ททท. จัดประชุมบูรณาการแผนปฏิบัติการ ททท. ปี 2569 กำหนดแนวทางมุ่งขับเคลื่อนอุตสาหกรรมท่องเที่ยวไทยสู่การปรับสมดุลตลาด เจาะกลุ่มนักท่องเที่ยวคุณภาพ และสร้างความยั่งยืน
การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) จัดประชุมบูรณาการแผนปฏิบัติการ ททท. ปี 2569 (Tourism Authority of Thailand Action Plan 2026 : TATAP 2026) วันที่ 14 - 17 กรกฎาคม 2568 กำหนดนโยบายและทิศทางการตลาด สำหรับใช้เป็นกรอบปฏิบัติงานในการเดินหน้าขับเคลื่อนอุตสาหกรรมท่องเที่ยว มุ่งปรับสมดุลโครงสร้างตลาด เจาะกลุ่มนักท่องเที่ยวคุณภาพ และยกระดับสินค้าและบริการทางการท่องเที่ยวสู่มาตรฐานความยั่งยืน (Move toward Sustainability) โดยมี นายจักรพล ตั้งสุทธิธรรม ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา นายจาตุรนต์ ภักดีวานิช อธิบดีกรมการท่องเที่ยว พร้อมด้วยนางสาวฐาปนีย์ เกียรติไพบูลย์ ผู้ว่าการ ททท. คณะกรรมการและผู้บริหาร ผู้อำนวยการสำนักงาน ททท. ส่วนกลาง ส่วนภูมิภาค และจากทุกภูมิภาคทั่วโลก เข้าร่วม ณ โรงแรมดุสิตธานี กรุงเทพฯ
นายจักรพล ตั้งสุทธิธรรม ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา กล่าวว่า การท่องเที่ยวไทยต้องก้าวให้ทันกับโลกที่เปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว และบริบททางการท่องเที่ยวที่เปลี่ยนแปลงไป โดยเปลี่ยนจากการเน้นปริมาณมุ่งสู่คุณภาพ ด้วยการมุ่งเน้นกลุ่มนักท่องเที่ยวที่มีการใช้จ่ายสูง กลุ่มความสนใจพิเศษ อาทิ Health & Wellness การท่องเที่ยวสำราญทางน้ำ ตลอดจนนักท่องเที่ยวที่รับผิดชอบต่อสังคมและสิ่งแวดล้อม การกระจายความเสี่ยง ลดการพึ่งพิงตลาดใดตลาดหนึ่ง สร้างสมดุลระหว่างตลาดในประเทศและต่างประเทศ รวมถึงตลาดระยะใกล้และระยะไกล ส่งเสริมเศรษฐกิจฐานราก กระจายรายได้สู่ผู้ประกอบการท้องถิ่นผ่านการเชื่อมโยงการท่องเที่ยวเมืองหลักสู่เมืองน่าเที่ยว และเตรียมพร้อมรับมือวิกฤตในทุกรูปแบบ ขณะเดียวกันต้องส่งเสริมให้ผู้มีส่วนได้ส่วนเสียในอุตสาหกรรมท่องเที่ยวตระหนักและปรับตัวสู่ความยั่งยืนในทุกมิติ
นางสาวฐาปนีย์ เกียรติไพบูลย์ ผู้ว่าการ ททท. กล่าวว่า การประชุม TATAP 2026 ครั้งนี้ ททท.ได้กำหนดแนวทางการดำเนินงานในปี 2569 เพื่อขับเคลื่อนอุตสาหกรรมท่องเที่ยวไทยมุ่งสู่คุณภาพ สร้างสมดุลและความยั่งยืน เพื่อให้สอดรับกับพฤติกรรมของนักท่องเที่ยวยุคใหม่ที่ให้ความสำคัญกับประสบการณ์เฉพาะตัว ความปลอดภัย และความยั่งยืน โดยได้ทบทวนจุดยืนใหม่ โดยเฉพาะการปรับสมดุลตลาดให้ตอบโจทย์นโยบายเศรษฐกิจของประเทศ ควบคู่กับการสร้างสรรค์สิ่งใหม่ ๆ เพื่อสร้างรายได้ในระยะสั้น และวางรากฐานที่แข็งแกร่งสำหรับการเติบโตที่ยั่งยืนในระยะยาว ซึ่งจะให้ความสำคัญกับการทำตลาดบนพื้นฐานข้อมูลพฤติกรรมเชิงลึกของนักท่องเที่ยว และบูรณาการการทำงานแบบ 360 องศากับพันธมิตรเชิงกลยุทธ์ โดยการดำเนินงานส่งเสริมตลาดต่างประเทศจะเน้นการ Relocation สร้างความสมดุลตลาดนักท่องเที่ยวจากทั่วโลก แก้ปัญหาภาพลักษณ์ด้านความปลอดภัย การเป็นแหล่งท่องเที่ยวเก่าในสายตานักท่องเที่ยว และการกระจุกตัวของนักท่องเที่ยว รวมถึงเจาะกลุ่มนักท่องเที่ยวคุณภาพที่มีกำลังซื้อและใช้จ่ายทางการท่องเที่ยวเพิ่มขึ้น ขณะที่ตลาดในประเทศจะมุ่งเพิ่มความถี่ในการเดินทางของคนไทยทั้งภายในภูมิภาคและข้ามภูมิภาคด้วยการจัดกิจกรรมและบิ๊กอีเวนต์ให้เกิดการเดินทางตลอดทั้งปี การใช้กลยุทธ์ City Marketing นำเสนอจุดขายใหม่ๆ พร้อมบอกเล่าเรื่องราวเสน่ห์ไทย เพื่อส่งเสริมการเดินทางสู่เมืองน่าเที่ยว การสร้างสมดุลตลาดระหว่างนักท่องเที่ยวชาวไทยและชาวต่างชาติในพื้นที่เมืองหลักยอดนิยม ทั้งในเชิงพื้นที่และเวลา ขณะเดียวกันจะพัฒนาสินค้าและเส้นทางท่องเที่ยว เพื่อสนองตอบความต้องการของแต่ละกลุ่มเป้าหมายทั้งระยะสั้นและยาว พร้อมทั้งสร้างมูลค่าเพิ่มเพื่อให้เกิดการใช้จ่ายที่เพิ่มขึ้น ผลักดันให้เกิดการยกระดับมาตรฐานสินค้าและบริการท่องเที่ยวสู่มาตรฐานยั่งยืนระดับสากล รวมถึงนำเทคโนโลยีใหม่ๆ มาช่วยยกระดับประสบการณ์การเดินทางของนักท่องเที่ยว โดย ททท. เชื่อมั่นว่าจะนำไปสู่การพัฒนาและยกระดับอุตสาหกรรมการท่องเที่ยว ให้ยังคงเป็นเครื่องมือที่สำคัญของประเทศในการสร้างเสถียรภาพด้านเศรษฐกิจ สังคม วัฒนธรรม และสิ่งแวดล้อมสู่ความยั่งยืน
ทั้งนี้ ททท. กำหนดให้มีการแถลงทิศทางการส่งเสริมการตลาดการท่องเที่ยว ปี 2569 ในวันที่ 21 กรกฎาคม 2568 ณ ศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ กรุงเทพฯ โดยในเวลา 9.00 น. - 17.00 น. จะมีการจัดกิจกรรม Market Briefing นำเสนอสถานการณ์ตลาดและแนวทางการส่งเสริมตลาดของททท. สำนักงานต่างประเทศในแต่ละพื้นที่ทั่วโลก และการจัดกิจกรรม Tourism Clinic เปิดโอกาสให้ผู้ประกอบการธุรกิจได้พบปะหารือกับผู้อำนวยการ ททท. สำนักงานต่างประเทศ เพื่อหาโอกาสในการทำตลาดศักยภาพ ปิดท้ายด้วยการแถลงทิศทางการดำเนินงานด้านการตลาด ททท. ปี 2569 แก่ผู้ที่เกี่ยวข้อง ทั้งภาครัฐ ผู้ประกอบการภาคเอกชนในแวดวงอุตสาหกรรมท่องเที่ยว เวลา 17.30 น. โดยผู้ที่สนใจสามารถรับชมได้ทาง YouTube Channel : Amazing Thailand