ผบช.ไซเบอร์ สั่งคุมเข้ม หลังกัมพูชาโจมตี ปล่อยเฟกนิวส์ในโลกออนไลน์ เฝ้าระวังหลอกรับบริจาค
พล.ต.ท.ไตรรงค์ ผิวพรรณ ผบช.สอท. เผย ผบ.ตร.สั่งยกระดับคุมเข้ม หลังพบกัมพูชาโจมตีปล่อยเฟกนิวส์ในโลกออนไลน์ พร้อมสั่งสายตรวจเฝ้าระวังการเปิดรับบริจาคให้กับเจ้าหน้าที่แนวชายแดนพื้นที่สู้รบ เผยหลังมีข้อตกลงหยุดยิง พบคนไทยกลับเข้าประเทศแค่ 74 คน จากเดิมกว่า 1,000 คน มีความเชื่อมโยงบ่อนปอยเปต หรือไปเป็นแก๊งคอลเซ็นเตอร์
เมื่อเวลา 12.00 น. วันที่ 30 กรกฎาคม 2568 ที่กองบัญชาการตำรวจสืบสวนสอบสวนอาชญากรรมทางเทคโนโลยี (บช.สอท.) เมืองทองธานี อ.ปากเกร็ด จ.นนทบุรี พล.ต.ท.ไตรรงค์ ผิวพรรณ ผบช.สอท. เผยถึงสถานการณ์ความไม่สงบตามแนวชายแดนไทย-กัมพูชา พบว่าแก๊งคอลเซ็นเตอร์ที่มาหลอกลวงพี่น้องประชาชนไม่ได้ลดน้อยลงไป และจากข้อมูลที่มีรวมถึงที่ได้ไปดูที่ จ.สระแก้ว เมื่อวันที่ 26 กรกฎาคม ที่ผ่านมา หลังพบมีคนไทยที่หลบหนีข้ามแดนไป ส่วนใหญ่ทำงานที่บ่อนปอยเปต หรือไปเป็นแก๊งคอลเซ็นเตอร์อย่างผิดกฎหมายประมาณ 1,000 คน จะเดินทางกลับเข้ามา ซึ่งชุดที่กลับมาพบว่ามีความเกี่ยวข้องกับเคสไอดีรวมแล้วประมาณ 800 คดี ซึ่งคนที่พบมีหมายจับอยู่แล้วก็ได้ดำเนินคดีตามกฎหมาย และได้รับการประสานเพิ่มเติมอีกว่า จะมีคนไทยกลับข้ามแดนมาอีกกว่า 1,000 คน แต่พอมีข่าวประกาศหยุดยิงขึ้นมา กลับพบว่ามีคนข้ามกลับมาเพียง 74 คน ส่วนที่เหลือทราบว่าน่าจะเปลี่ยนใจกลับไปทำงานเหมือนเดิม
สำหรับช่วงนี้ที่มีสถานการณ์ความไม่สงบ ก็จะพบมีการเปิดรับบริจาคให้กับเจ้าหน้าที่ที่ปฏิบัติงานในพื้นที่สู้รบ ส่วนนี้ก็ได้ให้สายตรวจไซเบอร์เฝ้าระวัง หากพบก็จะทำการปิดกั้นก่อนที่จะมีผู้เสียหายเกิดขึ้น ต้องบอกว่ากลุ่มแก๊งคอลเซ็นเตอร์เหล่านี้จะหาวิธีหลอกลวงโดยดูสถานการณ์ปัจจุบัน ซึ่งในช่วงนี้มีสถานการณ์สู้รบตามชายแดนก็จะเปิดเพจในการช่วยเหลือพี่น้องประชาชนในเขตพื้นที่ชายแดน หรือพี่น้องทหาร ก็ต้องระมัดระวังไม่ตกเป็นเหยื่อ ถ้าท่านต้องการที่จะบริจาคเงินให้หน่วยงานราชการ เขาก็จะมีบัญชีหน่วยงานนั้นๆ อยู่แล้ว แต่ถึงขณะนี้ยังไม่เห็นว่ามีการเปิดรับบริจาคในลักษณะนี้ หากท่านพบเห็นการลงขอรับบริจาคในลักษณะนี้ ขอให้เอ๊ะไว้ก่อน และตรวจสอบข้อมูลข้อเท็จจริงก่อนจะโอนเงิน และหากจะบริจาคจริงๆ ให้ดูในแอปพลิเคชันโมบายแบงก์กิ้งของทางธนาคาร ก็จะมีบัญชีรายชื่อของหน่วยงาน มูลนิธิฯ อยู่เพื่อความปลอดภัยในการถูกหลอกลวง
เมื่อผู้สื่อข่าวสอบถามถึงมาตรการในการเฝ้าระวัง หลังทางการกัมพูชามีการโจมตีทางการข่าวอย่างต่อเนื่อง ทาง ผบช.ไซเบอร์ ระบุว่า ตนได้รับคำสั่งจาก พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร์ ผบ.ตร. ให้ยกระดับศูนย์ปฏิบัติการทุกศูนย์ในความรับผิดชอบของแต่ละกองบัญชาการ ในส่วนของตำรวจไซเบอร์เองรับผิดชอบศูนย์การรักษาความมั่นคงปลอดภัยทางไซเบอร์ ซึ่งมีการประสานการปฏิบัติกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในการป้องกันการถูกโจมตีหน่วยงาน หรือเพจต่างๆ ของทางราชการ หรือภาคเอกชนจากนักแฮ็กเกอร์ทั่วไป หรือนักแฮ็กเกอร์ชาวต่างชาติอีกด้วย
อ่านข่าวต้นฉบับได้ที่ : ผบช.ไซเบอร์ สั่งคุมเข้ม หลังกัมพูชาโจมตี ปล่อยเฟกนิวส์ในโลกออนไลน์ เฝ้าระวังหลอกรับบริจาค
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
- “บิ๊กเล็ก” สั่งงดให้ความช่วยเหลือกัมพูชา-ข่าวต่างชาติช่วยรบเป็นนักวอลเลย์
- ปล่อยตัวแล้ว 3 ชาวจีน เข้ามาในพื้นที่ชายแดน ผกก.สภ.กาบเชิง ยันเป็นนักข่าวจริง
- วิทยาลัยพยาบาลสุรินทร์ โต้ปมบีบ "นักศึกษาทุนกัมพูชา" ลาออก ยืนยันที่ผ่านมาดูแลเต็มที่
- โฆษก ศบ.ทก. ประกาศห้ามนำ “โดรน” ขึ้นบินพื้นที่ 14 จังหวัดความมั่นคง ใครฝ่าฝืนมีโทษทั้งจำทั้งปรับ
- ผบช.ไซเบอร์ สั่งคุมเข้ม หลังกัมพูชาโจมตี ปล่อยเฟกนิวส์ในโลกออนไลน์ เฝ้าระวังหลอกรับบริจาค
ตามข่าวก่อนใครได้ที่
- Website : www.thairath.co.th
- LINE Official : Thairath