อสังหาฯ Q2 ฟื้น SPALI – SIRI เด่น
หุ้นวิชั่น
อัพเดต 9 ชั่วโมงที่ผ่านมา • เผยแพร่ 16 ชั่วโมงที่ผ่านมา • HoonVision | หุ้นวิชั่น - หุ้น ข่าวหุ้น หุ้นไทยวันนี้ หุ้นวันนี้ หุ้นเด่น วิเคราะห์หุ้น ธุรกิจ การเงิน เศรษฐกิจ การลงทุน ดัชนีราคาหุ้นหุ้นวิชั่น – ทีมข่าวหุ้นวิชั่น รายงานว่า บริษัทหลักทรัพย์ เกียรตินาคินภัทร จำกัด (มหาชน) ระบุถึง ภาพรวมกลุ่มอสังหาริมทรัพย์ไทยในไตรมาส 2 ว่า มีแนวโน้มอ่อนแอเมื่อเทียบกับปีก่อน แต่ฟื้นตัวเมื่อเทียบกับไตรมาสก่อนหน้า
ปรับลดประมาณการและราคาเป้าหมายของ AP และ LH; คงคำแนะนำ “ซื้อ” สำหรับ SPALI และ SIRI
หลังจากปรับประมาณการกำไรของ SIRI (รายงานวันที่ 26 มิถุนายน) และ SPALI (รายงานวันที่ 25 กรกฎาคม) เราได้ปรับลดประมาณการกำไรหลักปี 2568/2569 ลง 6%/4% สำหรับ AP และ 9%/2% สำหรับ LH เนื่องจากยอดขายที่อยู่อาศัยลดลงและอัตรากำไรขั้นต้นแคบลง โดยได้รวมกำไรจากการขายสินทรัพย์ของ LH ในไตรมาส 2/2568 ไว้แล้ว
ราคาเป้าหมายใหม่อยู่ที่ 8.00 บาท (ลดลงจาก 8.50 บาท) สำหรับ AP และ 4.00 บาท (ลดลงจาก 4.40 บาท) สำหรับ LH ตามการปรับลดประมาณการกำไร โดยเราคาดว่ากำไรจะถึงจุดต่ำสุดในไตรมาสแรก และยอดขายล่วงหน้า (presales) จะต่ำสุดในไตรมาสที่ 2
เรายังคงมอง “neutral” สำหรับ AP และ “underperform” สำหรับ LH ขณะที่ยังคงคำแนะนำ “ซื้อ” สำหรับ SPALI เนื่องจากพอร์ตโฟลิโอที่แข็งแกร่งและงบดุลที่แข็งแรง และ “ซื้อ” สำหรับ SIRI ด้วยเหตุผลด้านมูลค่าหุ้นที่ยังเป็นรองกลุ่ม (laggard valuations) และแนวโน้มการรีไฟแนนซ์ที่ดีขึ้นหลังประสบความสำเร็จในการออกหุ้นกู้ไม่มีวันครบกำหนด (perpetual bond) ในเดือนมิถุนายน
LH มีการฟื้นตัวในวงกว้างของกำไรสุทธิรายไตรมาสในไตรมาส 2/2568 กว้างขวาง แต่มีการเติบโตรายปี
เราคาดว่าผลประกอบการหลัก (core earnings) ในไตรมาส 2/2568 ของผู้พัฒนาอสังหาฯ ทั้ง 4 รายที่เราวิเคราะห์จะยังคงอ่อนแอเมื่อเทียบกับปีก่อน แต่จะฟื้นตัวเมื่อเทียบกับไตรมาสก่อน LH ควรมีกำไรสุทธิเติบโตจากช่วงเดียวกันปีก่อน (เพิ่มขึ้น 42% จากช่วงเดียวกันปีก่อน) เนื่องจากได้กำไรจากการขายอพาร์ตเมนต์ในสหรัฐฯ (มูลค่าการขาย 7.85 พันล้านบาท และกำไรหลังหักภาษี 560 ล้านบาท) ขณะที่กำไรหลักคาดว่าจะลดลง 15% จากไตรมาสก่อนหน้า ทั้งนี้ LH ควรมีกำไรสูงสุดของปีในไตรมาสที่ 2 (คาดว่าจะไม่มีโอกาสได้กำไรพิเศษจากการขายทรัพย์สินมากนักในไตรมาสที่ 4)
SIRI ควรเป็นอันดับหนึ่งด้านกำไรหลัก โดยคาดว่าจะมีกำไร 1.1 พันล้านบาทในไตรมาส 2/2568 เพิ่มขึ้น 82% จากไตรมาสก่อนหน้า จากรายได้อสังหาฯ ที่เพิ่มขึ้น และ SG&A ที่ลดลง SPALI น่าจะเป็นอันดับสอง โดยคาดกำไรหลักที่ 1.07 พันล้านบาท เพิ่มขึ้น 164% จากไตรมาสก่อนหน้า จากยอดขายที่ดีขึ้น และส่วนแบ่งกำไรจากโครงการในออสเตรเลีย เราคาดว่า AP จะมีกำไรหลัก 940 ล้านบาท ฟื้นตัว 9% จากไตรมาสก่อนหน้า จากยอดขายอสังหาฯ ที่ดีขึ้น สำหรับ LH คาดว่ากำไรหลักจะอยู่ที่ 869 ล้านบาท ฟื้นตัว 19% จากไตรมาสก่อนหน้า จากฐานที่ต่ำมากในไตรมาส 1/2568 (ต่ำสุดในรอบ 13 ปี) เราคาดว่าอัตรากำไรขั้นต้นจากยอดขายอสังหาฯ ในไตรมาสที่ 2 จะยังอ่อนแอสำหรับทุกบริษัท โดยอยู่ที่ 31.0% สำหรับ SPALI, 29.9% สำหรับ AP, 29.6% สำหรับ SIRI และ 27.0% สำหรับ LH
คาดการณ์เงินปันผลระหว่างกาลของ SPALI, SIRI และ LH
เราคาดว่า
- SPALI จะจ่ายปันผลระหว่างกาล 0.25 ถึง 0.40 บาทต่อหุ้น (อิงอัตราจ่ายปันผลที่ 35% ถึง 50% ตามนโยบาย)
- LH จะจ่าย 0.13 บาทต่อหุ้น (อิงอัตราจ่ายปันผลตามประวัติ 70%)
- SIRI จะจ่าย 0.05 บาทต่อหุ้น (อิงอัตราจ่ายปันผล 50% ตามนโยบาย)
- ส่วน AP ไม่มีนโยบายจ่ายปันผล
แตะจุดต่ำสุดก่อนในไตรมาสที่ 2 พร้อมฟื้นตัวอย่างค่อยเป็นค่อยไปและไม่ทั่วถึง
ผลประกอบการของกลุ่มอสังหาริมทรัพย์อ่อนแอมากในเดือนเมษายน ก่อนจะฟื้นตัวขึ้นแบบเดือนต่อเดือนอย่างช้าๆ มาสู่ระดับประมาณ 70 ถึง 80% ของช่วงก่อนเกิดแผ่นดินไหว ความแข็งแกร่งยังคงเห็นได้ในกลุ่มบ้านแนวราบและคอนโด low-rise ยอดขายล่วงหน้ารวมของ 10 บริษัทชั้นนำที่จดทะเบียนในไตรมาส 2 อยู่ที่ 43,000 ล้านบาท (ลดลง 33% จากช่วงเดียวกันปีก่อน และ 25% จากไตรมาสก่อน) ซึ่งใกล้เคียงกับช่วงโควิด-19 ในปี 2563 และสูงกว่าช่วงก่อนรัฐประหารเดือนพฤษภาคม 2567 และช่วงน้ำท่วมในปี 2554 เนื่องจากการรวมตัวของส่วนแบ่งตลาด อย่างไรก็ตาม การฟื้นตัวในครึ่งหลังของปี 2568 คาดว่าจะไม่ครอบคลุมทั่วทั้งตลาด และจะขึ้นอยู่กับแรงกดดันจากสต็อกคงเหลือ โดยผู้พัฒนาโครงการคาดว่าจะปรับลดแผนการเปิดตัวโครงการใหม่ลงจากแผนเดิม ทั้งนี้ คาดว่า SIRI, SPALI และ AP จะเป็นผู้นำการฟื้นตัวจากการเปิดตัวโครงการใหม่ที่เติบโตแบบครึ่งปีต่อครึ่งปี