"พล.อ.ณัฐพล" เผยไทย–กัมพูชาคลี่คลาย เห็นชอบ 3 ประเด็นสำคัญ RBC ที่สระแก้ว
พลเอกณัฐพล นาคพาณิชย์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงกลาโหม รักษาราชการแทนรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม เปิดเผยความก้าวหน้าการประชุมคณะกรรมการชายแดนส่วนภูมิภาค หรือ RBC ระหว่างไทย-กัมพูชา ที่จังหวัดสระแก้ว ว่า การหารือร่วมกับฝ่ายกัมพูชา มีพัฒนาการที่ดีอย่างต่อเนื่อง หลังจากก่อนหน้านี้ ได้จัดประชุมที่จังหวัดจันทบุรี ตราด และจะขยายไปยังกองทัพภาคที่ 2 ต่อไป ซึ่งถือเป็นสัญญาณเชิงบวกจากนโยบายส่วนกลางของกัมพูชา ที่ต้องการสร้างบรรยากาศความร่วมมือ และแม้กระบวนการเจรจา ยังไม่สามารถคาดหวังผลสำเร็จในระยะสั้น แต่การที่กัมพูชาเข้าร่วมกลไกการหารือ ทั้งระดับ JBC, GBC และ RBC นับเป็นพัฒนาการสำคัญ และล่าสุดยังมีข้อเสนอให้ตั้งคณะกรรมการชายแดนระดับพื้นที่ หรือ TBC เพิ่มเติม ซึ่งถือเป็นก้าวที่ดีต่อความสัมพันธ์ โดยไทยจะประเมินผลเป็นระยะ เพื่อให้การเจรจาดำเนินไปอย่างรอบคอบ
สำหรับการดูแลเชลยศึก พลเอกณัฐพล ยืนยันว่า ไทยปฏิบัติตามอนุสัญญาเจนีวาอย่างเคร่งครัด โดยอยู่ภายใต้การกำกับดูแลของคณะกรรมการกาชาดระหว่างประเทศ หรือ ICRC ซึ่งได้ตรวจเยี่ยมแล้ว และแสดงความพึงพอใจต่อการดูแลเชลยของฝ่ายไทย
ทั้งนี้ พลเอกณัฐพล ระบุว่า สถานการณ์ชายแดนไทย–กัมพูชา แม้ยังไม่ยุติอย่างสิ้นเชิง แต่มีแนวโน้มคลี่คลายดีขึ้นตามลำดับ ขณะเดียวกัน สภาความมั่นคงแห่งชาติ และคณะรัฐมนตรี จะเป็นผู้กำหนดทิศทางและกรอบการเจรจา เพื่อให้การทำงานของกองทัพ และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เป็นไปอย่างเป็นระบบ และได้รับการเห็นชอบตามขั้นตอน โดยย้ำว่า การดำเนินงานทั้งหมดอยู่ภายใต้กรอบอำนาจที่กฎหมายกำหนด ส่วนกรณีบันทึกความเข้าใจ หรือ MOU ปี 2543–2544 นั้น เป็นอำนาจของรัฐบาลและสภาผู้แทนราษฎรที่จะพิจารณา โดยฝ่ายความมั่นคงพร้อมปฏิบัติตามมติของสภาอย่างเคร่งครัด
ทั้งนี้ที่สโมสรสรนายทหาร มณฑลทหารบกที่ 19 พลโทอมฤต บุญสุยา แม่ทัพภาคที่ 1 หลังจากที่ได้ร่วมกับ พล.อ.แอก ซอมโอน ผู้บัญชาการภูมิภาคทหารที่ 5 (ฝ่ายกัมพูชา) พร้อมคณะกรรมการจากฝ่ายไทยและฝ่ายกัมพูชา นั่งประชุมแยกโต๊ะคนละฝั่งหันหน้าเข้าหากัน การประชุมดังกล่าวใช้เวลาประมาณ 40 นาทีจึงแล้วเสร็จ จากนั้นก็ได้มีการกล่าวขอบคุณซึ่งกันและกัน ก่อนจะทำการลงนามในสมุดและจับมือกัน ได้นำแถลงสรุปผลการประชุมว่า ทั้ง 2 ฝ่าย ตกลงด้วยดี ตอบรับ 13 ข้อตกลงหยุดยิง จากการประชุม GBC ที่ผ่านมา นอกจากนี้ที่ประชุมได้เห็นชอบเพิ่มเติม 3 ประเด็น จากที่ไทยเสนอ 4 ประเด็น คือ
1. ทั้งสองฝ่ายเห็นชอบร่วมกัน ดำเนินการร่วมมือกำจัดทุ่นระเบิดเพื่อมนุษยธรรมโดยพิจารณาให้หารือร่วมกันในการประชุม GBC ครั้งต่อไป
2. ทั้งสองฝ่ายเห็นชอบร่วมกัน ร่วมมือประสานงานกันแก้ปัญหาอาชญากรรมข้ามชาติ โดยเฉพาะแก๊งคอลเซ็นเตอร์ โดยให้ใช้เวทีมหาดไทยกัมพูชา หารือหน่วยงานที่เกี่ยวข้องของไทย และเห็นควรให้เสนอหารือร่วมกัน GBC ครั้งต่อไป
3. ทั้งสองฝ่ายเห็นชอบ ให้มีกลไกแก้ปัญหา ด้วยการจัดตั้งชุดประสานงาน Coordination Group (CG) และคณะกรรมการชายแดนส่วนท้องถิ่น เพื่อเป็นกลไกรองรับคณะ RBC ในการแก้ไขปัญหาระดับพื้นที่
ส่วนข้อที่ 4 ในการแก้ไขปัญหาการละเมิด MOU43 ฝ่ายกัมพูชาขอให้ใช้กลไกอื่นในการหารือ เพราะไม่ได้อยู่ในอำนาจของ RBC โดยฝ่ายไทยยืนยันเสนอให้ฝ่ายกัมพูชาได้ทราบว่าเป็นพื้นที่ที่สำคัญ และได้แจ้งเจตนารมณ์ที่ชัดเจนของฝ่ายไทยในการแก้ไขปัญหา
ทั้งนี้ แม่ทัพภาคที่ 1 ย้ำว่า เรื่องนี้กัมพูชาขอไปใช้กลไก JBC หรือคณะกรรมาธิการร่วมเขตแดนไทยกัมพูชาแทน แต่อย่างไรก็ตามเรื่องนี้ก็ต้องเสนอผ่านกลไก GBC