“หุ้นเอเชีย” เปิดบวก รับข่าว “สหรัฐ-EU” บรรลุดีลภาษีนำเข้าเหลือ 15%
ตลาดหุ้นเอเชีย เปิดบวกส่วนใหญ่ในวันนี้ 28 ก.ค.68 ตอบรับข่าวสหรัฐบรรลุข้อตกลงการค้าระหว่างสหภาพยุโรป (EU) นำโดยดัชนี เซี่ยงไฮ้คอมโพสิตตลาดหุ้นจีน อยู่ที่ระดับ 3,603.50 จุด บวก 9.85 จุด หรือ +0.27% ส่วนดัชนี S&P/ASX 200 ตลาดหุ้นออสเตรเลียอยู่ที่ระดับ 8,689.50 จุด บวก 22.60 จุด หรือ 0.26% ดัชนีฮั่งเส็งตลาดหุ้นฮ่องกงเปิดที่ระดับ 25598.45 จุด บวก 210.10 จุด หรือ 0.83%
ขณะที่ ดัชนีนิกเกอิต ตลาดหุ้นญี่ปุ่นเปิดที่ระดับ 41,146.00 จุด ลดลง 310.23 จุด หรือ -0.75% และ ดัชนี KOSPI ตลาดหุ้นเกาหลีใต้อยู่ที่ระดับ 3192.52 จุด ลดลง 3.53 จุด หรือ -0.11%
นายโดนัลด์ ทรัมป์ ประธานาธิบดีสหรัฐอเมริกา ได้แถลงถึงข้อตกลงทางการค้าระหว่างสหรัฐฯและสหภาพยุโรป (EU) หลังการเจรจากับนางเออร์ซูลา ฟอน แดร์ เลเยน ประธานคณะกรรมาธิการยุโรป (European Commission: EC) ณ เมืองเทิร์นเบอร์รี ประเทศสกอตแลนด์
ทรัมป์ กล่าวว่า สหรัฐฯ และ EU ได้บรรลุข้อตกลงเกี่ยวกับอัตราภาษีศุลกากรที่ 15% จากอัตราเดิมสูงถึง 30% สำหรับสินค้านำเข้าหลักจาก EU รวมถึงรถยนต์และสินค้าอื่น ๆ ที่มีผลกระทบต่อการค้าในภูมิภาค ทั้งนี้ ข้อตกลงนี้จะช่วยยุติการเจรจาที่ยืดเยื้อซึ่งมีมาตั้งแต่ปลายปี 2567
นอกจากนี้ สหรัฐฯ และ EU ยังได้ตกลงในข้อตกลงการค้าฉบับใหม่ที่เปิดโอกาสให้ประเทศสมาชิกใน EU สามารถดำเนินการค้ากับสหรัฐฯ โดยไม่มีภาษีศุลกากร (0%) ในหลายประเภทสินค้า รวมถึงการตกลงซื้ออุปกรณ์ทางทหารจากสหรัฐฯ ซึ่งคาดว่าจะมูลค่ารวมเป็นจำนวนมาก
ภายใต้ข้อตกลงนี้ สหภาพยุโรปจะทำการซื้อพลังงานจากสหรัฐฯ มูลค่ากว่า 750,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ โดยคาดว่าข้อตกลงนี้จะช่วยเสริมสร้างความมั่นคงด้านพลังงานให้กับทั้งสองฝ่าย
ในส่วนของการลงทุน สหภาพยุโรปจะเพิ่มการลงทุนในสหรัฐฯ อีกกว่า 600,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ซึ่งจะช่วยกระตุ้นการเติบโตทางเศรษฐกิจในสหรัฐฯ โดยเฉพาะในภาคการผลิตและเทคโนโลยี
ขณะที่นางเออร์ซูลา ฟอน แดร์ เลเยน ประธานคณะกรรมาธิการยุโรป กล่าวว่า การเจรจานี้เป็นไปอย่างยากลำบาก แต่เราสามารถบรรลุข้อตกลงที่ดีร่วมกันได้ ซึ่งเป็นประโยชน์ต่อทั้งสองฝ่าย
ทรัมป์ ยังยืนยันว่า จะส่งหนังสือแจ้งการใช้อัตราภาษีนำเข้าฉบับใหม่ในวันศุกร์ที่ 1 สิงหาคมนี้ พร้อมกล่าวย้ำว่า “ประเทศที่ไม่สามารถตกลงทางการค้ากับสหรัฐฯ ได้ จะต้องเผชิญกับอัตราภาษีใหม่ตามที่กำหนดไว้”
ขณะที่ ข้อตกลงทางการค้าระหว่างสหรัฐฯ และ EU ถือเป็นก้าวสำคัญในการลดความตึงเครียดทางการค้าระหว่างสองฝ่าย ซึ่งมีผลกระทบต่อเศรษฐกิจโลก โดยเฉพาะการค้าและการลงทุนระหว่างประเทศ
นอกจากนี้ สำนักข่าวเซาท์ไชน่ามอร์นิ่งโพสต์ (SCMP) สื่อภายใต้การกำกับของรัฐบาลจีน รายงานโดยอ้างแหล่งข่าวระดับสูงที่เกี่ยวข้องกับการเจรจาภาษีและการค้าระหว่างจีนกับสหรัฐฯ ว่า ในการเจรจารอบที่ 3 ซึ่งจะมีขึ้นในวันจันทร์ที่ 28 กรกฎาคม 2568 ณ กรุงสตอกโฮล์ม ประเทศสวีเดน ทั้ง 2 ฝ่ายจะตกลงเลื่อนวันเริ่มมีผลบังคับใช้ของข้อตกลง หรือวันเส้นตาย ออกไปอีก 90 วัน หรือประมาณ 3 เดือน
ก่อนหน้านี้ ในการเจรจารอบที่ 2 ซึ่งจัดขึ้นที่กรุงลอนดอน ประเทศอังกฤษ ทั้ง 2 ฝ่ายเคยกำหนดวันมีผล 12 สิงหาคม 2568อย่างไรก็ตาม การเจรจารอบล่าสุดมีแนวโน้มขยายกรอบเวลาออกไป เพื่อให้ทั้งมีเวลาพิจารณารายละเอียด ข้อตกลงต่าง ๆ
ขณะที่ แหล่งข่าวระดับสูงที่เกี่ยวข้องเปิดเผยว่า การเจรจาภาษีรอบที่ 3 จะมีขึ้นในวันจันทร์ที่ 28 กรกฎาคม 2568 ณ กรุงสตอกโฮล์ม ประเทศสวีเดน ทั้ง 2 ฝ่ายจะไม่มีการเสนอปรับเพิ่มอัตราภาษีตอบโต้ (Reciprocal Tariffs) จากระดับปัจจุบันที่ได้ตกลงไว้ในรอบก่อนหน้า ซึ่งจัดขึ้นที่กรุงลอนดอนเมื่อต้นเดือนพฤษภาคมที่ผ่านมา
นอกจากนี้ จีนและสหรัฐฯ ยังมีจุดยืนร่วมกันว่าจะไม่ดำเนินมาตรการใด ๆ ที่อาจนำไปสู่การตอบโต้ทางการค้าเพิ่มเติม ซึ่งอาจเพิ่มความตึงเครียดระหว่างกัน
สำหรับวาระสำคัญในการเจรจารอบนี้ 1 ในประเด็นหลักคือการที่ฝ่ายจีนแสดงความไม่เห็นด้วยต่ออัตราภาษีที่ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ของสหรัฐฯ สั่งให้เพิ่มขึ้น 20% กับสินค้าจีน โดยอ้างเหตุผลเกี่ยวกับข้อกล่าวหาเรื่องการลักลอบนำเข้ายาแก้ปวดเฟนทานิล ซึ่งจีนมองว่าไม่เป็นธรรม อย่างไรก็ตาม จีนอาจพิจารณาใช้อัตราภาษีทั่วไปที่ 10% กับสินค้านำเข้าทุกประเภท หากสหรัฐฯ ยอมยกเลิกการปรับขึ้นภาษีเพิ่มเติมดังกล่าว
ทั้งนี้ เมื่อวันที่ 12 พฤษภาคม 2568 นายสก็อตต์ เบสเซนต์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังของสหรัฐฯ เปิดเผยว่า ในการเจรจาภาษีและการค้ารอบที่ 2 ทั้งสองประเทศสามารถบรรลุข้อตกลงร่วมกันในการลดภาษีนำเข้าระหว่างกัน โดยมีผลบังคับใช้เป็นเวลา 90 วัน โดยสหรัฐฯ ได้ปรับลดภาษีนำเข้าสินค้าจากจีนจากเดิม 145% เหลือ 30% ขณะที่จีนได้ลดภาษีนำเข้าสินค้าจากสหรัฐฯ จากเดิม 125% เหลือ 10%