ้นในวันเดียวหรือห้ามเน็ทเซทเทิ้ลเมนท์ และใช้ซื้อขายด้วยระบบ Auction
หรือระบบการจับคู่คำสั่งซื้อและขายในช่วงเวลาที่กำหนด โดยจะมีการประมูลราคาเพื่อหาผู้ชนะการซื้อขาย. ซึ่งแตกต่างจากระบบการซื้อขายแบบปกติที่คำสั่งซื้อขายจะถูกจับคู่อัตโนมัติทันทีที่มีการส่งคำสั่งเข้ามา
หุ้น DV8 ที่แผลงฤทธิ์มา 4 เดือน ราคาหุ้นดีดตัวขึ้นมากว่า 23 เด้ง สิ้นฤทธิ์ลงทันที โดยปิดการซื้อขาย ราคาดิ่งลงติดฟลอร์ที่ 6 บาท ลดลง 2.60 บาท หรือลดลง 30.23%
2 หุ้นร้อนตัวอันตราย ถึงตอนอวสานแล้ว โดยกอดคอกันติดฟลอร์ และอาจจะไม่ใช่ฟลอร์แรก โดยเฉพาะหุ้น ECF ซึ่งทิ้งท้ายด้วยแบบรายงาน 246-2 โดยสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) รายงานเช้าวันที่ 17 กรกฎาคม ระบุถึงการได้มาหุ้น ECF ของนางกนกวรรณ กรองทอง สัดส่วน 6.1907% ซึ่งได้มาเมื่อวันที่ 14 กรกฎาคมที่ผ่านมา
และหุ้น ECF จำนวนกว่า 6% ของทุนจดทะเบียนที่นางกนกวรรณได้มา จะเกิดจากการยึดหุ้นที่ผู้ถือหุ้นใหญ่ ECF บางคน นำไปวางเป็นหลักทรัพย์ค้ำประกันเงินกู้ และเมื่อครบกำหนดไม่ยอมชำระคืนหรือไม่
วาระสุดท้ายเกมลากหุ้น ECF และ DV8 มาถึงแล้ว โดยไม่รู้ว่า มีนักลงทุนรายย่อยที่ตามแห่เข้าไปเก็งกำไร และขายออกไม่ทัน ต้องตกเป็นเหยื่อจำนวนเท่าไหร่
แต่สิ่งที่ตลาดหลักทรัพย์ ฯ จะต้องดำเนินการในขั้นต่อไปคือ การตรวจสอบอย่างจริงจัง ถึงเบื้องหลังราคาหุ้นที่ปรับตัวขึ้นอย่างร้อนแรงและต่อเนื่อง
ราคาหุ้น ECF ที่ถูกลากขึ้นมากว่า 400% และราคาหุ้น DV8 ที่ถูกลากขึ้นมากว่า 2,300% ไม่ได้เกิดจากนักลงทุนรายย่อยที่เข้าไปซื้อไล่ราคาแน่ แต่เกิดจากนักลงทุนรายใหญ่ ซึ่งอาจกระจายคำสั่งซื้อขายผ่านนอมินีหรือตัวแทน และเป็นผู้อยู่เบื้องหลังการปั่นราคาหุ้นขึ้นมา
การควานหาตัวไอ้โม่ง ผู้อยู่เบื้องหลังการปั่นราคาหุ้น ECF และ DV8 ไม่น่าจะอยู่นอกเหนือความสามารถของตลาดหลักทรัพย์ โดยขณะนี้อาจมีข้อมูลกลุ่มคนที่ปั่นหุ้นทั้งสองบริษัทขึ้นมาแล้วก็ได้
และถ้าข้อมูลหลักฐานมีน้ำหนักเพียงพอที่ตลาดหลักทรัพย์ ฯ จะส่งข้อมูลหลักฐานให้ ก.ล.ต. เพื่อดำเนินการสอบสวนในเชิงลึก ก่อนจะกล่าวโทษดำเนินคดีตามกฎหมาย
ตลาดหลักทรัพย์ ฯ ควรอย่างยิ่งที่จะต้องเปิดเผยข้อมูล การตรวจสอบ เพื่อให้นักลงทุนทั่วไปรับทราบ และหลีกเลี่ยงการลงทุนหุ้น ECF และ DV8 หรือหลีกหนีหุ้นอันตรายทั้งสองตัว สำหรับนักลงทุนที่ซื้อหุ้นไปแล้ว เพื่อลดความสูญเสีย
คำถามที่ยังไม่มีคำตอบ ตลาดหลักทรัพย์ ฯ ทนนั่งดู การซื้อขายที่ไม่ปกติหุ้น ECF และหุ้น DV8 มาได้อย่างไร โดยไม่ยอมตัดตอนความร้อนแรงมาตั้งแต่ต้น
ปล่อยจนความเสียหายจากหุ้นอันตรายทั้ง 2 ตัวกระจายในวงกว้าง
website : mgronline.com
facebook : MGRonlineLive
twitter : @MGROnlineLive
instagram : mgronline
line : MGROnline
youtube : MGR Online VDO