บล.กรุงศรี แนะนำ “ซื้อ” IVL เป้า 22 บาท ผลประกอบการครึ่งปีหลังสดใส พลิกกำไรไตรมาส 3
บล.กรุงศรี แนะนำ “ซื้อ” IVL เป้า 22 บาท ผลประกอบการครึ่งปีหลังสดใส พลิกกำไรไตรมาส 3
#ทันหุ้น #ILV สรุปประเด็นหลัก (Key Takeaways):
- ผลประกอบการ Q2/68 ต่ำกว่าคาด: บริษัทรายงานผลขาดทุนสุทธิไตรมาส 2 ปี 2568 ที่ −521 ล้านบาท แม้จะฟื้นตัวได้ดีเมื่อเทียบกับปีก่อน (YoY) และไตรมาสก่อน (QoQ) แต่ยังคงแย่กว่าที่ตลาดคาดการณ์ไว้ สาเหตุหลักมาจากผลขาดทุนจากสต็อกสินค้า (Stock Loss) จำนวนมาก
- คาดการณ์ฟื้นตัวชัดเจนในครึ่งปีหลัง: บล.กรุงศรี คาดว่าแนวโน้มธุรกิจจะฟื้นตัวอย่างมีนัยสำคัญในช่วงครึ่งหลังของปี 2568 และจะสามารถ พลิกกลับมามีกำไรได้ตั้งแต่ไตรมาส 3/68
- อุปทานจากจีนลดลงเป็นปัจจัยหนุนหลัก: ปัจจัยสำคัญที่สุดที่จะขับเคลื่อนการฟื้นตัวคือการที่ผู้ผลิต PET ในประเทศจีนลดกำลังการผลิตลงอย่างมาก (Utilization Rate ต่ำกว่า 70%) ซึ่งจะช่วยลดภาวะอุปทานล้นตลาดและสนับสนุนให้ส่วนต่างราคาผลิตภัณฑ์ (Spread) ฟื้นตัว
- ปรับลดประมาณการและราคาเป้าหมาย: บล.กรุงศรี ได้ปรับลดประมาณการกำไรสุทธิปี 2568-2570 ลง และปรับลด ราคาเป้าหมายสำหรับปี 2568 (TP25F) ลงมาอยู่ที่ 22.0 บาท จากเดิม 24.0 บาท เพื่อสะท้อนความเสี่ยงจากการแข่งขันที่สูงกว่าคาด
- ยังคงคำแนะนำ “ซื้อ”: แม้จะมีการปรับลดประมาณการ แต่ยังคงคำแนะนำ “ซื้อ” โดยมองว่าปัจจัยกดดันเป็นเรื่องระยะสั้น และเชื่อมั่นในแนวโน้มการฟื้นตัวระยะยาวจากการลดต้นทุน, อุปทานในตลาดที่สมดุลขึ้น และกำไรพิเศษจากการขายสินทรัพย์ในอนาคต
บล.กรุงศรี มองข้ามผลขาดทุน Q2/68 ชี้ครึ่งปีหลังฟื้นตัวแรง
กรุงเทพมหานคร – บริษัทหลักทรัพย์ กรุงศรี (บล.กรุงศรี) ได้เผยแพร่บทวิเคราะห์ล่าสุด โดยยังคงมุมมองเชิงบวกต่อแนวโน้มการฟื้นตัวในระยะยาวของหุ้นกลุ่มปิโตรเคมีชั้นนำ แม้ผลประกอบการในไตรมาส 2 ปี 2568 จะออกมาน่าผิดหวังและต่ำกว่าที่คาดการณ์ไว้ โดยชี้ว่าจุดต่ำสุดของผลการดำเนินงานน่าจะผ่านพ้นไปแล้ว และคาดว่าจะเห็นการฟื้นตัวอย่างชัดเจนในช่วงครึ่งหลังของปี
ผลประกอบการไตรมาส 2/68: ขาดทุนน้อยลง แต่เจอพิษ Stock Loss
บริษัทรายงาน ผลขาดทุนสุทธิในไตรมาส 2/68 ที่ −521 ล้านบาท ซึ่งถือว่าฟื้นตัวขึ้นอย่างมากเมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อนที่ขาดทุนมหาศาลถึง −22,996 ล้านบาท (ซึ่งเป็นผลมาจากการตั้งด้อยค่าสินทรัพย์ครั้งใหญ่) และฟื้นตัวจากไตรมาส 1/68 ที่ขาดทุน −1,312 ล้านบาท
อย่างไรก็ตาม หากไม่รวมรายการพิเศษ ผลขาดทุนปกติ (Normalized Loss) อยู่ที่ −490 ล้านบาท ซึ่งแย่ลงเมื่อเทียบกับปีก่อนที่มีกำไรปกติ +1,055 ล้านบาท บล.กรุงศรีชี้ว่าสาเหตุหลักมาจาก ผลขาดทุนจากสต็อกสินค้า (Stock Loss) ที่สูงถึง −779 ล้านบาท อันเนื่องมาจากความผันผวนของราคาวัตถุดิบ นอกจากนี้ การปิดซ่อมบำรุงและปรับลดกำลังการผลิตของทั้งธุรกิจ PET และ IOD (Indovinya) ส่งผลให้ปริมาณการขายลดลง −9% YoY แต่ผลการดำเนินงานที่ฟื้นตัวขึ้น QoQ ได้รับแรงหนุนจากธุรกิจ PET ที่เข้าสู่ช่วงไฮซีซั่น ทำให้ทั้งปริมาณขายและส่วนต่างราคาผลิตภัณฑ์ (Spread) ปรับตัวดีขึ้น
คาดการณ์พลิกเป็นกำไรในไตรมาส 3/68 จากปัจจัยบวกหลายด้าน
บล.กรุงศรี คาดการณ์ว่าบริษัทจะสามารถ พลิกกลับมามีกำไรได้ในไตรมาส 3/68 โดยมีปัจจัยสนับสนุนที่สำคัญดังนี้:
- ปัญหา Stock Loss ลดลง: ความผันผวนของราคาวัตถุดิบลดลงจากไตรมาส 2 ทำให้แรงกดดันจากผลขาดทุนสต็อกสินค้าคลี่คลายลง
- อุปทาน PET ในจีนลดลง: ถือเป็นปัจจัยที่สำคัญที่สุด โดยโรงงาน PET ที่มีต้นทุนสูงในจีนได้ลดกำลังการผลิตลงอย่างมีนัยสำคัญ (อัตราการใช้กำลังการผลิต หรือ U-rate ลดลงต่ำกว่า 70% จากราว 81% ในไตรมาส 2) ซึ่งจะช่วยลดภาวะอุปทานล้นตลาดและหนุนให้ Spread ของผลิตภัณฑ์ PET ฟื้นตัว
- ธุรกิจ IOD ฟื้นตัว: ธุรกิจจะไม่มีการปิดซ่อมบำรุงใหญ่ และคาดว่ามาร์จิ้นของสารลดแรงตึงผิวจะฟื้นตัวหลังราคาวัตถุดิบลดลง ขณะที่ความต้องการใช้สาร MTBE (สำหรับผสมในน้ำมันเบนซิน) ยังคงแข็งแกร่งในช่วงฤดูการขับขี่ของสหรัฐฯ
- ธุรกิจ Fibers เติบโตต่อเนื่อง: ได้รับประโยชน์จากความต้องการเติมสต็อกสินค้า (Re-stocking) และการขยายส่วนแบ่งการตลาด
- การควบคุมต้นทุน: บริษัทยังคงเดินหน้าลดต้นทุนคงที่ (Fixed Cost) อย่างต่อเนื่อง
ปรับลดเป้าหมาย แต่ยังคงคำแนะนำ “ซื้อ”
บล.กรุงศรี ได้ ปรับลดประมาณการกำไรสุทธิปี 2568-2570 ลง -59%, -14% และ -10% ตามลำดับ เพื่อสะท้อนการแข่งขันที่สูงกว่าคาด ส่งผลให้ ปรับลดราคาเป้าหมายสำหรับปี 2568 (TP25F) ลงเป็น 22.0 บาทต่อหุ้น จากเดิม 24.0 บาท (และให้ราคาเป้าหมายปี 2569 ที่ 26.0 บาท)
อย่างไรก็ตาม แม้จะมีความเสี่ยงจากการฟื้นตัวที่อาจช้ากว่าคาดในระยะสั้น บล.กรุงศรี ยังคงคำแนะนำ “ซื้อ” เนื่องจากเชื่อมั่นในภาพระยะยาวที่การดำเนินงานหลักจะฟื้นตัวต่อเนื่องจากการลดต้นทุน, สถานการณ์อุปทาน PET ล้นตลาดในจีนที่เริ่มคลี่คลาย, ประสิทธิภาพของธุรกิจ IOD ที่ดีขึ้น และการเติบโตของธุรกิจ Fibers นอกจากนี้ ยังมีปัจจัยบวกจากการคาดการณ์ กำไรพิเศษจากการขายสินทรัพย์ราว 100 ล้านเหรียญสหรัฐ ในช่วงไตรมาส 4/68 ถึงปี 2569
สรุป
บล.กรุงศรี มองว่าแม้ผลประกอบการไตรมาส 2/68 จะต่ำกว่าคาดจากปัจจัยลบชั่วคราว แต่แนวโน้มข้างหน้าสดใสและคาดว่าจะพลิกกลับมามีกำไรได้ในครึ่งปีหลัง โดยมีแรงหนุนสำคัญจากการลดกำลังการผลิตของผู้เล่นในจีน ซึ่งจะช่วยพยุงมาร์จิ้นให้ฟื้นตัว การปรับลดราคาเป้าหมายเป็น 22.0 บาท สะท้อนความระมัดระวังในระยะสั้น แต่คำแนะนำ “ซื้อ” ยังคงอยู่บนพื้นฐานของความเชื่อมั่นต่อการฟื้นตัวของธุรกิจหลักในระยะยาว ซึ่งเป็นโอกาสสำหรับนักลงทุนที่มองการณ์ไกล
รู้ทันเกม รู้ก่อนใคร ติดตาม “ทันหุ้น” ได้ทุกช่องทางเหล่านี้
Facebook คลิก https://www.facebook.com/thunhoonnews
Youtube คลิก https://www.youtube.com/c/ThunhoonOfficial
Tiktok คลิก https://www.tiktok.com/@thunhoon_/