โปรดอัพเดตเบราว์เซอร์

เบราว์เซอร์ที่คุณใช้เป็นเวอร์ชันเก่าซึ่งไม่สามารถใช้บริการของเราได้ เราขอแนะนำให้อัพเดตเบราว์เซอร์เพื่อการใช้งานที่ดีที่สุด

หุ้น การลงทุน

เปิดมุมมอง 3 โบรกฯ ส่องกลยุทธ์ลงทุน พร้อมเสิร์ฟหุ้นเด่นวันนี้

ทันหุ้น

อัพเดต 2 ชั่วโมงที่ผ่านมา • เผยแพร่ 2 ชั่วโมงที่ผ่านมา

ทันหุ้น – บล.ฟินันเซียไซรัส มองแนวโน้มตลาดวันนี้ คาดว่า SET Index จะย่อตัวลงต่อเนื่องจากบรรยากาศการลงทุนในต่างประเทศที่ค่อนไปในทางลบเนื่องจากไร้ปัจจัยบวกใหม่ ตลาดรอติดตามข้อมูลจาก FED เพิ่มเติมทั้งรายงานการประชุมและถ้อยแถลงของพาวเวลที่ Jackson Hole โดยต้องติดตามว่าจะสามารถยืนแนวรับหลัก 1,230+- จุดได้หรือไม่ หากหลุดจะทำให้ Downside เปิดลงหากรอบ 1,190-1,200 จุด ตลาดยังคงติดตามพัฒนาการเศรษฐกิจสหรัฐฯ ว่าจะชะลอตัวลงแรงมากน้อยเพียงใดหลังอัตราภาษีนำเข้าสินค้าเพิ่มขึ้นในเดือน ส.ค. รวมถึงผลกระทบต่อเงินเฟ้อที่เร่งตัวขึ้น ซึ่งจะส่งผลต่อความเร็วในการปรับลดดอกเบี้ยของ FED
.
โดยปัจจุบันตลาดมองปรับลง 2-3 ครั้งปีนี้ เช่นเดียวกับเศรษฐกิจไทยที่คาดว่าจะเติบโตได้เพียง 1-1.5% y-y ในช่วง 2H25 เทียบกับ 1H25 ที่เติบโต 3% y-y ซึ่งยังทำให้แนวโน้มการเติบโตของกำไรบจ.ยังไม่แน่นอนและยังมีความเสี่ยงที่ประมาณการ EPS ของ SET อาจถูกปรับลงอีกเล็กน้อย นอกจากนี้ปัจจัยเสี่ยงหลักในระยะสั้นคือประเด็นการเมืองในประเทศซึ่งจะมีเหตุการณ์สำคัญเกิดขึ้น ทั้งการตัดสินคดี ม.112 คุณทักษิณของศาลวันที่ 22 ส.ค. และคดีคลิปเสียงนายกฯวันที่ 29 ส.ค ซึ่งอาจส่งผลต่อเสถียรภาพทางการเมืองโดยเฉพาะกรณีนายกฯพ้นจากตำแหน่งและทำรัฐมนตรีต้องหลุดทั้งคณะ ซึ่งจะทำให้เกิดสุญญากาศทางการเมือง ภาพรวมเรายังคงมุมมองว่าหุ้น Consumer Staple และ Defensive ที่ยัง Laggard ตลาด โดยกระทบจากภาษีทรัมป์รวมถึงการเมืองจำกัดคาดปรับตัวได้ดีกว่าตลาดระยะนี้ รวมถึงหุ้น Anti-Commodity ที่คาดได้ Sentiment บวกจากราคาน้ำมันดิบที่ปรับตัวลง
.
กลยุทธ์ : เลือกลงทุนในหุ้นที่ยัง Laggard ตลาดและมีกำไร 2Q25 แข็งแกร่ง
หุ้นเด่นเดือน ส.ค. : BDMS, CPALL, CPN, MTC, SCGP
FSSIA Portfolio : BA, BDMS, CENTEL, CPALL, KBANK, MTC, NSL, OSP, STECON
.
หุ้นเด่นวันนี้ : EPG
• แนะนำ “ซื้อ” ราคาเป้าหมาย 4.10 บาท
• เราปรับเพิ่มประมาณการกำไร FY26 ขึ้น 3% เป็น 1.14 พันลบ. ทรงตัว y-y สะท้อน Gross Margin ที่ยังแข็งแรงและดอกเบี้ยจ่ายที่ลดลง ประเด็นภาษีการค้าสหรัฐฯไม่กระทบธุรกิจโดย Aeroflex ได้นำเข้าวัตถุดิบเพียงพอถึงต้นปีหน้าแล้ว ส่วน FY27 คาดกำไรโต 18% y-y เป็น 1.34 พันลบ.
• ราคาน้ำมันดิบที่ปรับลงเป็น Sentiment หนุน EPG ในแง่แรงกดดันด้านต้นทุนที่ลดลงและหนุน Margin ให้ยังแข็งแรง ด้าน Valuation ยังต่ำ เทรด PER เพียง 7.7 เท่าและต่ำ BVS
• แนวรับ 2.90//2.80 บาท แนวต้าน 3.16-3.20 บาท
.
ด้าน บล.ดาโอ คาดดัชนีฯ มีโอกาสปรับตัวลงต่อ นักลงทุนถอยไปตั้งหลักรอดู 2 event สำคัญปลายสัปดาห์นี้ โดยดัชนีฯ ยังมีโอกาสปรับตัวลดลง แรงขายทั้งไทยและเทศ ยังโถมเข้ามาในตลาด ทำให้ตลาดไม่สามารถเดินหน้าต่อไปได้ คงต้องไปรอดูว่า ดัชนีฯ ที่ 1227 จุด จะรับอยู่หรือไม่ โดยตัวแปรที่มีผลต่อตลาดจริงๆ จะเป็น Flow ต่างชาติที่ลดลงทั่วตลาดเอเซีย และแรงขายลดความเสี่ยงก่อน event การเมืองไทยและ Fed ปลายสัปดาห์นี้
.
ปัจจัยต่างประเทศ

  • ตลาดหุ้นสหรัฐฯ เดินหน้าบวกได้ มีรายงานกำไร 2Q ของหุ้นตัวรองของตลาด ขณะที่นักลงทุนซื้อขายด้วยความระมัดระวังก่อนที่ประธาน Fed จะกล่าวสุทรพจน์ในวันศุกร์นี้ (23 ส.ค.)
  • Fund Flow ยังไหลออกจากตลาด Asia โดยเฉพาะตลาดหลัก (เกาหลีใต้-ไต้หวัน-ไทย) เนื่องจากนักลงทุน เริ่มกังวลในเรื่องทิศทางดอกเบี้ย และการเจรจาการค้า ที่ยังอาจกระทบต่อบรรยากาศการลงทุน โดยเฉพาะระหว่างสหรัฐฯ-จีน-อินเดีย
  • Jackson Hole Meeting : จะมีการประชุมสัมมนาเศรษฐกิจประจำปีที่ Jackson Hole, Wyoming ซึ่งจะเป็นการรวมผู้นำธนาคารกลางทั่วโลก ช่วง 21-23 ส.ค.68 โดยประธาน Fed จะขึ้นพูด 22 ส.ค. ในวันศุกร์ ในหัวข้อ “Economic Outlook and Framework Review” คาดว่า Fed จะเปิดเผยกรอบนโยบายใหม่สำหรับเป้าหมายเงินเฟ้อและการจ้างงาน และแนวโน้มการประชุม FOMC 17 ก.ย. ซึ่งจะมีผลกับ Bond Yield และตัวเลขเศรษฐกิจ
  • การหารือยุติสงครามรัสเซีย-ยูเครน ติดตามการเจรจาระหว่าง ผู้นำ ยูเครนและรัสเซีย หากตกลงกันได้ในการยุติสงคราม จะเป็นข่าวบวกของตลาดยุโรปและหุ้นที่มีฐานรายได้ยุโรป

.

ปัจจัยในประเทศ

  • การเมือง เป็นตัวแปรสำคัญที่สุดของตลาด ศาลฎีกานัดตัดสินคดี ม.112 ของนายทักษิณในวันที่ 22 ส.ค. และการตัดสินคดีของนายกฯ โดยศาล รธน. ในวันที่ 29 ส.ค ซึ่งอาจทำให้ตลาดเผชิญแรงขายเพื่อลดความเสี่ยง ก่อนทราบคำ(ผล)ตัดสิน
  • บริษัทจดทะเบียน รายงานกำไรไตรมาส 2/68 จบแล้ว จากนี้ให้ติดตามบทวิเคราะห์หุ้นรายตัวว่าจะมีการ Upgrade หรือ Downgrade คำแนะนำหุ้นเป็นรายตัว
  • สัปดาห์นี้ คาดว่า ธนาคารต่างหลายแห่งจะทยอยประกาศเงินปันผลระหว่างกาล ซึ่งจะมีผลต่อราคาหุ้นธนาคาร ถ้า เงินปันผลจ่ายรอบนี้ สูงหรือต่ำกว่าที่คาด ทั้งนี้ เงินปันผลระหว่างกาล หรือ Interim ปีก่อน (2567) SCB@2.00, BBL@2.00, KBANK@1.50, TTB@0.065
  • Event วันนี้ : นายกฯ(รักษาการ) ร่วมประชุมคณะกรรมการกระตุ้นเศรษฐกิจ รายงานการประชุม FOMC
    .
    Technical : BCH, KAMART
    .
    ขณะที่ บล.คิงส์ฟอร์ด ประเมินแนวรับดัชนี SET วันนี้ที่ 1,220 – 1,230 แนวต้าน 1,240 – 1,250 คาดดัชนีมีโอกาสทรงตัว รอผลการประชุม ธ.กลางที่แจ๊คสัน โฮล ว่าเฟดจะลดดอกเบี้ยหรือไม่ และความชัดเจนของปัจจัยการเมืองในประเทศ ดังนั้นจึงแนะนำทยอยซื้อ GULF,GPSC,SAWAD,TIDLOR,NCAP,THANI ได้ประโยชน์จากดอกเบี้ยขาลง และพักเงินในกลุ่มอาหาร เช่น CPF,GFPT,ITC ที่เป็นกลุ่มปลอดภัย
    .
  • GPSC* (ซื้อเก็งกำไร / ราคาเป้าหมาย IAA Consensus 40.25 บาท) บริษัทรายงานกำไรสุทธิ 2Q68 ที่ 2 พันล้านบาท +77%QoQ, +41%YoY โดยกำไรปกติ 1.7 พันล้านบาท +44%QoQ, +21%YoY หนุนจากส่วนแบ่งกำไรจากเงินลงทุนในบริษัทร่วม หลักๆ จากโครงการ CFXD ที่รับรู้กำไรจากอัตราแลกเปลี่ยน โรงไฟฟ้า XPCL ที่ผลประกอบการดีขึ้นตามปริมาณน้ำ และ AEPL ดีขึ้นจากรายการภาษี ขณะที่กำไรขั้นต้นจากการดำเนินงานหลักได้รับผลกระทบการลดลงของค่าความพร้อมจ่ายของโรงไฟฟ้า IPP และการสิ้นสุดสัญญาของโรงไฟฟ้า SPP บางแห่ง ความต้องการใช้ไอน้ำของลูกค้าอุตสาหกรรมลดลง รวมถึงค่า Ft ที่ลดลง ส่วนแนวโน้ม 3Q68 ดีต่อเนื่องมีปัจจัยบวกจากผลการดำเนินงานของ AEPL ตามกำลังการผลิตไฟฟ้าที่เพิ่มขึ้นและกำไรพิเศษจากการขายหุ้นออกไปบางส่วน (3.03%) รวมถึงการผลิตไฟฟ้า Hydro เป็น high season ชดเชยค่า Ft ในรอบ ก.ย.-ธ.ค.68 ที่ลดลงเล็กน้อย ทั้งนี้ตลาดคาดกำไรปี 68-69 ที่ 4.6 พันล้านบาท +13%YoY และ 5.1 พันล้านบาท +11%YoY
    .
  • AWC* (ซื้อ/ ราคาเป้าหมาย IAA Median Consensus 2.90 บาท) กำไรสุทธิ 2Q68 อยู่ที่ 1,404 ลบ.(+13%YoY, -29%QoQ) หนุนด้วยกำไรจากการเปลี่ยนแปลงมูลค่ายุติธรรมของอสังหาริมทรัพย์ รวมถึงรายได้ธุรกิจโรงแรมที่สูงขึ้น YoY ส่วนการดำเนินงานช่วงครึ่งปีหลังคาดว่าจะได้แรงหนุนจาตามฤดูกาล มีปัจจัยบวกเพิ่มเติมจากมาตรการ “เที่ยวไทยคนละครึ่ง” นอกจากนี้ การเปิด Jurassic World: The Experience ธีมพาร์คของโครงการ เอเชียทีค ก็มีกระแสตอบรับที่ดี ปัจจุบัน IAA Consensus(Median) คาดกำไรสุทธิปี68 และ69 ของ AWC* ที่ 5,972 ลบ.(+2%YoY) และ 6,268 ลบ.(+5%YoY) ตามลำดับ
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...

ล่าสุดจาก ทันหุ้น

SoFi ผนึก Lightspark ใช้ Bitcoin Lightning ปฏิวัติโอนเงินโลก

22 นาทีที่แล้ว

กรุงศรี คงเป้าดัชนีหุ้นไทยสิ้นปีที่ 1,370 จุด แนะหุ้นเด่นธีม Earnings Plays

34 นาทีที่แล้ว

SharpLink ทุ่มซื้อ Ethereum มูลค่า 667 ล้านดอลลาร์ หนุนสงครามสะสม ETH ของสถาบัน

38 นาทีที่แล้ว

3 หุ้นแนะนำ บล.แลนด์ แอนด์ เฮ้าส์

48 นาทีที่แล้ว

วิดีโอแนะนำ

ข่าวและบทความหุ้น การลงทุนอื่น ๆ

ปิดด่าน! ไทย-เมียนมา กระทบ 4 หุ้นแค่ไหน?

หุ้นวิชั่น

Gold Futures : บล.โกลเบล็ก ราคาทองวันนี้ 3,318.83 U$/ทรอยเอาน์ซ

กรุงเทพธุรกิจ

UREKA สุดปัง! คว้า 5 ดาว AGM ตอกย้ำโปร่งใส-มั่นใจนักลงทุน

Share2Trade

SoFi ผนึก Lightspark ใช้ Bitcoin Lightning ปฏิวัติโอนเงินโลก

ทันหุ้น

เปิด 3 หุ้นโรงไฟฟ้า ได้ประโยชน์ 2 เด้ง ต้องเช็ก!

หุ้นวิชั่น

หุ้น CPF บวก 2.98% กำไรโตแรงทุบสถิติสูงสุดใหม่ อานิสงส์ราคาขายพุ่ง-ต้นทุนลด

กรุงเทพธุรกิจ

LH Bank ตอกย้ำความสำเร็จแคมเปญจัดคอนเสิร์ต “LH BANK x NONT TANONT Thank You Party”

Share2Trade

กรุงศรี คงเป้าดัชนีหุ้นไทยสิ้นปีที่ 1,370 จุด แนะหุ้นเด่นธีม Earnings Plays

ทันหุ้น

ข่าวและบทความยอดนิยม

Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...