หุ้นกู้ EA 3 รุ่น ได้ยืดหนี้แล้ว ส่วนอีก 11 รุ่นยังต้องลุ้น
หุ้นกู้ EA จำนวน 14 รุ่น ได้รับโหวต 3 รุ่น ยืดหนี้ 7 ปี แลกจ่ายดอกเบี้ยเพิ่ม 0.50 %ต่อปี ส่วนอีก 13 รุ่นลุ้นกันใหม่ แย้มพร้อมปรับเงื่อนไข
นายวสุ กลมเกลี้ยง ประธานเจ้าหน้าที่บริหารด้านการเงิน บมจ.พลังงานบริสุทธิ์ ( EA) เปิดเผยว่า บริษัทได้รับความเห็นชอบจากผู้ถือหุ้นกู้ในหุ้นกู้ 3 รุ่นที่ครบกำหนดไถ่ถอนในระยะเวลาอันใกล้ ได้แก่ EA257A, EA259A และ EA261A ให้ขยายระยะเวลาการไถ่ถอนออกไปอีก 7 ปี ,ปรับเพิ่มอัตราดอกเบี้ย 0.50% ต่อปี, ทยอยรับเงินต้นคืนในแต่ละปี, มีโอกาสได้รับเงินคืนก่อนกำหนด (Call Option)
พร้อมได้รับข้อกำหนดการจ่ายเงินปันผล (Dividend Covenant) ว่าหากบริษัทมีการจ่ายเงินปันผลจะต้องนำเงินจำนวนเดียวกันมาไถ่ถอนหุ้นกู้ด้วย ช่วยให้บริษัทสามารถบริหารสภาพคล่องได้อย่างต่อเนื่อง และไม่มีความเสี่ยงต่อการผิดนัดชำระหนี้ในช่วง 2 ปีข้างหน้า
เมื่อวันที่ 27 มิถุนายน 2568 EA จัดประชุมขออนุมัติปรับเงื่อนไขการชำระหนี้หุ้นกู้ทั้ง 14 รุ่น โดยมีผู้เข้าร่วมครบองค์ประชุมเพียง 11 รุ่น
นายวสุ กล่าวถึงหุ้นกู้ที่ยังไม่ได้รับอนุมัติว่า นอกเหนือจาก 3 รุ่นที่ผ่านการอนุมัติ ยังมีหุ้นกู้อีก 8 รุ่น ที่จัดประชุมได้ครบองค์ประชุม แต่ยังไม่ผ่านเกณฑ์การโหวต 75% ซึ่งเกือบทั้งหมดมีคะแนนเสียงอนุมัติ มากกว่า 50% แล้ว ถือเป็นสัญญาณบวกที่บริษัทจะใช้เป็นฐานในการสื่อสารและเจรจาต่อไปในรอบถัดไป
นอกจากนี้ ยังมีหุ้นกู้อีก 3 รุ่น ที่ไม่สามารถนับองค์ประชุมได้ เนื่องจากจำนวนผู้เข้าร่วมไม่ครบตามเกณฑ์ที่กำหนด ส่งผลให้การพิจารณาวาระต่าง ๆ ต้องเลื่อนออกไป ซึ่งบริษัทจะดำเนินการจัดประชุมรอบใหม่ในลำดับถัดไป
ในส่วนของหุ้นกู้ที่ยังไม่ได้รับอนุมัติบริษัทจะเร่งเจรจาสร้างความเข้าใจ รวมถึงบริษัทจะดำเนินการคู่ขนานเจรจากับสถาบันการเงิน เพื่อพัฒนาแนวทางทางเลือกเพิ่มเติมและเสริมความมั่นคงด้านการเงินของบริษัทในระยะยาว
EA ตั้งเป้าจะดำเนินการประชุมรอบใหม่ภายในวันที่ 7 กรกฎาคม 2568 สำหรับหุ้นกู้ 2 รุ่นที่ไม่ครบองค์ประชุม
และจัดประชุมรอบที่ 2 สำหรับทุกรุ่นที่ยังไม่อนุมัติในวันที่ 9 กรกฎาคม 2568 เพื่อให้การอนุมัติครบทุกชุดหุ้นกู้ และจะนำเงื่อนไขใหม่ (หากมีการเปลี่ยนแปลง) เสนอกลับให้ผู้ถือหุ้นกู้ที่เคยให้ความเห็นชอบพิจารณาอีกครั้งด้วยความโปร่งใสและเป็นธรรม
“เรายังคงเชื่อมั่นว่าหากได้รับความร่วมมือจากผู้ถือหุ้นกู้อย่างต่อเนื่อง จะนำไปสู่ทางออกที่ดีที่สุดทั้งในมุมของบริษัทและผู้มีส่วนได้เสียทุกท่าน ซึ่งจะเป็นพลังสำคัญในการขับเคลื่อนธุรกิจให้เติบโตต่อไปได้อย่างยั่งยืน”นายวสุกล่าว