สส.ปชน. ซัดงบปลูกป่าปีละพันล้าน แต่ป่ามีแต่ลด - งบตกแต่งภายใน สผ. แพงกว่าตลาด 3 เท่า
“เลาฟั้ง” ถามเหตุใดมีงบปลูกป่าปีละ 1,000 กว่าล้าน แต่จำนวนป่าลดลง แนะจัดสรรงบป้องกันบุกรุกป่ามากขึ้น ด้าน “ศนิวาร” อัด สผ. ของบตกแต่งภายในอาคารสุดอลังการ แพงกว่าราคาตลาดทุกรายการ
วันที่ 14 สิงหาคม 2568 ที่อาคารรัฐสภาในการประชุมสภาผู้แทนราษฎร เพื่อพิจารณาร่าง พ.ร.บ.งบประมาณรายจ่าย ประจำปีงบประมาณ 2569 นายเลาฟั้ง บัณฑิตเทอดสกุล สส.บัญชีรายชื่อ พรรคประชาชน ได้อภิปรายขอตัดลดงบประมาณ ในส่วนของกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ในส่วนของโครงการปลูกป่า ระบุว่าในปีงบประมาณ 2569 กระทรวงทรัพย์ฯ ก็ได้ขอตั้งงบประมาณเฉพาะการปลูกป่าและเพาะกล้าเอาไว้รวมกันประมาณ 1,600 ล้านบาท
กระทรวงทรัพย์ฯ ประกาศนโยบายเพิ่มพื้นที่ป่าให้ได้มากกว่า 55% จากที่มีอยู่ 31% โดยจำเป็นต้องเพิ่มอีกอย่างน้อย 75 ล้านไร่ หากย้อนหลังไป 10 ปีในแต่ละปีกระทรวงทรัพย์ฯ จะตั้งงบประมาณเกี่ยวกับการปลูกป่า เพาะกล้า และฟื้นฟูป่า ปีหนึ่งไม่ต่ำกว่า 1,000 ล้านบาท ถ้าดูโดยผิวเผินก็เหมือนจะเป็นการดี แต่ปรากฏการณ์ที่เห็นกลับย้อนแย้ง เนื่องจากสถิติพื้นที่ป่าของประเทศไทยลดลงตามลำดับ แม้กระทั่งปี 2569 ก็ลดลงจากปีที่แล้ว และยังมีข่าวการทุจริตในการปลูกป่าและโครงการเพาะกล้าแทบทุกปี เป็นปัญหาที่ยังไม่สามารถแก้ไขได้
นายเลาฟั้งกล่าวต่อไปว่าจากผลการตรวจสอบแปลงปลูกป่าของกรมอุทยานฯ โดย สตง. พบว่า ต้นไม้ที่ปลูกกว่า 56% มีอัตราการรอดตายต่ำกว่า 50% และบางแปลงยังไม่พบกล้าประเภทไม้ที่ระบุเอาไว้ นอกจากนี้แปลงปลูกป่าที่อ้างว่าถูกชาวบ้านบุกรุก เมื่อลงไปดูในรายละเอียดกลับพบว่าเป็นพื้นที่ที่มีการยึดที่ชาวบ้านมาปลูกป่า นอกจากนี้แปลงปลูกป่าประมาณ 36% ไม่มีสภาพเป็นป่าเสื่อมโทรม เป็นป่าสมบูรณ์อยู่แล้วแต่ก็ยังเอาต้นกล้าไปปลูก
กรมอุทยานฯ ตั้งงบประมาณในการปลูกป่า บำรุงป่า และเพาะกล้าเอาไว้ราว 804 ล้านบาท ข้อสังเกตคือเป็นการปลูกและบำรุงสวนป่าหวาย 438 ล้านบาท คำถามคือเหตุใดจึงปลูกจำนวนมากขนาดนี้และทำไมต้องเป็นหวาย ที่น่าสังเกตอีกประการหนึ่งคือ โครงการบำรุงป่าใช้สอย 29 ล้านบาท คำถามคือในเขตอนุรักษ์ของกรมอุทยานฯ เป็นพื้นที่ห้ามไม่ให้มีการใช้สอย แล้วจะทำให้มีป่าใช้สอยในเขตอุทยานได้อย่างไร ขณะที่กรมป่าไม้ มีการตั้งงบประมาณไว้ 804 ล้านบาท ข้อสังเกตคืองบประมาณส่วนใหญ่เอาไปทำการเพาะชำกล้าไม้ประมาณ 600 กว่าล้านบาท เท่ากับว่ากรมป่าไม้ไม่ได้ไปปลูกป่าเป็นส่วนใหญ่แต่ไปเพาะกล้าไม้แทน
นายเลาฟั้งกล่าวต่อไปว่า อันที่จริง ระบบนิเวศของประเทศไทยเป็นระบบนิเวศที่เป็นเขตร้อนชื้น ต้นไม้ขึ้นเองได้ตามธรรมชาติและไม่ได้มีป่าเสื่อมโทรมจริง ถ้าอยากให้พื้นที่ป่าเพิ่มขึ้น กรมป่าไม้และกรมอุทยานฯ ควรทำหน้าที่ดูแลไม่ให้พื้นที่ถูกบุกรุก ไม่ให้เกิดไฟป่า แล้วป่าก็จะสามารถฟื้นฟูด้วยตัวเองอย่างยั่งยืน จึงไม่มีความจำเป็นใดที่จะต้องเอางบประมาณมหาศาลไปปลูกป่า เอางบประมาณก้อนนี้ไปใช้กับการป้องกันพื้นที่เหล่านั้นไม่ให้มีการบุกรุกป่าเช่นนี้จึงสามารถเพิ่มพื้นที่ป่าได้จริง
“สส.ศนิวาร” อัดตึก สผ. ของบตกแต่งภายในแพงกว่าราคาท้องตลาด 3 เท่า
ขณะที่ น.ส.ศนิวาร บัวบาน สส.บัญชีรายชื่อ พรรคประชาชน ได้อภิปรายขอปรับลดงบประมาณในส่วนของโครงการปรับปรุงและตกแต่งภายใน อาคารสำนักงานนโยบายและแผนทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม (สผ.) ซึ่งเป็นโครงการผูกพันใหม่ 2 ปีวงเงินเกือบ 240 ล้านบาท โดยมูลค่าของโครงการนี้คือครึ่งหนึ่งของตึกทั้งตึก
หากลงไปดูในรายละเอียดของงบประมาณเกือบ 240 ล้านบาทนี้ จะพบว่าหนักไปที่งานระบบ ซึ่งใช้งบประมาณสูงถึง 164 ล้านบาท มีทั้งระบบห้องประชุม เครือข่ายสื่อสาร ระบบควบคุมการเข้าออกอาคาร ส่วนที่เหลือก็จะเป็นงานครุภัณฑ์ชุดสำนักงาน 51 ล้านบาทและงานตกแต่งภายในอีก 23 ล้านบาท
ซึ่งประกอบไปด้วยอุปกรณ์รายการที่ราคาสูงกว่าอาคารสำนักงานทั่วไป เริ่มจากรายการแรก อาคารนี้ สผ. อ้างว่าเป็นอาคารสีเขียว จึงมีการขอจัดซื้อโซล่าเซลล์ 360 ชุดราคา 3.17 ล้านบาท ตกชุดละ 8,819 บาท ขณะที่ราคาตลาดจากยี่ห้อชั้นนำตกแผงละ 2,750 บาทเท่านั้น ถูกกว่าราคาที่ขอมาถึงสามเท่าตัว ส่วนป้ายโฆษณาดิจิทัล 10 ป้ายพร้อมตู้ครอบ จอละ 68,000 บาท ตู้ครอบ 52,000 เมื่อรวมกับซอฟต์แวร์อีกราว 10,000 กว่าบาท รวมชุดละ 131,000 บาท แต่ราคาตามท้องตลาดทั่วไปจอทัชสกรีนประกอบมาพร้อมตู้และซอฟต์แวร์ทุกเครื่องราคาไม่ถึง 50,000 บาทด้วยซ้ำ ถูกกว่าที่หน่วยงานขอมาเกือบสามเท่าตัว
น.ส.ศนิวารกล่าวต่อไปว่ายังมีอีกหลายรายการที่ตนไม่ได้หยิบยกขึ้นนำเสนอ ไม่ว่าจะเป็นเครื่องสแกนใบหน้าเครื่องละ 72,000 บาทติดทุกประตูรวม 130 กว่าบาน หรือแม้แต่เสาตั้งกล้องอ่านทะเบียนรถ 20,000 กว่าบาทรวมกับกล้องอีก 80,000 บาท ซึ่งตนขอตั้งข้อสังเกตว่าเกือบทุกรายการที่ทางหน่วยงานขอมาในการปรับปรุงตกแต่งภายในอาคาร มีความจำเป็น ความคุ้มค่า หรือมีมูลค่าสมเหตุสมผลกับความเป็นจริงหรือไม่
ความจริงหน่วยงานควรเน้นไปที่ภารกิจหลักในการประเมินผลกระทบทางสิ่งแวดล้อมต่างๆ จะทำอย่างไรให้ผลการศึกษาออกมาเป็นที่ยอมรับ ไม่ใช่เน้นสิ่งปลูกสร้างที่อลังการซึ่งแทบไม่ได้มีส่วนช่วยส่งเสริมประสิทธิภาพในการทำงานเช่นนี้ ด้วยเหตุนี้ตนจึงเสนอให้ปรับลดงบประมาณลงครึ่งหนึ่ง ปีนี้หน่วยงานขอมา 46 ล้านบาท และได้ถูกปรับลดไปแล้วในชั้นกรรมาธิการ 2.3 ล้านบาท ตนขอแปรญัตติปรับลดเพิ่มอีก 20 ล้านบาท เนื่องจากงบประมาณที่ขอมาไม่สมเหตุสมผลด้วยประการทั้งปวง
อ่านข่าวต้นฉบับได้ที่ : สส.ปชน. ซัดงบปลูกป่าปีละพันล้าน แต่ป่ามีแต่ลด - งบตกแต่งภายใน สผ. แพงกว่าตลาด 3 เท่า
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
- เหน็บรัฐบาล “วิโรจน์” ถามไหนว่าไม่พึ่งองค์ประชุมฝ่ายค้าน สภาฯ ล่มให้รับผิดชอบเอง
- ถ่ายทอดสดวันที่ 2 สภาฯ พิจารณา “งบประมาณ 2569” วาระ 2 ถกต่องบฯ ก.เกษตรฯ
- สส.ปชน. ซัดงบปลูกป่าปีละพันล้าน แต่ป่ามีแต่ลด - งบตกแต่งภายใน สผ. แพงกว่าตลาด 3 เท่า
- “สส.วรรณวิภา” แฉงบฯ พม. จัดบิ้วอินห้องอธิบดีฉ่ำ ราคาแพงหูฉี่ ตู้โชว์ ตู้เสื้อผ้าราคาหลายแสน
- “วิสุทธิ์” ย้ำ “นายกฯ อิ๊งค์” เจตนาดี มั่นใจความบริสุทธิ์ ยัน ไม่มีลาออก-ยุบสภา
ตามข่าวก่อนใครได้ที่
- Website : www.thairath.co.th
- LINE Official : Thairath