ยังห่วงความปลอดภัย!! ปิดศูนย์พักพิงชั่วคราว 3 จุด ส่งผู้อพยพกลับบ้าน จ.สระแก้ว
สระแก้ว – พื้นที่ จ.สระแก้ว ปิดศูนย์พักพิงชั่วคราว 3 จุด ส่งผู้อพยพหนีภัยสงครามกลับบ้านในพื้นที่ อ.ตาพระยา จ.สระแก้ว ขณะที่ผู้อพยพในพื้นที่ชายแดนทัพไทย อ.ตาพระยา ที่เดินทางกลับบ้านบางราย ยังคงกังวลใจเรื่องความไม่ปลอดภัย หลังท่าทีของฝั่งประเทศกัมพูชา ไม่มีท่าทีจะยุติปัญหาความขัดแย้ง เมื่อเวลา 13.30 น.วันที่ 1 ส.ค.68 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ภายหลัง นายปริญญา โพธิสัตย์ ผู้ว่าราชการจังหวัดสระแก้ว ประชุมหน่วยงานที่เกี่ยวข้องและสั่งการให้ปิดศูนย์พักพิงชั่วคราวในพื้นที่ จ.สระแก้ว หลังประเมินว่า มีความปลอดภัยเพียงพอ โดยให้ปิดศูนย์พักพิงฯ ที่เหลือทั้งหมด จำนวน 481 คน ประกอบด้วย พื้นที่เทศบาลเมืองสระแก้ว , อบต.บ้านแก้ง และ ศูนย์พักพิง อบจ.สระแก้ว จ.สระแก้ว โดยให้คงไว้เพียง รพ.สนาม ที่ อบจ.สระแก้ว เพื่อประเมินสถานการณ์ระหว่างที่รอผลการประชุม GBC ระหว่างไทย-กัมพูชา ที่ประเทศมาเลเซีย ซึ่งจะมีขึ้นในวันที่ 4-7 ส.ค.68 นี้
ทั้งนี้ ผู้สื่อข่าวรายงานว่า บรรยากาศการปิดศูนย์พักพิงฯ ที่ อบต.บ้านแก้ง อ.เมืองสระแก้ว นายสุเทพ ชัยวัฒน์ ปลัดจังหวัดสระแก้ว นายไพโรจน์ เที่ยงธรรม นายก อบต.บ้านแก้ง เจ้าหน้าที่ ปภ.จังหวัดสระแก้ว ได้ร่วมกับเจ้าหน้าที่ อบต. จัดกิจกรรมสันทนาการให้กับผู้ประสบภัยฯ โดยนายก อบต.บ้านแก้ง ได้ร่วมร้องเพลงสร้างบรรยากาศความสัมพันธ์ที่ดี ส่งกลับผู้ได้รับความเดือดร้อนจากภัยสงคราม เพื่อลดความเครียดก่อนกลับไปสู้ชีวิตต่อยังภูมิลำเนา และจัดเตรียมข้าวของที่ได้รับบริจาคมา อาทิ ข้าวสาร 1 ตัน มาม่า ผักสด เครื่องใช้ในครัวเรือน และน้ำดื่ม ที่ได้รับบริจาคมาทั้งหมด จัดสรรแจกจ่ายให้กับผู้อพยพนำกลับไปใช้ต่อที่บ้านด้วย
นางทองคูณ ชะวูรัมย์ ผู้อพยพวัย 50 ปี จากบ้านหนองบัว ต.ทัพไทย อ.ตาพระยา จ.สระแก้ว ซึ่งทิ้งบ้านเรือนอพยพเข้าศูนย์พักพิงฯ ตั้งแต่คืนวันที่ 24 ก.ค.เป็นต้นมา บอกว่า การกลับบ้านครั้งนี้ รู้สึกกลัว เพราะเค้ายังไม่ได้แจ้งว่า จะปลอดภัย แต่ว่า ศูนย์อพยพตรงนี้อยู่ไม่ได้แล้ว ก็ต้องกลับบ้าน ชาวบ้านตอนนี้ก็ยังกลัวกันอยู่ ซึ่งพื้นที่บ้านอยู่ห่างจากชายแดนประมาณ 7 กม.อพยพกันมาเป็นกลุ่ม ๆ ละ 5-6 ครัวเรือน มีบางคนเท่านั้นที่อยู่เฝ้าบ้าน สภาพหมู่บ้านที่ชายแดนตอนนี้ก็ยังไม่รู้ว่า กลับไปจะปลอดภัยมั้ย อยากให้เค้าพูดคุยกันให้สงบ อยากให้ชายแดนเราสงบเหมือนเมื่อก่อน
“บ้านเราอยู่ใกล้กัมพูชามาก หลังจากนี้การเข้าไปทำไร่ทำนาช่วงนี้ กำนันก็ไม่อยากให้เข้าไปทำ เพราะเหตุการณ์มันแบบนี้ หากไปอยู่ตามไร่ตามนาก็ไม่ปลอดภัย หากผู้ใหญ่บ้านประกาศเมื่อเกิดเหตุการณ์ฉุกเฉิน มันก็จะอพยพยากหน่อย เพราะบ้านเราอยู่ติดชายแดน ตอนนี้ก็บอกให้อยู่แต่ในบ้านกันไปก่อน แล้วเมื่อชาวบ้านไม่ได้ออกไปทำงานก็ไม่มีเงิน ไม่มีอะไรจะกินกัน ทำให้ลำบากกัน ความปลอดภัยก็ยังห่วงกันอยู่” นางทองคูณ กล่าว
—————————– ข่าว-ภาพโดย/ธนภัท กิจจาโกศล ,เด่นชัย วิสุทธิ์วุฒิพงษ์ ทีมข่าวสระแก้ว