รวบหนุ่มพนักงานขับรถส่งอาหาร เอี่ยวบัญชีม้าใช้หลอกลงทุนเทรดหุ้น เสียหายรวม 2,000,000 บาท
รวบหนุ่มพนักงานขับรถส่งอาหาร เอี่ยวบัญชีม้าใช้หลอกลงทุนเทรดหุ้น เสียหายรวม 2,000,000 บาท
กองบังคับการปราบปรามการกระทำผิดเกี่ยวกับ อาชญากรรมทางเศรษฐกิจ (บก.ปอศ.) โดย พล.ต.ต.ทัศน์ภูมิ จารุปรัชญ์ ผบก.ปอศ. พร้อมกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจ กก.5 บก.ปอศ. ร่วมกันจับกุม นายทัด (นามสมมุติ) อายุ 21 ปี ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลจังหวัดนางรอง ลงวันที่ 14 สิงหาคม 2568 จับได้ที่ชุมชนพัฒนา 79 แขวงบางพลัด เขตบางพลัด กรุงเทพมหานคร
เพื่อดำเนินคดีในความผิดฐาน “เปิดหรือยินยอมให้บุคคลอื่นใช้บัญชีเงินฝาก โดยมิได้มีเจตนาใช้เพื่อตน โดยประการที่รู้หรือควรรู้ว่าจะนำไปใช้ในการกระทำความผิดเกี่ยวกับอาชญากรรมทางเทคโนโลยีหรือความผิดทางอาญาอื่นใด , สนับสนุนฉ้อโกงและสนับสนุนนำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์อันเป็นเท็จโดยประการ ที่น่าจะเกิดความเสียหายต่อบุคคลหนึ่งบุคคลใด”
สืบเนื่องจากเมื่อประมาณเดือน เม.ย.2568 มีผู้เสียหายแจ้งความให้ดำเนินคดีกับนายฐากูรฯ เนื่องจาก ถูกหลอกให้ร่วมลงทุนเทรดหุ้นแพลตฟอร์มชื่อ “LBank” เมื่อผู้เสียหายโอนเงินไปแล้วไม่สามารถถอนเงินได้ กลับยังให้ผู้เสียหายโอนเงินเพิ่มอีกหลายครั้ง จนเสียเงินกว่า 800,000 บาท เจ้าหน้าที่ตำรวจได้ทำการสืบสวน สอบสวน จนสามารถออกหมายจับนายฐากูรฯ กับพวก เพื่อนำตัวมาดำเนินคดีตามกฎหมาย
ต่อมาตามวันและเวลาเกิดเหตุ เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดจับกุมได้รับแจ้งจากสายลับ ว่านายทัด (นามสมมุติ) อายุ 21 ปี ผู้ต้องหา ในคดีนี้ ได้หลบหนีมาพักอยู่ในชุมชนพัฒนา 79 แขวงบางพลัด เขตบางพลัด กรุงเทพมหานคร เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดจับกุมจึงได้เฝ้าติดตามสะกดรอย จนกระทั่งพบบุคคลซึ่งมีตำหนิรูปพรรณตรงกับบุคคคล ตามหมายจับตามที่ สายลับได้แจ้งไว้ เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงได้แสดงตัวเป็นเจ้าหน้าที่ตำรวจและแสดงหมายจับให้ นายฐากูรฯ ดูและได้แจ้งข้อกล่าวหาตามหมายจับข้างต้นให้ทราบพร้อมทั้งสิทธิ จากการสอบถามนายทัด (นามสมมุติ) อายุ 21 ปี ยอมรับว่าเป็นบุคคลคนเดียวกันกับหมายจับและยังไม่เคยโดนจับในคดีนี้มาก่อน จึงได้เชิญมา กก.5 บก.ปอศ. เพื่อทำบันทึกการจับกุม และนำตัว นายฐากูรฯ ส่ง พนักงานสอบสวน สภ.โนนดินแดง เพื่อดำเนินการตามกฎหมาย ต่อไป
เบื้องต้นผู้ต้องหาให้การว่าได้ขายบัญชีให้กับเพื่อนที่รู้จักกันพาไปเปิดบัญชี ธนาคารทั้งหมด 5 บัญชี จากหลายธนาคาร โดยได้เงินค่าเปิดบัญชีธนาคารบัญชีละ 2,000 บาท รวมเป็นเงิน 10,000 บาท และมีการเดินทางไปที่ จ.ตาก เพื่อไปสแกนใบหน้า ส่วนค่าเดินทางและที่พักอาศัยบุคคลที่รับซื้อบัญชี จะเป็นคนจัดการให้โดยไปครั้งละประมาณ 2-3 วัน ทำมาแล้วหลายครั้ง ส่วนการที่ผู้เสียหายถูกหลอกลงทุน นั้นตนไม่ทราบและไม่ได้เป็นคนหลอกลงทุนแต่อย่างใด