ปรับตัวสู้ภาษีทรัมป์! อินเดียและจีนเล็งฟื้นฟูการค้าชายแดน
อินเดียและจีนกำลังหารือกันเกี่ยวกับการกลับมาเปิดการค้าชายแดนอีกครั้ง หลังจากที่ถูกระงับไปเมื่อ 5 ปีก่อน เนื่องจากภาษีศุลกากรของสหรัฐฯ กำลังส่งผลกระทบต่อระเบียบการค้าโลก
แฟ้มภาพ กองทัพอินเดียและจีนทักทายกันตามแนวเส้นควบคุมแท้จริง (Line of Actual Control) ใกล้ช่องเขาคาราโครัมในลาดักห์ (Photo by Indian Army / AFP)
เอเอฟพีรายงาน เมื่อวันพฤหัสบดีที่ 14 สิงหาคม 2568 กล่าวว่า อินเดียและจีนกำลังหารือกันเกี่ยวกับการกลับมาเปิดการค้าชายแดนอีกครั้ง หลังจากที่ถูกระงับไปเมื่อ 5 ปีก่อน เนื่องจากภาษีศุลกากรของสหรัฐฯ กำลังสั่นคลอนเส้นทางพาณิชย์ของทั้งสองชาติ
การค้าที่ผ่านมาระหว่างประเทศเพื่อนบ้านผ่านช่องเขาหิมาลัยมักจะมีปริมาณไม่มากนัก แต่การกลับมาเปิดการค้าชายแดนอีกครั้งก็มีความสำคัญอย่างยิ่งในเชิงสัญลักษณ์
มหาอำนาจทางเศรษฐกิจทั้งสองประเทศต่างแข่งขันกันเพื่ออิทธิพลเชิงยุทธศาสตร์ในภูมิภาคเอเชียใต้มาอย่างยาวนาน
อย่างไรก็ตาม ทั้งสองประเทศซึ่งติดอยู่ในภาวะผันผวนทางการค้าโลกและภูมิรัฐศาสตร์อันเนื่องมาจากนโยบายภาษีศุลกากรของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ได้กลับมาเริ่มดำเนินการฟื้นฟูความสัมพันธ์อีกครั้ง
สื่ออินเดียรายงานว่า หวัง อี้ รัฐมนตรีต่างประเทศจีนจะเปิดการเจรจาที่กรุงนิวเดลีในต้นสัปดาห์หน้า หลังจากที่สุพรหมณยัม ชัยศังกระ รัฐมนตรีต่างประเทศอินเดียได้เดินทางเยือนกรุงปักกิ่งเมื่อเดือนที่แล้ว
ข้อตกลงดังกล่าว รวมถึงข้อตกลงในการกลับมาให้บริการเที่ยวบินตรงและออกวีซ่าท่องเที่ยว ถือเป็นความพยายามที่จะสร้างความสัมพันธ์ที่บอบช้ำหลังจากเหตุการณ์ปะทะกันที่ชายแดนระหว่างทหารในปี 2020
"ความร่วมมือด้านการค้าชายแดนระหว่างจีนและอินเดียมีบทบาทสำคัญในการพัฒนาคุณภาพชีวิตของประชาชนที่อาศัยอยู่ตามแนวชายแดนมาเป็นเวลานาน" กระทรวงการต่างประเทศจีนกล่าวในแถลงการณ์ที่ส่งถึงสำนักข่าวเอเอฟพี
กระทรวงฯกล่าวว่าทั้งสองฝ่ายได้บรรลุฉันทามติเกี่ยวกับการแลกเปลี่ยนและความร่วมมือข้ามพรมแดน รวมถึงการฟื้นฟูการค้าชายแดน
กีร์ตี วาร์ธาน ซิงห์ รัฐมนตรีช่วยต่างประเทศอินเดียกล่าวต่อรัฐสภาเมื่อสัปดาห์ที่แล้วว่า "อินเดียได้ร่วมมือกับฝ่ายจีนเพื่ออำนวยความสะดวกในการกลับมาเปิดการค้าชายแดนอีกครั้ง"
อย่างไรก็ตาม ทั้งสองฝ่ายยังไม่ได้กำหนดวันเริ่มต้นของการดำเนินการดังกล่าว
รัฐบาลสหรัฐฯ หลายสมัยมองว่าอินเดียเป็นพันธมิตรที่มีผลประโยชน์ร่วมกันมายาวนานในประเด็นจีน
อินเดียเป็นส่วนหนึ่งของพันธมิตรด้านความมั่นคงควอด (Quad) กับสหรัฐอเมริกา รวมถึงออสเตรเลียและญี่ปุ่น
อย่างไรก็ตาม ความสัมพันธ์ระหว่างรัฐบาลนิวเดลีและวอชิงตันตึงเครียดจากคำขาดของทรัมป์ที่ให้อินเดียยุติการซื้อน้ำมันรัสเซียที่เป็นแหล่งรายได้สำคัญต่อการเปิดฉากทางทหารในยูเครน
สหรัฐฯ จะขึ้นภาษีนำเข้าใหม่กับอินเดียเป็นสองเท่าจาก 25% เป็น 50% ภายในวันที่ 27 สิงหาคม หากรัฐบาลนิวเดลีไม่เปลี่ยนซัพพลายเออร์น้ำมันดิบ
โฆษกกระทรวงต่างประเทศอินเดียกล่าวกับผู้สื่อข่าวเมื่อวันพฤหัสบดีว่า ความร่วมมือระหว่างรัฐบาลนิวเดลีและวอชิงตันได้ฝ่าฟันผ่านช่วงเปลี่ยนผ่านและความท้าทายต่างๆ มามากมาย และอินเดียหวังว่าความสัมพันธ์จะยังคงดำเนินต่อไปบนพื้นฐานของความเคารพซึ่งกันและกันและผลประโยชน์ร่วมกัน
เขากล่าวว่า อินเดียพร้อมที่จะสนับสนุนความพยายามในการยุติสงครามยูเครน และสนับสนุนการประชุมสุดยอดระหว่างทรัมป์และประธานาธิบดีรัสเซียที่อะแลสกาในวันศุกร์นี้
สื่ออินเดียรายงานว่า นายกรัฐมนตรีนเรนทรา โมดี อาจเดินทางเยือนจีนในช่วงปลายเดือนสิงหาคมเช่นกัน ซึ่งจะเป็นการเยือนครั้งแรกของโมดีนับตั้งแต่ปี 2018 แม้ว่าจะยังไม่ได้รับการยืนยันอย่างเป็นทางการก็ตาม
ขณะที่รัฐบาลปักกิ่งกล่าวว่า จีนยินดีต้อนรับนายกรัฐมนตรีโมดีสำหรับการเปิดการประชุมสุดยอดองค์การความร่วมมือเซี่ยงไฮ้ในวันที่ 31 สิงหาคม.