GCAP GOLD ชี้ ราคาทองคำ ผันผวนสูง จับตานโยบาย “ทรัมป์” กดดันเฟด
ราคาทองคำ สัปดาห์นี้ยังคงผันผวนสูง GCAP GOLD แนะจับตาการแถลงของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ที่ส่งสัญญาณเดินหน้านโยบายเก็บภาษีสินค้านำเข้า และการกดดันธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) ให้ลดอัตราดอกเบี้ย ชี้เป็นปัจจัยหนุนราคาทองคำในระยะยาว แนะนักลงทุนทยอยเก็บทองเข้าพอร์ตในจังหวะที่เหมาะสม
นางสาวอารีรัตน์ มุราชัย หัวหน้านักวิเคราะห์ บริษัท จีแคป จำกัด หรือ GCAP GOLD เปิดเผยว่า ทิศทางราคาทองคำในสัปดาห์นี้ยังคงมีความผันผวนสูงจากปัจจัยด้านภูมิรัฐศาสตร์และนโยบายการเงิน โดยเฉพาะอย่างยิ่งจากการแถลงของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ของสหรัฐฯ
ทรัมป์ยังคงส่งสัญญาณเดินหน้านโยบายเก็บภาษีสินค้านำเข้าจากประเทศที่ยังไม่มีข้อตกลงการค้ากับสหรัฐฯ โดยกำหนดอัตราภาษีไว้ที่ 15-20% และเตรียมเรียกเก็บภาษียาในอนาคตอันใกล้ ซึ่งนโยบายเหล่านี้อาจสร้างความผันผวนในระบบเศรษฐกิจโลกและเพิ่มความไม่แน่นอนในการค้าระหว่างประเทศ นอกจากนี้ ทรัมป์ยังได้กำหนดเส้นตายใหม่ให้รัสเซียลดเวลาการเจรจากับยูเครนเหลือเพียง 10-12 วัน พร้อมขู่ว่าจะใช้มาตรการคว่ำบาตรเพิ่มเติมหากไม่มีความคืบหน้า สถานการณ์ดังกล่าวอาจกระตุ้นให้เกิดแรงซื้อทองคำในฐานะสินทรัพย์ปลอดภัยมากขึ้น
อีกประเด็นที่ต้องจับตาคือความพยายามของทรัมป์ในการกดดันธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) ให้ปรับลดอัตราดอกเบี้ย เพื่อลดภาระงบประมาณและกระตุ้นเศรษฐกิจ หากเฟดมีท่าทีผ่อนคลายทางการเงินจริง จะส่งผลเชิงบวกต่อราคาทองคำ นักลงทุนจึงควรติดตามผลการประชุมเฟดในวันนี้ (30 ก.ค.) อย่างใกล้ชิด
อย่างไรก็ตาม GCAP GOLD คาดการณ์ว่าเฟดน่าจะคงอัตราดอกเบี้ยไว้ที่ระดับเดิม 4.25%-4.50% นอกจากนี้ ควรติดตามตัวเลขเศรษฐกิจสำคัญของสหรัฐฯ ในวันศุกร์นี้ โดยเฉพาะข้อมูลตลาดแรงงาน ซึ่งคาดว่าอัตราการว่างงานจะปรับขึ้นจาก 4.1% เป็น 4.2% และการจ้างงานนอกภาคเกษตรอาจลดลงจาก 147,000 ตำแหน่ง เหลือ 108,000 ตำแหน่ง ซึ่งตัวเลขเหล่านี้ถือเป็นปัจจัยบวกต่อราคาทองคำ
ฝ่ายกลยุทธ์ GCAP GOLD แนะนำให้นักลงทุนรอจังหวะเข้าซื้อเมื่อราคาทองคำปรับลดลงสู่บริเวณ **$3,300 และ $3,280** (เทียบเท่าราคาทองคำไทยประมาณ **50,800 – 50,500 บาท**) ซึ่งเป็นระดับสำคัญที่ราคามีโอกาสดีดตัวกลับหรือทรงตัวก่อนปรับขึ้นในลำดับถัดไป ถือเป็นจังหวะที่ดีสำหรับการสะสมทองคำทั้งระยะสั้นและระยะกลาง อย่างไรก็ตาม หากราคาทองคำปรับตัวลงต่ำกว่า **$3,265** จะเริ่มส่งสัญญาณลบต่อแนวโน้มขาขึ้นในรอบนี้ นักลงทุนจึงควรระมัดระวังและติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด