"สุริยะ" เปิดคาราวาน ส่งของช่วยเหลือให้แนวหน้า ยัน"คมนาคม" เตรียมเส้นทางเดินทางช่วยผู้อพยพ

"สุริยะ" เปิดคาราวาน ส่งของช่วยเหลือให้แนวหน้า ยัน"คมนาคม" เตรียมเส้นทางเดินทางช่วยผู้อพยพ ยันรบ.ทำสุดความสามารถเหตุโต้ตอบโซเชียลล่าช้า

วันที่ 31 ก.ค. 68 ที่จังหวัดสุรินทร์ นายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม ให้สัมภาษณ์ถึงความพร้อม การช่วยเหลือผู้ประสบภัย ว่า รัฐบาลมีความห่วงใยประชาชน และได้ให้รัฐมนตรี ทุกรายที่มีความพร้อมก็ให้ลงพื้นที่เพื่อตรวจเยี่ยม วันนี้ตนจึงได้ลงพื้นที่ เพราะในส่วนของกระทรวงคมนาคมตั้งแต่เกิดเหตุการณ์วันแรก ก็มีการเตรียมการอพยพประชาชน ที่ได้รับผลกระทบ จากการสู้รบ โดยมีการเตรียมการ ทั้งรถไฟเครื่องบิน ให้สำหรับประชาชน คนไทยที่อยู่ในกัมพูชา ได้เดินทางกลับ และในส่วน ของพื้นที่ชายแดน ก็มีการจัดรถไฟ ศูนย์พักพิงเพื่อให้สามารถ อพยพประชาชนได้ รวมถึงการดูแลโครงสร้างพื้นฐาน เพราะหากพื้นที่ตรงไหน มีการสู้รบ ก็ต้องปรับโครงสร้างพื้นฐานให้เตรียมพร้อม รวมถึง มาตรการ สนับสนุนด้านโลจิสติกส์ ในการจัดระบบ นำสิ่งบรรเทาทุกข์จากส่วนกลาง ไปบริเวณชายแดน

ซึ่งในวันนี้ตนมา นำสิ่งของบริจาคของประชาชนมา ให้ ผู้อพยพ รวมถึงสื่อสารและประสานงาน กับหน่วยงานต่างๆ และมีการเตรียมความพร้อมจากเครื่องจักรกลและเจ้าหน้าที่จากกรมทางหลวงช่วยเหลือพร้อมหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง

เมื่อถามถึงสถานการณ์ หากคลี่คลาย จะมีการเตรียมการของกระทรวงคมนาคมอย่างไร นายสุริยะเผยว่า มีเจ้าหน้าที่เตรียมการโดยสาร อย่างรถโดยสารและรถไฟ ส่วนเรื่องที่มีโดรนปริศนา เข้ามาในพื้นที่นั้น ก็มีการเตรียมการของเจ้าหน้าที่ นำโดรนขึ้นไปขัดขวาง

เมื่อถามว่าจะฝากอะไรถึงประชาชน และมีการให้กำลังใจหรือไม่ในช่วงสถานการณ์ จากนี้ถึงแม้ว่าจะมีการหยุดยิง นายสุริยะเผยว่า ตนคิดว่าสถานการณ์ น่าจะเข้าสู่ภาวะปกติมาก ๆ และประชาชนก็สามารถกลับที่พักได้ เพราะช่วงนี้ ที่ยังมีสถานการณ์อยู่ตนก็รับปากว่าจะดูแล ส่วนที่มีหลายฝ่ายมองว่าภาครัฐทำงานล่าช้า ทั้งเรื่องมาตรการตอบโต้ทางโซเชียลกับทางฝั่งกัมพูชานั้น ตนมองว่ารัฐบาลทำอย่างสุดความสามารถในส่วนที่มีความล่าช้า ตอนนี้จึงได้รับข้อมูลที่ครบถ้วน ซึ่งฝ่ายดำเนินการก็จะไม่ติดขัดอะไร

ต่อมานายสุริยะได้เดินทางไปเปิดขบวน รถขนของของ ของ กรมทางหลวง เพื่อนำ ของใช้จำเป็นไปให้แนวหน้า ที่อยู่บริเวณชายแดน ก่อนที่จะมาเยี่ยมผู้อพยพ และมอบถุงยังชีพให้แก่ผู้อพยพในจังหวัดสุรินทร์