ผบ.ตร.สั่งด่วน! จับตา 'สายลับ'กัมพูชา ชี้เป้าจุดยุทธศาสตร์ในไทย
พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร์ ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (ผบ.ตร.) ได้กำชับทุกหน่วยให้เฝ้าระวังและจับตา "บุคคลแปลกหน้า" ที่อาจเป็นสายลับของฝ่ายตรงข้าม ซึ่งมีพฤติการณ์ชี้เป้าหรือระบุจุดยุทธศาสตร์สำคัญภายในประเทศไทย พร้อมกันนี้ยังได้เน้นย้ำภารกิจของเจ้าหน้าที่ตำรวจในการดูแลสถานการณ์ชายแดน โดยแบ่งออกเป็นสองส่วนหลักคือ ตำรวจตระเวนชายแดน (ตชด.) ในแนวหน้า และ ตำรวจภูธรในแนวหลัง
ผบ.ตร.เปิดเผยเรื่องดังกล่าว ระหว่างลงพื้นที่เยี่ยมอาการบาดเจ็บของ ส.ต.อ. วชิระ กุศลพันธ์ อายุ 32 ปี ที่โรงพยาบาลศรีสะเกษ ซึ่งถูกสะเก็ดระเบิดจากเหตุโจมตีเป้าหมายพลเรือนที่ร้านสะดวกซื้อในจังหวัดศรีสะเกษ โดยได้มอบกำลังใจและเงินช่วยเหลือส่วนตัวให้แก่ ส.ต.อ. วชิระ จากนั้นได้เดินทางต่อไปยังศูนย์อพยพในวัดแห่งหนึ่ง อ.พยุห์ จ.ศรีสะเกษ เพื่อให้กำลังใจประชาชนที่อพยพหนีภัยการสู้รบมาจาก อ.กันทรลักษ์
ผบ.ตร. เผยว่า การเดินทางมายังจังหวัดชายแดนในครั้งนี้ โดยได้เยี่ยมพื้นที่อุบลราชธานีก่อนมาศรีสะเกษ มีวัตถุประสงค์เพื่อดูแลภารกิจของตำรวจ โดยแนวหน้า ตำรวจตระเวนชายแดน (ตชด.) ทำหน้าที่สนับสนุนการสู้รบเคียงบ่าเคียงไหล่ทหาร และแนวหลังคือตำรวจภูธรดูแลความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สินของประชาชนที่ต้องละทิ้งบ้านเรือนและอพยพมายังศูนย์พักพิงต่างๆ
ก่อนหน้านี้ เมื่อวันที่ 24กรกฎาคม 2568 พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ ได้สั่งการให้ทุกหน่วยงานเตรียมความพร้อมสูงสุดเพื่อรับมือสถานการณ์ชายแดนไทยกัมพูชา โดยให้จัดเตรียมกำลังพล, อาวุธยุทโธปกรณ์, ยานพาหนะ, และระบบการสื่อสารให้พร้อมปฏิบัติงานตลอดเวลา รวมถึงยกระดับมาตรการรักษาความสงบเรียบร้อยและความปลอดภัยของประชาชนในพื้นที่
พร้อมกันนี้ ได้กำชับเจ้าหน้าที่ตำรวจให้เพิ่มความถี่และความเข้มข้นในการออกตรวจตราดูแลทรัพย์สินของประชาชนที่อพยพไปอยู่ในพื้นที่ปลอดภัย เพื่อป้องกันและปราบปรามกลุ่มมิจฉาชีพที่อาจฉวยโอกาสจากสถานการณ์ชายแดนไทยกัมพูชา เข้ามาประทุษร้ายต่อทรัพย์สินของประชาชน