ทรัมป์ประกาศคว่ำบาตร BRICS พร้อมขู่จะล่มสลายหากรวมตัวจริงจัง
“เมื่อผมได้ยินเกี่ยวกับกลุ่ม BRICS หกประเทศ ผมเล่นงานพวกเขาอย่างหนักมาก และหากพวกเขารวมตัวกันอย่างจริงจังเมื่อไร มันจะจบลงอย่างรวดเร็ว” ทรัมป์กล่าวโดยไม่ได้ระบุชื่อประเทศอย่างเจาะจง “เราจะไม่ยอมให้ใครมาเล่นเกมกับเราเด็ดขาด”
นอกจากนี้ ทรัมป์ยังยืนยันถึงความตั้งใจในการปกป้องสถานะของเงินดอลลาร์ในฐานะสกุลเงินสำรองโลก และให้คำมั่นว่าจะไม่อนุญาตให้มีการจัดตั้งสกุลเงินดิจิทัลที่ออกโดยธนาคารกลาง (CBDC) ในสหรัฐอเมริกา
ก่อนหน้านี้ เมื่อวันที่ 6 กรกฎาคม ทรัมป์ได้ประกาศนโยบายภาษีนำเข้าใหม่ โดยระบุว่าจะใช้กับประเทศใดก็ตามที่เข้าร่วมกับกลุ่ม BRICS ซึ่งเขาเรียกว่าเป็นผู้มีนโยบาย “ต่อต้านสหรัฐฯ”
ในขณะที่เวทีความร่วมมือระดับโลกอย่าง G7 และ G20 กำลังเผชิญกับความแตกแยกจากแนวทาง “America First” ของสหรัฐฯ กลุ่ม BRICS จึงพยายามวางตัวเป็นเวทีทางเลือกเพื่อการทูตแบบพหุภาคี ทรัมป์กล่าวหาโดยไม่มีหลักฐานว่า BRICS ถูกจัดตั้งขึ้นเพื่อต่อต้านสหรัฐฯ และบ่อนทำลายบทบาทของเงินดอลลาร์
อย่างไรก็ตาม ผู้นำกลุ่ม BRICS ได้ออกมาปฏิเสธข้อกล่าวหาดังกล่าว โดยยืนยันว่ากลุ่มไม่เคลื่อนไหวในเชิงต่อต้านสหรัฐฯ
ในปีนี้ บราซิลซึ่งเป็นประธานกลุ่ม BRICS ได้ยกเลิกแผนการผลักดันสกุลเงินร่วม แต่กลุ่มยังเดินหน้าพัฒนาโครงการ “BRICS Pay” ซึ่งเป็นระบบชำระเงินข้ามพรมแดนที่อำนวยความสะดวกในการใช้เงินตราท้องถิ่นในการค้าระหว่างประเทศ
ปัจจุบัน BRICS ได้ขยายสมาชิกจาก 5 ประเทศเดิม ได้แก่ บราซิล รัสเซีย อินเดีย จีน และแอฟริกาใต้ ไปสู่การรวมสมาชิกใหม่ เช่น อิหร่าน และอินโดนีเซีย โดยในการประชุมสุดยอดที่บราซิล ผู้นำกลุ่มได้แสดงความเห็นที่มีลักษณะวิพากษ์นโยบายการค้าและการทหารของสหรัฐฯ อย่างเป็นนัย
ทรัมป์ยังได้ประกาศเป้าหมายพุ่งเป้าไปที่บราซิลเป็นพิเศษ โดยเตรียมบังคับใช้ภาษีนำเข้าสินค้าจากบราซิลในอัตราสูงถึง 50% ตั้งแต่เดือนสิงหาคมเป็นต้นไป พร้อมกับเริ่มกระบวนการสอบสวนการค้าที่เขาระบุว่า “ไม่เป็นธรรม” ของบราซิล