เมื่อ ‘แผ่นดินจะผลัดใบ’
ต้องชื่นชม “วิสัยทัศน์”…….
ผู้บริหาร “โรงเรียนสาธิตแห่งมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์
ที่จัดกิจกรรม
“สาธิตเกษตรรวมใจสู่แนวหน้า ปลูกต้นกล้าแทนคุณแผ่นดิน”
เชิญ “พลโทบุญสิน พาดกลาง” แม่ทัพภาคที่ ๒ และ “พลตรีวินธัย สุวารี” โฆษกกองทัพบก ไปเป็นวิทยากรบรรยายพิเศษ
ในหัวข้อ “เรื่องเล่าจากแนวหน้าและการรักษาอธิปไตยของชาติ” ให้เด็กนักเรียนชั้นประถมและชั้นมัธยมศึกษาฟัง
นับว่าเป็นการจัดกิจกรรมที่ “ถูกกาล-ถูกเวลา-ถูกบุคคล” เมื่อทั้ง ๓ สิ่งนี้สัมพันธ์กัน กิจกรรมนั้นย่อมมีผล
แต่เห็นหัวข้อแล้ว….
ถ้าผมเป็นเด็กชั้นประถม ก็หลับก่อนแล้ว อะไรคือแนวหน้า อะไรคืออธิปไตยของชาติ แล้วต้องไปรักษาทำไม ไม่เห็นน่าสนุกตรงไหนเลย
แล้วก็แข็งขืนกับการถูกบังคับให้ไปนั่งฟัง!
แต่ตรงกันข้าม ผมดูภาพข่าวจากโทรทัศน์และตามโซเชียลมีเดียแล้ว…ขนลุก ด้วยความตื่นเต้นและเต็มตื้น
คิดไม่ถึงว่าเด็กๆ แค่ชั้นประถม-มัธยม ผู้เป็นอนาคตของชาติ จะตื่นตัวติดตามเหตุการณ์บ้านเมืองด้วยความกระตือรือร้นขนาดนี้!?
หอประชุมที่เกษตรฯ นับว่ากว้างขวางใหญ่โตมาก แต่กลับแคบไปถนัดใจ กับจำนวนเด็กนักเรียนที่กระหายอยากได้ฟังเรื่องชายแดนไทย-เขมร
มากันแน่นขนัด น่าจะระดับพันคน จนไม่เหลือที่นั่งเป็นฟันหลอ!
“พลโทบุญสิน” ไม่เพียงเป็นวีรบุรุษในใจประชาชนเท่านั้น ท่านยังเป็นขวัญใจเด็กๆ รุ่น “ฟันน้ำนมเพิ่งลาเหงือก” ด้วย
ไม่น่าเชื่อ ระดับเด็กนักเรียน จะติดตามข่าวสาร เลือดไทยพล่านและประทับรับรู้บทบาทพลโทบุญสิน “แม่ทัพปราบเขมร”
จนขณะนี้ “พลโทบุญสิน”…..
เป็น “ไอดอล” ของคนทุกรุ่น-ทุกวัยในการ “รัก-พิทักษ์ชาติ” ไปแล้ว!
หลังเกษียณสิ้นเดือนกันยา.นี้ คงต้องมอบให้ท่านเป็นผู้นำ “กองทัพเยาวชนเพื่อชาติ”
เดินสายไปบรรยายเรื่องชาติบ้านเมืองให้เด็กๆ ชั้นประถม-มัธยมทั่วประเทศได้ซึมซับรับรู้ซะแล้ว
การบรรยายเมื่อวาน เด็กๆ ประถม-มัธยมสาธิตเกษตรฯ ไม่เพียงฟังอย่างเดียว ยังตั้งประเด็นซักถามพลโทบุญสินเป็นระยะ
บ่งชัดว่า ที่สาธิตเกษตรฯ ไม่เพียงสอนให้เด็กพูดเป็น-ทำเป็น แต่เขายังสอนให้เด็ก “คิดเป็น” ด้วย!
เห็นเด็กๆ กรูเกรียวรายล้อมพลโทบุญสินถ่ายเซลฟี เห็นพลโทบุญสินประแป้งเหมือนแมวคราว ทำสัญลักษณ์ส่งหัวใจดวงโตให้เด็กๆ
มันเป็นภาพแห่งสะพานเชื่อมต่อจากรุ่น-สู่รุ่นถึงประเทศชาติในวันข้างหน้าที่เจิดจ้า-สดใส
พลโทบุญสิน เป็นแม่ทัพที่ทำให้ฮุน เซน กำลังตรอมใจตาย ท่านเลือกใช้คำบรรยายที่เหมาะต่อการรับรู้ของเด็กๆ หลายเรื่อง ซึ่งน่าฟังมาก เช่น อย่างที่ผมยกมาให้อ่าน
ท่านเริ่มเล่าให้เด็กๆ ฟังว่า……
“พี่ๆ (ทหารในแนวหน้า) เขาฝากมาว่า หากพี่น้องคนไทยสู้ ลูกหลานเราสู้ พี่ๆ ทหารก็สู้
พี่ๆ ทหารฝากบอกว่า “ไม่ต้องห่วงพวกผม ขอเพียงกำลังใจจากคนไทยเท่านั้น”
นี่คือทหารไทย เมื่อถึงเวลา มีจิตวิญญาณของ “พระนเรศวร” พวกเราไม่ต้องหวังว่าสถานการณ์ทหารไทยจะสู้หรือไม่
ชัดเจนอยู่แล้ว เพื่อแผ่นดินที่บรรพบุรุษได้รักษาไว้ เราจะต้องปกป้อง ใครรุกล้ำดินแดนของเรา ต้องผลักดันออกไป
เราไม่ได้รุกล้ำประเทศอื่น เรารบในประเทศไทยทั้งนั้น
"พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว” ทรงห่วงใยอยู่ตลอดเวลา ท่านได้สอบถามสถานการณ์ไปที่แม่ทัพทุกวัน
โดยกองงานของพระองค์ได้สอบถามสถานการณ์จากแม่ทัพ และได้รายงานทุกวัน สิ่งเหล่านี้คือ “จอมทัพไทย”
และตั้งแต่ประวัติศาสตร์ “พระมหากษัตริย์” ทรงเป็นองค์นำกองทัพ และปัจจุบันก็ยังเป็นเช่นเดิม
ดังนั้น ทหารทุกนาย พร้อม “สละชีพเพื่อชาติ” และปัจจุบัน เรายังอยู่หน้าที่-หน้าแนว แม้สถานการณ์จะเป็นอย่างไร เราก็พร้อม ไม่ว่าจะยุติก็ได้ หรือจะรบต่อก็พร้อม”
นักเรียนถามพลโทบุญสินว่า “หากขอพรได้ อยากขอสิ่งใด?”
ท่านแม่ทัพปราบเขมรตอบว่า
"ลุงแม่ทัพอยากให้ประเทศไทยสงบสุข เจริญรุ่งเรือง ไม่มีสิ่งเดือดร้อน มีความร่มเย็นเป็นสุข ประชาชนไม่ทะเลาะเบาะแว้ง"
นักเรียนถามต่อ “หากไทยถูกรุกรานจะดำเนินการอย่างไร?” พล.ท.บุญสินตอบว่า
“แม่ทัพก็ยังทำเหมือนที่ทำมาแล้ว แบบที่ทำกับกัมพูชา”
ระหว่างที่ถาม-ตอบกันนั้น ก็มีเสียงเด็กๆ ในหอประชุมตะโกนขึ้นว่า F-16 ทำเอา พล.ท.บุญสิน ถึงกับยิ้ม และว่า
“F-16 ก็ใช้เหมือนกัน แม่ทัพจะบอกว่า นี่คือเขตแผ่นดินไทย เอาแผนที่ให้เขาดู หากล้ำเขตเข้ามาจะว่าอย่างไร
เขาก็จะอ้างแผ่นดินเขา หากไม่ถอนกำลังออกไป จะใช้วิธีเบาไปหาหนักผลักดันออกไป
ทุกพื้นที่ หากแม่ทัพยังเป็นแม่ทัพอยู่ รุกล้ำเข้ามา แม่ทัพเข้าตีอย่างเดียว…ไม่คุย ผมมีหน้าที่ปกป้องอธิปไตย ตามรัฐธรรมนูญ ผมมาเพื่อสิ่งนี้ เพื่อขับไล่ศัตรูออกจากแผ่นดินใหญ่ให้รวดเร็ว"
นักเรียนถาม “เหนื่อยกับอะไรมากที่สุด?”
แม่ทัพตอบ “ไม่เคยเหนื่อย การทำหน้าที่เพื่อประเทศชาติ เพื่อแผ่นดิน ไม่มีเวลาป่วยไข้หรือทะเลาะกับคนในประเทศ
มีอย่างเดียว ไล่ศัตรูออกจากเขตประเทศ หากแม่ทัพไม่เข้มแข็งจะทำอย่างไร
เพราะฉะนั้น คำว่าเหนื่อยไม่มี พร้อมที่จะทำหน้าที่เพื่อปกป้องชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ และประชาชน”
ท่านยังฝากถึงเด็กๆ เรื่องการเสพสื่อ ว่าหากเป็นเรื่องแตกความสามัคคี ใส่ร้าย ทำลายชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ และประชาชน ให้เกิดปัญหา
ขอให้คิดก่อนว่า “จริงหรือไม่” อย่าไปเชื่อง่ายๆ ต้องมีสติ หาข้อมูลจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้องได้
และขอให้ยึดมั่น ในห้วงเวลาที่ประเทศชาติเป็นอย่างนี้ นับจากวันนี้เป็นต้นไป อยากให้คนไทยกลับมาดูผืนธงชาติไทย
จำให้ดีว่า สิ่งเหล่านี้ จะต้องอยู่กับแผ่นดินไทยชั่วลูก-ชั่วหลาน เราจะต้องช่วยกันรักษา “สีธงชาติ” ให้ครบ
แดง คือชาติ เสียสละเลือดบรรพบุรุษ รักษาแผ่นดิน
ขาว คือศาสนา ยึดถือยึดมั่นในความดี
น้ำเงิน คือพระมหากษัตริย์ เป็นองค์ที่ก่อบ้าน-สร้างเมืองตั้งแต่โบราณ เป็น “จอมทัพ” นำคนไทยต่อสู้ จนมีแผ่นดินอยู่ทุกวันนี้
นั่นเป็นเรื่องพูดคุยระหว่างแม่ทัพภาคกับเด็กๆ สาธิตเกษตรฯ ซึ่งเป็นนิมิตหมายที่ดีงามมาก
ก็กลับมาคุยเรื่องของเราบ้าง เขมรกับไทยนั้น ไม่จบง่ายๆ หรอก ที่จะจบแบบง่ายๆ ก็ “ตัวฮุน เซน” เองนั่นแหละ
ดูๆ ไป “พ่อลูกตระกูลฮุน” กับ “พ่อลูกตระกูลชิน” ชะตาอนาคตดูจะไม่ต่างกันซักเท่าไหร่?
การเสื่อมอำนาจของตระกูลฮุนในเขมรกำลังเดินไปสู่จุดล่มสลาย ก็คล้ายๆ “ตระกูลชิน” ตอนนี้ ทั้งพ่อ-ทั้งลูก หน้าระรื่น แต่ขมขื่นในทรวง
๒๒ สิงหา. ศาลอาญา ตัดสินชะตาทักษิณ ในความผิดตามมาตรา ๑๑๒
๒๙ สิงหา. ศาลรัฐธรรมนูญ ตัดสินชะตาอุ๊งอิ๊ง ในความผิดฐานไม่มีความซื่อสัตย์สุจริตเป็นที่ประจักษ์
และมีพฤติกรรมฝ่าฝืนหรือไม่ปฏิบัติตามมาตรฐานทางจริยธรรมอย่างร้ายแรง ในกรณีคลิปสนทนาอุ๊งอิ๊งกับฮุน เซน
ตอนนี้ ในตลาดต่อรองกัน ๒ ประเด็น
-“อุ๊งอิ๊ง” จะชิงลาออกก่อนศาลมีคำวินิจฉัยหรือไม่?
-“ทั้งพ่อ-ทั้งลูก” จะอยู่หรือหนี?
ประเด็นสองพ่อลูกอยู่หรือหนีนั้น น้ำหนักอยู่ที่ทักษิณ ประเมินแล้ว ทักษิณมั่นใจว่ารอด
ฉะนั้น ไม่น่าจะหนี
ส่วนอุ๊งอิ๊งจะลาออกก่อนศาลจะมีคำวินิจฉัยหรือไม่นั้น ก็ต้องรอดูผลวันที่ ๒๒ สิงหา.
ถ้าพ่อติด โอกาสอุ๊งอิ๊งชิงลาออกเพื่อรักษาสิทธิทางการเมืองมีโอกาสสูง
ถ้าพ่อรอด อุ๊งอิ๊งน่าจะรอฟังคำวินิจฉัยศาลวันที่ ๒๙ สิงหา. เพราะมั่นใจกำลังภายในพ่อแผ่คุ้มถึงลูกด้วย!?
แต่ไม่ต้องห่วงหรอก ถ้าทักษิณรอด วันที่ ๒๒ สิงหา.
วันที่ ๙ กันยา. ในคดี “ป่วยทิพย์” ชั้น ๑๔
“ศาลฎีกาแผนกคดีอาญานักการเมือง” มีคำสั่งให้ทักษิณไปฟังคำสั่ง และให้ “ผบ.เรือนจำพิเศษกรุงเทพฯ” ไปฟังด้วย
คดีนี้ “รอดยาก”!
เช่นเดียวกับอุ๊งอิ๊ง ถ้ารอดกรณีคลิปสนทนากับอังเคิล ก็จะไปเจอคดีมาตรา ๑๔๔
ที่จัดทำร่าง พ.ร.บ.งบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ ๒๕๖๘ ฝ่าฝืนบทบัญญัติแห่งรัฐธรรมนูญ มาตรา ๑๔๔ วรรคหนึ่งและวรรคสอง
เรื่องอยู่ใน ป.ป.ช.รอมร่อจะส่งศาลรัฐธรรมนูญ ถ้าถึงศาลเมื่อไหร่ “ตายยกเข่ง” ไปหมดทั้งรัฐบาล-รัฐสภา!
ฉะนั้น ยังมีอีกหลายด่าน ยิ่งตอนนี้เข้าสู่ยุค “กรรมเช็กบิล” จึงยากจะรอดได้ทั้งหมด
อย่างคดีคลิปเสียงอุ๊งอิ๊งกับฮุน เซน ดูคำชี้แจงที่คณะหลี่กงกงเขียนส่งให้ศาลแล้ว ประเด็นที่พูดว่า
“แม่ทัพภาคที่ ๒ เป็นคนฝั่งตรงข้ามกับเราหมดเลย” ก็ดี…“อยากได้อะไร ให้ท่านบอกมาได้เลยค่ะ เดี๋ยวจะจัดการให้” ก็ดี
เหล่านี้ จะอ้างว่าไม่มีเจตนาตามที่พูด…เป็นเทคนิคในการเจรจา มันฟังไม่ขึ้นหรอก
การกระทำ คือที่พูดนั่น มันบ่งบอกเจตนาชัดอยู่แล้ว จะอ้างว่าไม่เจตนา ศาลท่านไม่ฟังหรอก!
ดูดาวแล้ว ๒๙ สิงหา.นี้ ริบหรี่เต็มทน!.
-เปลว สีเงิน
๑๕ สิงหาคม ๒๕๖๘
คนปลายซอย